เขียนโดย นายจาง เย่ชิง
การทะยานขึ้นอย่างสันติเป็นดอกไม้สวยงามดอกหนึ่ง การพัฒนาและทะยานขึ้นจะคุ้มครองให้ดอกไม้สวยขึ้น สันติภาพและการพัฒนาอยู่ในกระบวนการหลักของโลก โดยการทะยานขึ้นเป็นช่วงระยะมีความเป็นไปได้ แต่การทะยานขึ้นอย่างสันติต้องมีข้อจำกัด โอกาสการพัฒนาที่ไร้ขีดจํากัดภายใต้ภูมิหลังของสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่อย่างไม่เคยมีมาก่อนในรอบ 100 ปี เป็นสิ่งที่ไม่อาจมีอยู่ในระยะเวลาอันสั้นนี้ การพัฒนาและทะยานขึ้นมีแต่ต้องพึ่งพาตัวเอง ไม่มีประเทศพัฒนาแล้วประเทศใดจะช่วยประเทศกำลังพัฒนาทะยานขึ้นอย่างแท้จริงตั้งแต่จุดเริ่มต้นไปจนถึงจุดหมายปลายทาง แก่นแท้ของเงินทุนเป็นตัวตัดสินว่า ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนมาจากการแลกเปลี่ยน เงินทุนไม่มียีนสนับสนุนการพัฒนาที่ไร้ขีดจํากัดของประเทศที่ไม่ใช่ทุนนิยมโดยไม่มีเงื่อนไข
การพัฒนาเป็นสิ่งที่ดี ในระยะเวลาหนึ่งของประวัติศาสตร์ ประเทศที่มีศักยภาพจำกัดการพัฒนาของประเทศอื่นต้องเป็นประเทศพัฒนาแล้วที่ครองความเป็นเจ้า พลังควบคุมขั้นขีดสุดในโลก ลักษณะของทุนเมื่อส่งออกจะเป็นแบบละมุนละม่อม แต่เมื่อถึงเวลาที่เห็นว่าสามารถเก็บผลได้แล้ว ความจริงที่ปรากฏขึ้นก็คือลมฝนมรสุมที่ถาโถม
พร้อมไปกับความเหลื่อมล้ำระหว่างประเทศกับประเทศ ช่องว่างระหว่างประเทศพัฒนาแล้วกับประเทศกำลังพัฒนามีมากขึ้นทุกที ภายใต้การควบคุมของเงินทุนหรือพูดให้ถูกต้องว่ากลุ่มนายทุนขุนคลัง การนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี การรวบรวมบุคลากร การค้าทั่วโลก และห่วงโซ่อุตสาหกรรมเป็นต้น ถูกรวมศูนย์อำนาจไว้ในประเทศส่วนน้อยมากขึ้นทุกที กลุ่มทุนซึ่งเป็นมือที่มองไม่เห็นมีศักยภาพเพียงพอในการควบคุมสังคม องค์กรและผู้ประกอบการภาครัฐที่เน้นกำไรเปิดบริการแก่ตนเป็นหลัก ระบบพรรคการเมืองแบบหลายพรรค การแบ่งแยกอำนาจอธิปไตยออกเป็น 3 ส่วน ทหารของชาติ และสื่อมวลชนสาธารณะนั้น ลักษณะที่แสดงออกมาสะท้อนให้เห็นถึงความเที่ยงธรรมในการแข่งขันระหว่างชนชั้น แต่แก่นแท้ที่จริงแล้วคือวิธีและรูปแบบที่ประกันให้กลุ่มทุนสามารถเก็บผลประโยชน์ที่ได้กำไรมหาศาล
