วันที่ 7 ม.ค.66 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีนายชาลี อายุ 38 ปี ชาวอ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น หรือมนุษย์ต้นไม้สร้างกระท่อมพักอาศัยอยู่บนต้นอะลางสูงเกือบ 10 เมตรในป่ารกร้าองที่ดินเอกชนในเมืองอุดรธานี โดยเจ้าตัวหลับนอนอยู่บนนั้น ไร้เสียงสีแสงและผู้คนรบกวนมานานกว่า 3 ปีแล้ว สำหรับบ้านต้นไม้ของนายชาลีสร้างมาจากเศษไม้วัสดุที่เหลือใช้ ใช้ไม้เศษที่เก็บมาได้ โดยทำขึ้นมาแบบง่ายๆนำไม้ไปวางและมัดโดยเชือกโดยไม่ยึดติดกับต้นไม้เพื่อเป็นการให้ต้นไม้ได้ขยายตัว ส่วนหลังคาก็มุงด้วยผ้าใบ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องสุดแปลกของนายชาลี ที่มีบ้านอยู่บนต้นไม้

ทั้งนี้นายชาลี บอกว่า เดิมทีตนเป็นชาวอำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น มีพี่น้องร่วมกัน 5 คน ก่อนหน้านี้เคยทำงานที่กรุงเทพมหานคร ทำงานหาเงินได้ก็ส่งกลับมาดูแลทางบ้าน แต่เพราะสถานการณ์ด้านเศรษฐกิจไม่ดี จึงเดินทางกลับมาทำงานรับจ้างทั่วไปใกล้บ้านแถวจังหวัดขอนแก่นและอุดรธานี และทำงานรับจ้างทั่วไปที่จังหวัดอุดรธานีมานานเกือบ 7 ปี แล้วก่อนหน้านี้ก็เช่าบ้านแต่เพราะเศรษฐกิจแย่ลงประกอบกับโรคระบาดโควิด 19 ระบาดจน รายได้ก็ไม่ดีเลยติดหนี้ค่าเช่าหอประมาณ 3,000 บาทจึงย้ายออกมาสร้างกระท่อมบนต้นไม้นานเกือบ 3 ปีแล้วและเงินค่าเช่าก็ใช้หนี้ไปหมดแล้ว ทุกวันนี้ใช้ชีวิตแบบเรียบง่ายตื่นเช้ามาก็มีงานก็ออกไปรับจ้าง ส่วนกับข้าวบางทีก็ไปขอที่วัดและขอกับคนรู้จักบ้างซึ่งคนแถวนี้ใจดี

ล่าสุดวันนี้ (7 ม.ค.) เจ้าหน้าที่พัฒนาความมั่งคงของมนุษย์จังหวัดอุดรธานี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดอุดรธานี และเจ้าหน้าที่เทศกิจเทศบาลนครอุดรธานี ได้ลงพื้นที่เก็บข้อมูลสอบถามข้อเท็จจริงและให้ความช่วยเหลือนายชาลี โดยเจ้าหน้าที่ฯ ได้ชี้แจงให้กับนายชาลีว่า หากไม่อยากอยู่บนต้นไม้สามารถมาขออยู่ที่ศูนย์คนไร้ที่พึ่งจังหวัดอุดรธานีได้ ซึ่งศูนย์มีทั้งที่พักที่นอนและอาหาร 3 มื้อ ซึ่งถือว่าปลอดภัยกว่าอยู่บนต้นไม้ โดยนายชาลีฯ ก็รับฟังแต่ก็ยืนยันจะขออยู่บนต้นไม้เช่นเดิม แต่ขอให้ช่วยหางานให้ทำก็เพียงพอ

ด้านเจ้าหน้าที่ฯ เปิดเผยว่า การที่เจ้าที่เดินทางมาวันนี้ไม่ได้จะเอาผิดอะไรแต่เราอยากจะให้ความช่วยเหลือเท่าที่พูดคุยตอนนี้คุณชาลี อยากจะนอนอยู่บนต้นไม้เช่นเดิม แต่อยากให้ทางเจ้าหน้าที่ช่วยเรื่องอาหารและการทำงานอย่างไรก็ดีเราจะช่วยประสานทางจัดหางานช่วยดูในเรื่องงานต่อไป โดยขอให้พี่ชาลีนำเอกสารมายืนยันตัวตนให้แน่ชัด จากนี้ก็จะนำข้อมูลที่ได้เข้าที่ประชุมกับผู้ว่าราชการจ.อุดรธานีต่อไป