เมียวิ่งหนีตายระทึกกลางดึก ผัวมัดมืออุ้มขึ้นรถบอกจะเอาไปฆ่าที่ป่ามันสำปะหลัง โดดรถหนีตายวิ่งไปซุกที่โรงงานน้ำแข็งร้องขอความช่วยเหลือ  ผัวบอกทำงานหามรุ่งหามค่ำขับรถส่งของ กลับมาบ้านเจอเมียเล่นชู้ทนดูไม่ได้ ยันไม่ได้เอาไปฆ่าแต่จะเอาตกลงคุยกับกับชายมือที่สาม

วันที่ 21 ธ.ค.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 01.30 น.ของคืนที่ผ่านมา นายวีระพล รักเสมอวงศ์ รองประธานสภาเทศบาลเมืองบ้านและแอ้ดมินเพจบ้านดุงอัพเดตรับแจ้งจากแฟนเพจว่ามีผู้หญิงวิ่งหนีเข้าไปที่โรงน้ำแข็งมริณี บ้านสันติสุข ต.บ้านดุง อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี โดยผู้หญิงคนนี้เหมือนหนีตายอะไรสักอย่าง หลังรับแจ้งทางคนงานโรงน้ำแข็งได้รีบแจ้งตร.สภ.บ้านดุง รีบรุดไปตรวจสอบทันที เมื่อไปถึงพบหญิงสาวทราบชื่อภายหลังคือน.ส.นิภาพร (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 47 ปี ชาวบ้านจันทน์ ต.บ้านจันทน์ ยังอยู่ในอาการตกใจและรีบวิ่งขึ้นไปรถสายตรวจทันทีก่อนที่ตร.จะพามายังสภ.บ้านดุง เบื้องต้นหญิงสาวรายนี้ให้ข้อมูลกับตร.วิ่งหนีตายออกมาจากรถ หลังจากสามีใช้ผ้าห่มมัดมือและอุ้มขึ้นรถบอกจะเอาไปฆ่าในป่ามันสำปะหลัง จึงอาศัยจังหวะที่สามีจอดรถสูบบุหรี่ ถีบประตูรถฝั่งด้านคู่คนขับวิ่งเข้าไปมาในโรงน้ำแข็งเพื่อความช่วยเหลือ โดยหญิงสาวรายนี้บอกว่ายังไม่อยากตาย ตร.จึงได้นำตัวมายังสภ.บ้านดุงเพื่อความปลอดภัย

ต่อมาบ่ายวันนี้ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่โรงน้ำแข็งที่หญิงสาวหนีไปหลบซ่อนพบกับนายอนุวัฒน์ นาคำมินทร์ อายุ 39 ปีเจ้าของโรงน้ำแข็งมริณีบ้านสันติสุขที่ให้การช่วยเหลือหญิงรายนี้ เปิดเผยว่า เมื่อคืนนี้ประมาณหกทุ่มครึ่งลูกน้องโทรศัพท์มาบอกว่ามีผู้หญิงวิ่งหน้าตื่นเข้ามาหลบในโรงงาน ตนเองก็ตกใจไม่เคยมีใครบุกเข้ามาแบบนี้ จึงได้ให้คนงานสอบถามว่าเกิดขึ้นอะไร หญิงสาวคนดังกล่าวก็บอกว่า ผัวอุ้มขึ้นรถใช้ผ้าห่มมัดมือจะเอาไปฆ่าที่ป่ามัน  เราก็ตกใจก็บอกให้คนงานรีบโทรแจ้งตร.ทันที และเมื่อเปิดภาพวงจรปิดดูเห็นรถปิคอัพสีดำมาจอดเลยทางเข้าโรงงานไป สักพักก็เห็นผู้หญิงสวมเสื้อกันหนาวสีแดง กระโปรงสีน้ำตาลสลับน้ำตาลเข้มวิ่งเข้าไปหลบบริเวณอ่างล้างถุงน้ำแข็ง จากนั้นก็วิ่งหลบๆ อยู่บริเวณด้านหลังรถส่งน้ำแข็ง โดยมีคนงานชายยืนดูอยู่ สักพักตร.สภ.บ้านดุงมาถึงหญิงคนนี้ก็วิ่งขึ้นกระบะท้ายรถทันที ตนเองยังไม่รู้รายละเอียดว่าเกิดอะไรขึ้น แต่สอบถามคนงานบอกว่าเขาหนีตายผัวหึงโหดที่จะอุ้มไปฆ่าที่ป่ามันสำหลังก็เท่านั้น

ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านจันทน์ ต.บ้านจันทน์เพื่อสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้นพบกับชาวบ้านกำลังจับเข่าคุยกันว่า เรื่องราวที่เกิดขึ้นคือนางพร หนีผัวหึงที่จะพาไปทำงานขับรถขนส่งด้วยในตัวจังหวัดอุดรธานี แต่นางพรมาเล่าให้เพื่อนบ้านฟังว่า ผัวมันจะฆ่าหาว่าไปคบชู้ จึงหนีออกมา

ต่อมาผุ้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านนางพรแต่ไม่พบเพื่อนบ้านบอกว่าหลังจากตร.ไปส่งที่โรงพักและหนีออกมาที่บ้านแล้วหอบเสื้อผ้าหนีออกจากบ้านไปแล้ว จากนั้นนายวีระพล ได้โทรศัพท์ไปหานายศิลป์ อายุ 45 ปีสามีนางพร สอบถามว่าเกิดอะไรขึ้น นายพรบอกว่า ตนเองทำงานขับรถขนส่งกับเถ้าแก่ในตัวเมืองจ.อุดรธานีรู้ข่าวว่าเมียแอบเล่นชู้จึงกลับมาบ้านก่อนกำหนด มาเห็นภาพบาดตาเขานั่งกินเหล้ากับชายชู้และมีแชทในโทรศัพท์จากชายชู้นัดไปที่สวนยางพารา จึงเลือดขึ้นหน้าใช้ผ้าห่มมัดมือแล้วอุ้มขึ้นรถตั้งใจว่าจะพาไปเคลียร์กับชายชุ้ที่สวนยางพาราตามที่เขานัด พอไปถึงโรงงานน้ำแข็งตนเองเครียดก็เลยจอดรถดูดบุหรี่ เมียก็เปิดประตูวิ่งหนีเข้าไปในโรงงานน้ำแข็ง ผมรักเมียคนนี้มาก แต่งงานกันมาตั้งแต่อายุ 17 ปีมีลูก 2 คนสร้างเนื้อสร้างตัวเก็บหอมรอมริบสร้างบ้านสร้างครอบครัวมาทีละนิดทีละหน่อยแต่ชีวิตผมพังเพราะชายชู้คนนี้ผมเสียใจมาก อย่าให้ผมเจอหน้ามัน ผมอาจจะอดอารมณ์ไว้ไม่อยุ่มันมาทำชีวิตครอบครัวผมพัง ตอนนี้ผมยังตามหาเมียผมไม่เจอ