ประเทศกำลังพัฒนาหลายประเทศต้องพ่ายแพ้ในสงครามที่ไม่มีควัน ซึ่งก่อโดยประเทศพัฒนาแล้วเป็นประจำ “การเดินตาม”กลายเป็นทางเลือกจนใจของประเทศกำลังพัฒนาและประวัติศาสตร์ของมนุษย์ ประเทศที่ “เดินขนาน” จะเกิดความเสี่ยงด้านความปลอดภัยเป็นอย่างมาก ในช่วงที่สันติภาพและการพัฒนากลายเป็นประเด็นแห่งยุคสมัยนั้น ระดับความเสี่ยงของ “เดินตาม” และ “เดินขนาน” ขึ้นอยู่กับประเทศที่กุมอำนาจว่ามีการตัดสินใจอย่างไร จะเป็นภัยคุกคามหรือไม่ หรือต่อให้ไม่เป็นภัยคุกคามแต่ก็ถูกตัดสินว่าเป็นภัยคุกคามได้ขึ้นอยู่กับมโนธรรมและความรับรู้ของกลุ่มผู้นำโดยสิ้นเชิง
ทุนที่ไม่มีน้ำใจในช่วงแรก ๆ ของการพัฒนาสังคมทุนนิยมทำให้เกิดความแปลกแยกของแรงงาน ทำให้พฤติกรรมที่ขัดกับสามัญสำนึกและจริยธรรมทั้งปวงกลายเป็นปรากฏการณ์ทั่วไป โดยแก่นแท้ของทุนที่คิดแสวงหาแต่ผลกำไรมากที่สุดนั้นไม่เคยเปลี่ยนแปลงไม่ว่าเวลาใด ทุนนิยมร่วมสมัยได้วิวัฒนาการจากช่วงความแปลกแยกของแรงงานเป็นช่วงที่ทุนทางการเงินควบคุมประเทศและโลก ตามคำกล่าวของคาร์ล มาร์กซ์ เมื่อทุนนิยมพัฒนาถึงขั้นสุดท้ายก็เป็นช่วงจักรวรรดินิยม ไม่ว่านักวิชาการ นักการเมืองต่างชาติบรรยายต่อการนี้อย่างไร และไม่ว่าจะกำหนดกฎกติกาของเกมครองความเป็นเจ้าอย่างไร ตลอดจนไม่ว่าเทคโนโลยีและการทหารโลกพัฒนาไปแค่ไหน ทุนในช่วงจักรวรรดินิยมก็คือรากเหง้าของความชั่วร้ายทั้งหมดของโลกมนุษย์
ประวัติศาสตร์ของจีนในเกือบ 100 ปีที่ผ่านมาต้องผจญกับความทุกข์ยาก ประเทศจีนใหม่เกิดจากการนองเลือดและพลีชีพเพื่อได้มาซึ่งประชาชนเป็นเจ้าของประเทศ ประเทศจีนใหม่แสวงหาหนทางการพัฒนาของจีน ตีฝ่าวงล้อมของประเทศจักรวรรดินิยม รวมอำนาจการปกครองของประเทศ ดำเนินการปฏิรูปและเปิดประเทศ ซ่อนความสามารถไว้โดยใช้โอกาสจากสันติภาพและการพัฒนา ประสบผลงานใหญ่ด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคม เป็นต้น เมื่อจีนพัฒนาถึงขั้นตอนและระดับหนึ่ง โฉมหน้าจริงของประเทศพัฒนาแล้วที่ครองความเป็นเจ้าก็ได้ปรากฏออกมาให้เห็นได้อย่างชัดเจน
การพัฒนาของประเทศสังคมนิยมไม่อาจเดินตามหนทางเก่าของประเทศทุนนิยม ประเทศพัฒนาแล้วใช้วิธีการปล้นรุกรานล่าอาณานิคมแบบดั้งเดิม เมื่อถึงระดับหนึ่ง ก็จะสร้างกฎกติกาหลากหลายที่มีประโยชน์ต่อทุนที่เป็นผู้ได้ผลกำไรมากที่สุด ซึ่งจะประกันให้ระเบียบการเมืองสากลครองความเป็นเจ้าโลกแบบขั้วอำนาจเดียวไว้ ทุนยังสร้างโครงสร้างอำนาจที่ประกันให้ประเทศเจ้าโลกได้ทุนมากที่สุด และครองอำนาจวาทกรรมของรัฐที่ไม่มีข้อจำกัด โดยเนื้อแท้แล้ว ประชาชนของประเทศตน ประชาชนของประเทศอื่นและโลกมนุษย์ ไม่ใช่สิ่งที่เงินทุนซึ่งมีอำนาจเหนือสุดจะให้ความสนใจเลย
