ว่าที่ผู้สมัครสส.ตราดเปลี่ยนพรรควุ่น หลังหัวหน้าทีมย้ายขั้วการเมืองแม้เปิดตัวแล้วยังเปลี่ยนทั้งสร้างอนาคตไทยและพลังประชารัฐ หลายคนรอชัดเจน ระบุตราดเปิดตัวแล้ว 12 คน
จ.ตราด/ความเคลื่อนไหวของว่าที่ผู้สมัครรับเลือกตั้งสส.ตราดของนักการเมืองในจังหวัดตราดในช่วง 3-4 เดือนที่ผ่านมา มีการเปิดตัวของว่าที่ผู้สมัครรับเลือกตั้งสส.ตราดหลังจากวาระการดำรงตำแหน่งของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเหลือเพียงไม่กี่เดือน แต่ปรากฏว่า เมื่อมีการประกาศตัวอย่างเป็นแล้วกลับต้องมายกเลิกหลังสถานการณ์ในระดับชาติเปลี่ยนและหัวหน้าทีมมีการย้ายขั้วกัน
โดยที่ผ่านมานายพิชัย วิสุทธิแพทย์ อดีตนายกทต.หนองเสม็ด อ.เมือง จ.ตราด 2 สมัย ประกาศตัวลงเลือกตั้งสส.ตราดในนามพรรคเศรษฐกิจไทยที่มีร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา และอดีตหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย เป็นหัวหน้าพรรค แต่สุดท้ายเมื่อร.อ.ธรรมมนัส พรหมเผ่าลาออกและอาจจะเข้าพรรคพลังประชารัฐทำให้นายพิชัย วิสุทธิแพทย์ต้องกลับตัวใหม่เพราะได้รับสัญญานจากนายประมวล เอมเปียว่ายังต้องรอความชัดเจนว่าจะเข้าสังกัดพรรคไหน ซึ่งนายพิชัย กล่าวว่า ตอนนี้ต้องรอความชัดเจนจากนายประมวล เอมเปียว่าจะขยับไปสังกัดพรรคไหน ซี่งน่าจะต้องหยุดเคลื่อนไหวทางการเมืองไปก่อนจนกว่าจะมีความชัดเจน แต่หากยังไม่สามารถได้พรรคการเมืองที่ทำประโยชน์ให้กับจังหวัดตราดได้มากก็อาจจะไม่ลงสมัครรับเลือกตั้งในครั้งนี้
ขณะที่นายกิตติธัช ไชยอรรถ ที่ก่อนหน้านี้อยู่ในทีมของนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม ซึ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีด้วย และทำโครงการพัฒนาอาชีพดีพร้อมให้กับกระทรวงอุตสาหกรรมจำนวน 80โครงการ มีชาวตราดกว่า 10,000 คนเข้าร่วมโครงการ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้เปิดตัวกับพรรคสร้างอนาคตไทยไปแล้วอย่างเป็นทางการ แต่เมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงในขั้วของนายสุชาติ ชมกลิ่น ที่ย้ายไปอยู่ในพรรครวมไทยสร้างชาติ ทำให้นายประทีป เลขาพันธ์ ที่เป็นตัวลงสมัครลงสส.ตราดในนามพรรคพลังประชารัฐไปแล้ว และมีการสร้างสำนักงานพรรคพลังประชารัฐอย่างใหญ่โตสุดท้ายต้องปลดป้ายทั้งหมดออกเพื่อเตรียมเปิดตัวอยู่ในสังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติ ตามหัวหน้าทีมคือนายสุชาติ ชมกลิ่นต่อไป
