เมื่อวันที่ 8 มกราคม 65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายประยุทธ เพชรคุณ รองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ ในฐานะคณะกรรมการอัยการผู้รงคุณวุฒิ ได้ออกสาร เเจ้งถึงพนักงานอัยการทั่วประเทศให้ทราบถึงผลการประชุม ก.อ.
ความว่า ก.อ. ผู้ทรงคุณวุฒิของท่านได้ทำอะไรไปบ้าง ตามที่ พี่ ๆ เพื่อน ๆ และน้อง ๆ ชาวอัยการทั่วประเทศได้มอบ ความไว้วางใจให้ผมเข้าไปทำหน้าที่ ก.อ. ผู้ทรงคุณวุฒิ ตนขอกราบขอบคุณ ทุกท่านมาในโอกาสนี้อีกครั้ง ในการทำหน้าที่ ก.อ. ผู้ทรงคุณวุฒิ ในรอบ 2 เดือนที่ผ่านมา ตนขอรายงานภารกิจและการผลักดันตามวิสัยทัศน์ในที่ประชุม ก.อ. ดังนี้
1. การเผยแพร่มติหรือผลการประชุม ก.อ. ในวาระแรกที่มีการประชุม ก.อ. เมื่อวันที่ 23พ.ย. 65 ตนได้เสนอให้มีการเผยแพร่มติหรือผลการประชุม ก.อ. ภายหลังการประชุม เพื่อให้ข้าราชการฝ่ายอัยการทั่วประเทศได้รับทราบโดยทั่วกันทันที โดยตนได้นําร่องสรุปผลการประชุมที่ไม่ใช่ความลับของทางราชการ แจ้งให้ชาวอัยการ ได้ทราบโดยทั่วกันหลังจากที่มีการประชุม ก.อ. แล้วเสร็จ และเป็นเรื่องที่น่ายินดี อย่างยิ่ง ในการประชุมเมื่อวันที่ 15ธ.ค. 2565 ที่ผ่านมา สำนักงาน คณะกรรมการอัยการโดยอธิบดีอัยการในฐานะผู้ให้ข่าวตามระเบียบสำนักงาน อัยการสูงสุดว่าด้วยการให้ข่าวและบริการข่าวสาร พ.ศ. 2564 ได้เผยแพร่ ข่าวสารข้อมูลการประชุม ก.อ. อย่างเป็นทางการในวาระแรกและการเผยแพร่ เช่นนี้จะเกิดขึ้นในองค์กรอัยการตลอดไป
2. แนวทางการแต่งตั้งโยกย้ายที่ชัดเจน รวดเร็ว และเป็นธรรม ในการประชุม 2 ครั้งที่ผ่านมาตนได้อภิปรายสนับสนุนแนวทาง การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการอัยการให้ชัดเจน รวดเร็ว และเป็นธรรม ด้วยการเสนอให้มีการออกระเบียบสำนักงานอัยการสูงสุดเกี่ยวกับแนวทาง การแต่งตั้งโยกย้ายอัยการให้เป็นไปตาม พ.ร.บ. ระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการ พ.ศ. 2553 มาตรา 30 (11) ทั้งนี้ หากมีระเบียบดังกล่าวจะถือเป็นเครื่องมือ สําคัญในการบริหารงานบุคคลของฝ่ายบริหาร พร้อมกับอัยการทั่วประเทศ จะได้ทราบแนวทาง และการแต่งตั้งโยกย้ายของตัวเองที่ชัดเจนเป็นธรรม และวางแผนชีวิตราชการล่วงหน้าได้
3. ชื่นชมและสนับสนุนนโยบายของท่านนารี ตัณฑเสถียร อัยการสูงสุด การเพิ่มกรอบอัตรากำลังผู้กลั่นกรองงานและการจัดพนักงานอัยการ เข้าสู่ตำแหน่งวาระเดือน เม.ย. 66 ตนได้อภิปรายขอบคุณท่านนารี ตัณฑเสถียร อัยการสูงสุด ที่สนับสนุน แนวทางการเติบโตในชีวิตของข้าราชการอัยการเร็วขึ้น ด้วยการเพิ่มกรอบอัตรา ผู้กลั่นกรองงานจํานวน 132 อัตรา พร้อมกับการบริหารการจัดสรรงบประมาณ จนสามารถจัดพนักงานอัยการให้เลื่อนชั้นเข้าสู่ตำแหน่งได้ในวาระเม.ย. 2566 ทั้ง ๆ ที่ไม่มีการตั้งวงเงินงบประมาณไว้ก่อน ซึ่งได้อภิปราย ในที่ประชุมยืนยันว่า นี่คือผลงานชิ้นโบว์แดงของท่านนารี ตันฑเสถียร อัยการสูงสุด ซึ่งสามารถผลักดันได้ในขณะเข้ามาดำรงตำแหน่งได้เพียง 3 เดือน นับเป็นอัยการสูงสุดผู้หญิงคนแรกที่ทุ่มเทและพัฒนางาน ขององค์กรอัยการได้อย่างรวดเร็ว
