นายกฯสั่งหาลูกเรือให้เจอให้ได้ ควบคู่การสอบสวนหาสาเหตุ กองทัพเรือเร่งระดมค้นหา 5 กำลังพลเรือหลวงสุโขทัยอับปางอย่างต่อเนื่อง ปูพรม 8 เกาะสุดท้ายในจ.ชุมพร ด้านบริษัทอู่ตะเภาฯ มอบเงินช่วยเหลือครอบครัวกำลังพลกองทัพเรือที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์เรือหลวงสุโขทัยอับปาง
  
  ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 3 ม.ค.66 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว. กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงการติดตามกำลังพลเรือหลวงสุโขทัยที่ยังสูญหายอีก 5 ราย ว่า ได้สั่งการว่าให้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องจะต้องเจอให้ได้ ส่วนการสอบสวนต่างๆให้ดำเนินการตามขั้นตอน ซึ่งทางทหารเขาก็ทำกันอยู่ ก็ขอให้ฟังทางกองทัพก็แล้วกัน หลายๆอย่างก็ไม่ใช่อย่างที่แพร่กันในโซเชียล หลายๆอย่างก็ไม่อยากไปตอบโต้มากนักหรอก ให้ผลการพิสูจน์ออกมาดีกว่า
  
   ด้าน พล.ร.อ.ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า จนถึงขณะนี้กองทัพเรือก็ยังคงดำเนินการค้นหากำลังพล ที่สูญหายอีก 5 นาย จากเหตุการณ์เรือหลวงสุโขทัยอับปางอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะตามแนวชายฝั่ง ซึ่งชุดปฏิบัติการพิเศษของ หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ ได้แบ่งกำลังออกเป็น 3 ชุดประกอบด้วย ชุดค้นหาใต้น้ำ ชุดค้นหาผิวน้ำ และชุดค้นหาบนเกาะ โดยได้ปูพรมค้นหา ตามเกาะต่างๆในพื้นที่จ.ชุมพร รวมถึงอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพรซึ่งมีเกาะทั้งหมด 32 เกาะ  ปัจจุบันทำการสำรวจไปแล้ว 24 เกาะ เหลือเกาะที่ยังไม่ได้ทำการสำรวจ 8 เกาะ  ซึ่งแผนในวันนี้จะเข้าทำการสำรวจ อีก 8 เกาะที่เหลือ ประกอบด้วย เกาะคางเสือ เกาะรังห้า เกาะมะพร้าว เกาะยอ เกาะขี้นก เกาะรางบรรทัด เกาะคราม และเกาะพิทักษ์  ทั้งนี้หากเป็นไปตามแผน ก็จะทำการสำรวจครบทุกเกาะของจ.ชุมพร ในวันนี้
      
  วันเดียวกัน ที่ห้องชมวังอาคารราชนาวิกสภา เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ  พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานในพิธีมอบเงินช่วยเหลือให้กับครอบครัวกำลังพล กองทัพเรือที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์เรือหลวงสุโขทัยอับปาง โดย  นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อู่ตะเภา อินเตอร์เนชั่นแนล เอวิเอชั่น จำกัด (UTA)  มีความประสงค์มอบเงินช่วยเหลือแก่ครอบครัวกำลังพล ที่ได้รับความสูญเสียจำนวน 23 ครอบครัว ครอบครัวละ 100,000 บาท 
          
 ทั้งนี้ พล.ร.อ.ปกครอง  มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า เหตุการณ์เรือหลวงสุโขทัยถูกพายุคลื่นลมแรงซัดจนเป็นเหตุให้เรืออับปางกลางทะเลบริเวณพื้นที่อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.65 นับเป็นความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของกองทัพเรือโดยมีกำลังพลเสียชีวิตรวม 24 นาย ในจำนวนนี้สามารถระบุชื่อได้แล้ว 23 นาย และสูญหาย 5 นาย  ทั้งนี้ในส่วนของสิทธิกำลังพลและการให้ความช่วยเหลือแก่ครอบครัวผู้ได้รับผลกระทบนั้น ทางกองทัพเรือ โดย พล.ร.อ.เชิงชาย  ชมเชิงแพทย์  ผู้บัญชาการทหารเรือ  มีความเป็นห่วงครอบครัวกำลังพลที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตรวมถึงกำลังพลที่ยังคงสูญหายเป็นอย่างมาก  โดยได้เร่งรัดให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับสิทธิกำลังพล  ดำเนินการเพื่อให้การช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อน แก่ครอบครัวของกำลังพลในด้านต่างๆ ตามระเบียบข้อบังคับอย่างเร่งด่วน 
    
 ปัจจุบันกำลังดำเนินการเตรียมมอบเงินช่วยเหลือแก่ทายาทผู้สูญเสีย ประกอบด้วยเงินจากกองทุนน้ำใจไทย เพื่อผู้เสียสละในจังหวัดชายแดนภาคใต้และพื้นที่รับผิดชอบกองทัพเรือ เงินประกันภัยหมู่กองทัพเรือ เงินสวัสดิการกองทัพเรือ และ เงินฌาปนกิจกองทัพเรือสำหรับท่านที่เป็นสมาชิก และอีกส่วนหนึ่งที่จะมอบต่อไปคือเงินตามสิทธิด้านกำลังพลเช่น เงินช่วยพิเศษ  บำเหน็จตกทอด และบำนาญพิเศษ ทั้งนี้ เป็นไปตามสิทธิด้านกำลังพลของกำลังพลแต่ละราย โดยมีขั้นตอนการเบิกจ่ายตามหลักเกณฑ์และระเบียบแบบแผนที่ทางราชการกำหนด  ซึ่งกองทัพเรือจะดำเนินการให้เร็วที่สุดเพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนแก่ครอบครัวผู้สูญเสีย