วันที่ 23 ธ.ค.65 นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมงานแถลงข่าวโครงการค่าใช้จ่ายในการจัดงานเทศกาลภาพยนตร์กรุงเทพมหานคร ประจำปี 2566 พร้อมด้วย นายอดิศักดิ์ ลิมปรุ่งพัฒนกิจ กรรมการผู้อำนวยการบริษัท เนชั่น บรอดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) นายดรสะรณ โกวิทวณิชชา ผู้อำนวยการ World Film Festival of Bangkok ณ ห้องอเนกประสงค์ ชั้น 1 หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร

 

นายศานนท์ กล่าวว่า เทศกาลภาพยนตร์กรุงเทพมหานคร ประจำปี 2566 เป็นการต่อยอดจากเทศกาลกรุงเทพฯหนังกลางแปลงเมื่อช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งการจัดเทศกาลหนังไม่ได้เน้นความสนุกและสวยงามเพียงอย่างเดียวแต่ยังมุ่งหวังยกระดับอุตสาหกรรมหนัง หลังจากที่ กทม.ได้จัดเทศกาลหนังกลางแปลง ได้รับเสียงตอบรับจากผู้ประกอบการว่าสามารถสร้างอาชีพให้กับอุตสาหกรรมหนังกลางแปลงเพิ่มมากขึ้น ดังนั้น กทม.ต้องทำหน้าที่เป็นส่วนสำคัญในการผลักดันเชิงนโยบาย รวมถึงหาแนวทางพัฒนาวงการภาพยนตร์ไทยมากขึ้น การจัดเทศกาลภาพยนตร์ประจำปี 2566 ครั้งนี้ กทม.ได้ร่วมกับเครือเนชั่น ซึ่งทำงานด้านภาพยนตร์มาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงตัวแทนผู้สร้างภาพยนตร์ และผู้กำกับในวงการภาพยนตร์ ซึ่งเป็นเสมือนจิ๊กซอว์มาเติมเต็มแนวทางส่งเสริมภาพยนตร์ไทยของ กทม. โดยงานนี้จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 20-22 มกราคม 2566 ที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร พร้อมจัดประกวดภาพยนตร์สั้นความยาว 10-15 นาที ภายใต้แนวคิด “กรุงเทพฯมีดีอะไรบ้าง” เพื่อเปิดโอกาสให้เยาวชนสามารถใช้โทรศัพท์มือถือสร้างสรรค์ภาพยนตร์ส่งเข้ามาประกวดได้

 

นายอดิศักดิ์ กล่าวว่า ตั้งแต่ผู้ว่าฯกทม.ได้รับการเลือกตั้งมา กทม.มีนโยบายชัดเจนในการพัฒนาและกระตุ้นกระแสภาพยนตร์ไทย สามารถปลุกตลาดหนังกลางแปลงขึ้นมาได้ ทำให้เห็นว่า ภาพยนตร์สามารถช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจในระดับรากหญ้า ซึ่งที่ผ่านมาเนชั่นได้ร่วมมือกับ กทม.มาโดยตลอดในการจัดเทศกาลหนังกลางแปลง และในวันนี้ตนคิดว่า กทม.ได้ริเริ่มผลักดันการสร้างภาพยนตร์ไปอีกระดับ โดยเฉพาะแนวคิดการใช้ภาพยนตร์ในการสร้างเมือง ซึ่งมีตัวอย่างที่ประสบความสำเร็จในหลายประเทศ สะท้อนให้เห็นว่าภาพยนตร์มีส่วนสำคัญในการส่งเสริมเศรษฐกิจและการสร้างเมืองทั่วโลก เนื่องจากการถ่ายทำภาพยนตร์สามารถโฆษณาเมืองออกสู่สายตาชาวโลกได้เป็นอย่างดี

 

นายดรสะรณ กล่าวว่า งาน World Film Festival of Bangkok ครั้งที่ผ่านมาได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี เนื่องจากได้รับความร่วมมือจากหลายภาคส่วน แม้ไม่ได้จัดมานาน แต่ครั้งล่าสุดถือว่าประสบความด้วยดี การจัดเทศกาลภาพยนตร์ร่วมกับ กทม.ในครั้งนี้ ยังช่วยส่งเสริมและกระตุ้นให้เยาวชนหันมาสนใจการสร้างหนังผ่านเครื่องมือที่มี เช่น โทรศัพท์มือถือ โดยเยาวชนหรือประชาชนทั่วไป อายุไม่เกิน 28 ปี สามารถส่งผลงานเข้ามาประกวดได้ ในหัวข้อ Connecting Bangkok 2030 หรือ เชื่อมโยงกรุงเทพมหานคร 2030 เพื่อสะท้อนให้เห็นว่า มีมุมมองต่อกรุงเทพฯ ในฐานะ Smart City อย่างไร โดยมีความยาว 10-15 นาที เพื่อชิงเงินรางวัลรวมกว่า 200,000 บาท ภาพยนตร์สั้นที่ชนะการประกวดจะได้ฉายในเทศกาลภาพยนตร์กรุงเทพมหานคร ประจำปี 2566 ระหว่างวันที่ 20-22 ม.ค.66 ที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ผู้สนใจสามารถส่งผลงานได้ตั้งแต่วันนี้ ถึง วันที่ 15 ม.ค.66 ติดตามรายละเอียดเพิ่มได้ที่เฟซบุ๊ก กรุงเทพมหานคร