4. การขับเคลื่อนเพื่อให้มีการปรับเปลี่ยนครุยพนักงานอัยการ ตนได้ขับเคลื่อนเพื่อปรับเปลี่ยนครุย พนักงานอัยการ โดยได้วางแนวทางไว้ 3 ขั้นตอน ดังนี้ 4.1 สำรวจความเห็นของพนักงานอัยการทั่วประเทศว่าควรปรับเปลี่ยน ครุยพนักงานอัยการหรือไม่ โดยการสอบถามความเห็นไปยังพนักงานอัยการ ทุกคนทั่วประเทศ ซึ่งได้ตอบแบบสำรวจฯ กลับมา 1,423 ราย (จากพนักงาน อัยการทั่วประเทศ 4000 กว่าราย) ถือว่าเป็นการตอบแบบสำรวจฯ โดยตัวอย่าง กลุ่มประชากรคิดเป็น 90.5% ของผู้ตอบแบบสํารวจฯ ต้องการปรับเปลี่ยน ส่วนกลุ่มประชากรคิดเป็น 9.5% เห็นว่าไม่ควรปรับเปลี่ยน โดยกลุ่มประชากร ที่มีความต้องการปรับเปลี่ยนเป็นอัยการชั้น 2, 3 และ 4 มากที่สุด รายละเอียด ปรากฏตามภาพ
ซึ่งข้อมูลดังกล่าวถือเป็นฐานข้อมูลเบื้องต้นที่จะนำเข้าหารือ ในคณะทำงานที่ผมเป็นเลขานุการ รวมทั้งจะได้นำกราบเรียนผู้บริหารต่อไป 4.2 เมื่อผ่านขั้นตอน 4.1 แล้ว และได้ข้อยุติว่าต้องปรับเปลี่ยนเสื้อครุย ในลำดับต่อไปจะได้หารือโดยสอบถามอัยการทั่วประเทศว่าจะปรับเปลี่ยน เสื้อครุยไปในแนวทางใด เพื่อหาข้อยุติร่วมกันในโอกาสต่อไป 4.3 หากผ่านขั้นตอน 4.1 และ 4.2 แล้วจะได้หาแนวทางที่จะจัดหา เสื้อครุยให้กับพนักงานอัยการผู้ปฏิบัติหน้าที่ทั่วประเทศ รวมทั้งพิธีมอบเสื้อครุย ข้าราชการอัยการบรรจุใหม่เช่นเดียวกับแนวทางของศาลยุติธรรม ทั้งนี้ เพื่อความภาคภูมิใจในวิชาชีพอัยการ รวมทั้ง สร้างประเพณีที่ดีงาม ด้วยการให้ครอบครัวของข้าราชการอัยการบรรจุใหม่ได้มาร่วมแสดงความยินดี ในพิธีมอบเสื้อครุยให้กับข้าราชการอัยการบรรจุใหม่ อย่างไรก็ตาม แนวทางการปรับเปลี่ยนเสื้อครุยในข้อที่ 4 ยังอยู่ในขั้นตอนที่จะต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เพื่อก้าวไปสู่ความสำเร็จ ในโอกาสต่อไป
5. การผลักดันวิสัยทัศน์ข้ออื่น ๆ สำหรับวิสัยทัศน์ของผมที่ได้เสนอผ่านสำนักงานคณะกรรมการอัยการ ไปแล้ว เช่น การแก้ไขระเบียบสำนักงานอัยการสูงสุดว่าด้วยการดำเนินคดีอาญา ของพนักงานอัยการในการสั่งไม่ฟ้องคดีสำคัญหรือคดีร้องขอความเป็นธรรม ด้วยการเขียนระเบียบใหม่ เพื่อให้อธิบดีอัยการเป็นผู้ตรวจสอบความเห็นและ คำสั่งของผู้บัญชาการภูธร ตำรวจภูธรภาค นอกจากนั้น ในเรื่องของการสนับสนุน ให้มีการจัดการศึกษาอบรมและศึกษาดูงานทั้งในและต่างประเทศ ให้กับข้าราชการฝ่ายอัยการ จะต้องเป็นระบบและต่อเนื่อง ในเรื่องดังกล่าว
ในเรื่องดังกล่าวอย่างเป็นรูปธรรมโดยจัดให้มีหลักสูตร เพื่อพัฒนาข้าราชการ ฝ่ายอัยการแล้วในปัจจุบัน ซึ่งจะมีการขับเคลื่อนอย่างต่อเนื่องตลอดไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับ นายประยุทธ ได้รับเลือกตั้งเป็น ก.อ.ผู้ทรงคุณวุฒิ(เลือกตั้งซ่อม)ที่มาจากอัยการชั้น 5 ขึ้นไป ด้วยคะเเนนสูงสุดเป็นอันดับ 1