นายกิตติธัช กล่าวว่า ได้ทำงานให้กับพรรคพลังประชารัฐมาอย่างต่อเนื่องในนามที่ปรึกษาและลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชนและช่วยเหลือประชาชนมาอย่างต่อเนื่อง แต่สุดท้ายต้องตัดสินลงในนามพรรคสร้างอนาคตไทย แต่สุดท้ายกลับตัวเมื่อภายในพรรคสร้างอนาคตไทยยังมีความไม่แน่นอน เพราะมีการรวมพรรคกัน 1-2 พรรค จึงตัดสินใจลงสมัครพรรคพลังประชารัฐหลังผู้สมัครเดิมต้องถอนตัวออกไป ซึ่งได้รับการสนับสนุนด้วยดี
ขณะที่นายศักดินัย นุ่มหนู สส.ตราดพรรคก้าวไกล เปิดเผยผ่านเฟสบุ๊คส่วนตัวว่า “ผมขอยืนหยัดทำงานการเมืองกับพรรคก้าวไกลไม่เคยสนใจไม่เคยหวั่นไหวกับสิ่งล่อใจทางการเมือง ให้ต้องมาทรยศต่ออุดมการณ์ ทรยศต่อประชาชนชาวตราดที่อุตส่าห์ให้ความไว้วางใจต่อกระผมในครั้งเลือกตั้งที่ผ่านมาในปี 2562
ขอให้พี่น้องชาวตราดมั่นใจในตัวกระผม ผมไม่มีวันทรยศขายตัวเพียงเพื่อเห็นแก่เงิน แม้นผมไม่ใช่คนมีฐานะร่ำรวยแต่เงินที่มาจากการซื้อขายทางการเมือง ผมถือว่ามันคือสิ่งสกปรก"ผมรับไม่ได้”
สำหรับเขตการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจ.ตราด มีเพียง 1 เขตเลือกตั้ง โดยการเลือกตั้งในปี 2566 มีผู้ประกาศตัวจะลงสมัครสส.ตราดแล้ว จำนวน 12พรรคการเมือง คือ
1. นายศักดินัย นุ่มหนู พรรคก้าวไกล
2. นายวศิน พงษ์ศิริ พรรคภูมิใจไทย
3. นายธีระ สลักเพชร พรรคประชาธิปัตย์
4. นายประทีป เลขาพันธ์ (คาดว่า)พรรครวมไทยสร้างชาติ
5. นายกิตติธัช ไชยอรรถ พรรคพลังประชารัฐ
6. นายทินวัฒน์ เจียมอุย พรรคเพื่อไทย
7. นายพิชัย วิสุทธิแพทย์ พรรคเพื่อแผ่นดิน
8. นายลือเกษ ยิสารคุณ พรรคเสรีรวมไทย
9. นายวีระชัย จูห้อง พรรคเเผ่นดินไทย
10. นายกฤติเดชกรกฤษ สุขเกียรติกังวล พรรคชาติพัฒนากล้า
11. นายเชษฐ์ฐา ทองเพิ่ม พรรคทางเลือกใหม่
12. นายมานพ ระวัง พรรคท้องที่ไทย
ในส่วนของตัวเต็งที่น่าจับตาในการเลือกตั้ง ครั้งนี้ประกอบด้วย นายทินวัฒน์ เจียมอุย จากพรรคเพื่อไทย ที่ปัจจุบันเป็นรองนายกอบจ.ตราด ที่มีกลุ่มลูกเมืองตราดที่มีฐานสมาชิกสภาอบจ.ตราดสนับสนุน และมีนายวิเชียร ทรัพย์เจริญ นายกอบจ.ตราดเป็นผู้สนับสนุน
นายวศิน พงษ์ศิริ จากพรรคภูมิใจไทย ที่ได้รับความนิยมสูงขึ้นหลังพ่ายแพ้การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ได้ออกหาเสียงและผลักดันนโยบายของพรรคภูมิใจไทยและแก้ปัญหาต่างๆของจังหวัดตราดได้ และได้แรงสนับสนุนจากประชาชนเพิ่มขึ้นมาก โดยเฉพาะกลุ่มข้าราชการและองค์กรเอกชน ขณะที่นายศักดินัย นุ่มหนู สส.ตราดยังมีฐานฐานคะแนนนิยมส่วนตัวที่เพิ่มขึ้น นอกเหนือจากคะแนนจากพรรคก้าวไกล และนายธีระ สลักเพชร อดีตสส.ตราด 5 สมัย จากพรรคประชาธิปัตย์ รวมทั้งนายกิตติธัช ไชยอรรถ จากพรรคพลังประชารัฐ