นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าฯกทม.เปิดเผยถึงความคืบหน้าการจัดหาพื้นที่ทำ Hawker center แก้ปัญหาหาบเร่แผงลอย ว่า สำนักเทศกิจร่วมกับสำนักงานเขต 50 เขต สำรวจหาพื้นที่เพื่อจัดทำศูนย์อาหาร Hawker center ได้รวม 125 จุด โดยเน้นพื้นที่ของกทม.หน่วยราชการ และเอกชน ไม่เน้นที่สาธารณะ พัฒนาเป็นศูนย์อาหารเพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน ตั้งเป้าพื้นที่นำร่อง 2 จุด ที่หน้าห้างสรรพสินค้า Big C และโลตัส ถนนรามคำแหง เขตมีนบุรี และ บริเวณ ประตู 5 สวนลุมพินี เขตปทุมวัน ซึ่งทั้ง 2 จุด เป็นที่เอกชน โดยเอกชนจะลงทุนเองทั้งหมดและมอบให้กทม.จุดนี้จะนำผู้ค้าบริเวณ ประตู 5 สวนลุมพินีและบริเวณสารสินมารวมไว้ ส่วนที่ถนนรามคำแหง เขตมีนบุรี ทางห้างสรรพสินค้าในพื้นที่ร่วมกันลงทุน และจัดการเอง โดยเขตมีนบุรีจะเป็นตัวกลางเจรจากำหนดค่าเช่าในอัตราต่ำที่ผู้ค้าสามารถเข้าไปอยู่ได้ จุดนี้สามารถรับได้ 150 ราย ซึ่งมีผู้ค้านอกจุดผ่อนผันอยู่120 ราย ก็จะนำมารวมี่จุดเดียว

“ทั้ง 2 แห่งที่ตั้งเป้านี้ จะเป็น Hawker center จริงๆ เป็นศูนย์อาหารจริงไม่ใช่ขายเป็นหย่อมๆ รูปแบบศูนย์ฯ จะมีโครงสร้างแบบกึ่งถาวร มีโครงหลังคาชั่วคราว ไม่มีการลงเฝาเข็มแบบถาวร สามารถรื้อถอนได้ การบริหารจัดการจะเป็นแบบศูนย์อาหาร ทั้ง 2 แห่งเตรียมการพร้อมหมดแล้ว คาดจะเริ่มก่อสร้าง 1 มกราคมนี้ และเสร็จใน 3 เดือน ระหว่างนี้ต้องทำความเข้าใจผู้ค้าให้เข้ามาเพราะอาจยังมีส่วนหนึ่งที่กลัวว่ามาแล้วขายไม่ได้ เขตก็ต้องลงไปทำความเข้าใจ ส่วนจะทำเพิ่มที่ไหนอีก อยู่ระหว่างพิจารณาซึ่งต้องดูศักยภาพและความเหมาะสมของพื้นที่ รวมถึงต้องมีความยั่งยืนด้วย “ รองผู้ว่าฯ จักกพันธุ์ กล่าว

สำหรับหลักเกณฑ์ของ Hawker center ต้องราคาค่าเช่าไม่แพง แผงค้า อุปกรณ์การค้า สะอาดปลอดภัย ตั้งวางไม่กีดขวางทางสัญจร ผู้ค้าได้รับการอบรมความรู้ด้านสุขาภิบาลอาหาร มีจุดล้างรวม บ่อกัดไขมัน จุดแยกขยะ ทั้งนี้นอกจาก 2 จุดดังกล่าวยังมีอีก 1 จุด บริเวณซอยสังคโลก เขตดุสิต เป็นความร่วมมือระหว่างกทม.และมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช ดำเนินการแล้วในรูปแบบตั้งเป็นรถเข็น จัดระเบียบเรียบร้อย มีจุดล้างล้างรวม คัดแยกขยะ และบ่อบำบัดน้ำเสีย ซึ่งจุดลักษณะนี้จะเป็นการพัฒนาขึ้นอีกตามความพร้อมของพื้นที่