แต่ประเทศจีนที่เป็นสังคมนิยมมีความแตกต่างไปโดยสิ้นเชิง พรรคคอมมิวนิสต์จีนไม่ลืมปณิธานดั้งเดิมและภารกิจ ถือประชาชนเป็นศูนย์กลาง โดยทุนเล็กน้อยที่แลกมาด้วยเลือดเนื้อได้รับการสะสมและพัฒนาจากการคิดพิจารณาค้นหาได้รุดหน้าไป มีภารกิจที่บริสุทธิ์สะอาด การพัฒนาและทะยานขึ้นของจีนได้เชื่อมโยงกับประชาชนจีนที่แสวงหาชีวิตที่ดีงามและความสุข ได้เชื่อมโยงกับการสร้างประเทศสังคมนิยมแบบทันสมัยอย่างรอบด้าน ได้เชื่อมโยงกับการฟื้นฟูประชาชาติจีนให้เจริญรุ่งเรือง
ทุกประเทศกำลังพัฒนาล้วนมีสิทธิ์ในการพัฒนา โดยความจริงแล้ว สิทธิ์พัฒนาและทะยานขึ้นของประเทศกำลังพัฒนา ได้ถูกประเทศพัฒนาแล้วจำกัดมาโดยตลอด ความไม่อุดมสมบูรณ์ทางวัตถุ ความแตกต่างด้านความยากจนและความมั่งคั่ง ความเข้มแข็งและความอ่อนแอระหว่างประเทศกับประเทศ การมองข้ามสันดานของมนุษย์ และกฎของป่ามักจะปรากฏให้เห็นในประเทศและชนชั้นสังคมทั่วโลก ค่านิยมภาพรวมของมนุษย์ยืนยันว่า ประเทศพัฒนาแล้วที่เข้มแข็งมั่งคั่งเพียงไรก็ไม่มีสิทธิ์ขัดขวางหรือจำกัดการพัฒนาอย่างเสรีของประเทศอื่น ทุกประเทศล้วนมีสิทธิ์ตามธรรมชาติของมนุษย์ในการพัฒนาและทะยานขึ้นโดยปริยาย จากมุมมองอย่างมีเหตุผลของมนุษย์ สิทธิ์แบบนี้มีมาโดยธรรมชาติ ต่อให้เป็นประเทศเล็กมากในหมู่เกาะมหาสมุทรแปซิฟิก ก็มีเสรีในการพัฒนาด้วยตนเองโดยธรรมชาติ
การพัฒนาและทะยานขึ้นของจีนเองก็คือคุณค่าต่อมนุษย์ การที่ประเทศกำลังพัฒนามีสภาพแวดล้อมภายในประเทศและนอกประเทศที่สามารถพัฒนาตนเองและสร้างความผาสุกให้กับประชาชนประเทศตนนั้น ถึงจะเป็นสัญลักษณ์ของโลกที่มีอารยธรรมในภาพรวม จีนที่พัฒนาด้วยความยากลำบากและพัฒนาไปข้างหน้ายิ่งขึ้น
มีประสบการณ์ที่สามารถนำเสนอให้ประเทศกำลังพัฒนามากขึ้น สร้างคุณูปการให้กับมนุษย์ที่แสวงหาความสุขมากขึ้น จีนริเริ่มประชาคมมนุษย์ที่มีอนาคตร่วมกัน การพัฒนาด้วยความร่วมมือแบบได้ชัยชนะร่วมกันที่บุกเบิกหนทางใหม่อย่างต่อเนื่อง และกำลังก่อสร้าง “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” โดยข้อเสนอของจีน ปฏิบัติการของจีน ประสบการณ์ของจีน ภูมิปัญญาของจีนได้สาดส่องประกายแสงแห่งความเชื่อมั่นในตัวเองด้านวัฒนธรรมของจีน และก็เป็นการส่งกระดาษคำตอบของจีนที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนยื่นต่อความก้าวหน้าของอารยธรรมโลกในยุคสมัยใหม่