จากกรณีที่เมื่อวันที่ 20 ก.ย.65 ที่ผ่านมา ผู้ปกครองได้พาบุตรชาย อายุ 16 ปี เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.จักราช จ.นครราชสีมา ว่า​ ถูก นายชุติเดช  ทองอยู่ หรือครูเทียม อายุ 60 ปี ประกอบอาชีพคอมเมนเตเตอร์ รายการโทรทัศน์ชื่อดัง และออกแบบท่าเต้นให้กับนักร้องและแดนเซอร์ พาไปกระทำอนาจารในห้องพักพื้นที่ ต.ยายแย้มวัฒนา อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำหมายศาลเข้าค้นบ้านพักครูเทียม  พร้อมนำตัวมาพบพนักงานสอบสวน และแจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดีในความผิดฐาน “พรากผู้เยาว์อายุกว่าสิบห้าปีแต่ไม่เกินสิบแปดปีไปเสียจากบิดา มารดา ผู้ปกครองหรือผู้ดูแล โดยปราศจากเหตุสมควรเพื่อการอนาจาร, พาผู้อื่นไปเพื่อการอนาจาร โดยใช้อุบายหลอกลวง ขู่เข็ญ ใช้กำลังประทุษร้าย ใช้อำนาจครอบงำผิดคลองธรรม หรือใช้วิธีข่มขืนใจด้วยวิธีอื่นใด, กระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่าสิบห้าปีโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยบุคคลนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ หรือทำให้บุคคลนั้นเข้าใจผิดว่าตนเป็นบุคคลอื่น” และล่าสุดทางพนักงานอัยการนครราชสีมามีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหา  ขณะนี้อยู่ระหว่างการปล่อยตัวชั่วคราว และจะนัดทั้งสองฝ่ายมาสืบพยานในชั้นศาล เดือนกุมภาพันธ์ 2566 ที่จะถึงนี้ 

ล่าสุดวันที่ 3 ม.ค.66 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านสวนของครูเทียม ตั้งอยู่ที่บ้านเขาดิน ต.ยายแย้มวัฒนา  อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์  ที่ผู้เสียหายระบุว่า​ เป็นสถานที่ที่ถูกกระทำอนาจาร  ซึ่งครูเทียมได้มาเช่าต่อจากชาวบ้านเนื้อที่ประมาณ 3 ไร่ ภายในบริเวณมีบ้านพัก 1 หลัง  ศาลาริมสระน้ำ 1 หลัง  และศาลานั่งเล่นอีก 1 หลัง   แต่พบว่าประตูรั้วถูกล็อกกุญแจเอาไว้ไม่มีใครอยู่   ผู้สื่อข่าวจึงได้ไปสอบถามชาวบ้านที่อาศัยอยู่ละแวกใกล้เคียง  ก็ให้ข้อมูลว่าครูเทียมได้มาเช่าพื้นที่ดังกล่าวได้ประมาณ 1 ปีเศษแล้ว    ก็เห็นมีการเลี้ยงวัว   สุนัข   ปลูกต้นไม้​  และได้ยินว่าจะทำเป็นสถานที่สอนเต้น    ที่ผ่านมาก็จะเห็นครูเทียม เดินทางมาที่บ้านสวนเฉลี่ยเดือนละ 1 ครั้ง   และตอนที่ครูเทียมมาอยู่ที่นี่บางครั้งก็จะมีเด็กผู้ชายอายุประมาณ 18 – 19 ปี ซึ่งก็น่าจะเป็นลูกศิษย์ที่เรียนเต้นกับครูเทียม  แวะเวียนมาอยู่เรื่อย แต่ชาวบ้านก็ไม่ได้ไปยุ่งวุ่นวายต่างคนก็ต่างอยู่  

โดยนายชาย และนางหนู  สองสามีภรรยา  ที่อาศัยอยู่ใกล้บ้านสวนครูเทียม  บอกว่า  ตอนที่ครูเทียมมาเช่าที่อยู่ที่นี่  ก็เป็นคนอัธยาศัยดีพูดคุยเป็นกันเองไม่ได้ถือตัวอะไร  บางครั้งมีอะไรก็จะแบ่งปันชาวบ้านด้วย    ส่วนเรื่องที่มีผู้ปกครองเด็กชายไปแจ้งความเอาผิดว่าลูกถูกกระทำอนาจารนั้น  ส่วนตัวก็ไม่อยากเชื่อว่าจะทำจริง   หากดูจากภาพลักษณ์ของครูเทียมเพราะเป็นคนที่น่าเชื่อถือ   แต่เมื่อประมาณ 3- 4 เดือนก่อน ก็เคยเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่ไม่รู้ว่ามาจากที่ไหนบ้างรถประมาณ 30 คัน มาจอดปิดล้อมบ้านสวนและเข้าตรวจค้นที่บ้านสวนของครูเทียม   แต่ตอนนั้นครูเทียมไม่ได้อยู่   ซึ่งชาวบ้านก็ตกใจว่าเกิดอะไรขึ้นแต่ก็ไม่มีใครกล้าถาม    แต่พอมารู้ก็ตกใจและไม่อยากเชื่อว่าจะเป็นเรื่องจริง   แต่หากเป็นเรื่องจริงก็ไม่ขอออกความเห็นอะไรเพราะเป็นเรื่องส่วนตัว

จากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยัง สภ.ถาวร   ซึ่งเป็นตำรวจในพื้นที่ก็ให้ข้อมูลว่า  ในพื้นที่รับผิดชอบไม่ได้มีผู้เสียหายมาแจ้งความร้องทุกข์เกี่ยวกับกรณีดังกล่าวแต่อย่างใด  แต่เมื่อเดือน ก.ย.มีเจ้าหน้าที่ตำรวจจากส่วนกลางประสานมา  เพื่อนำหมายศาลเข้าตรวจค้นบ้านสวนครูเทียมจริง  เพื่อหาหลักฐานเกี่ยวกับการกระทำผิด เช่น สื่อลากมกอนาจารต่างๆ กรณีที่มีผู้ปกครองแจ้งความร้องทุกข์กระทำอนาจารที่ สภ.จักราช   ซึ่งการดำเนินคดีต่างๆ ก็อยู่ที่ สภ.จักราช