วันที่ 20 ธ.ค.65 นพ.ธงชัย เลิศวิไลรัตนพงศ์ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดติดเชื้อไวรัสโควิด19 ทำให้ทุกประเทศเร่งฉีดวัคซีนป้องกันให้กับประชาชน และไม่ประมาทในการใช้ชีวิตประจำวันยังคงต้องดูแลตัวเองตามมาตรการ และต้องร่วมมือกันยับยั้งการแพร่ระบาดของโควิด 19 เพื่อให้การใช้ชีวิต ในการควบคุมการแพร่ระบาดโรคโควิด 19 และจากการศึกษาวิจัยที่ผ่านมากรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก โดยร่วมมือกับภาคีเครือข่าย ได้ศึกษาผลของการรับประทานยาฟ้าทะลายโจรที่มีสารแอนโดรกราโฟไลด์ขนาด 180 มิลลิกรัมต่อวัน ติดต่อกัน 5 วัน สามารถใช้รักษาผู้ป่วยโควิดที่มีไม่มีอาการหรืออาการน้อยในระยะเริ่มต้นได้ โดยผ่าน 3 กลไกที่เกี่ยวข้องในการรักษาโควิด-19 คือ 1.การยับยั้งการเพิ่มจำนวนของไวรัส (ไม่ใช่ฆ่าเชื้อไวรัส) 2.ลดการอักเสบ ซึ่งมีผลในการลดอาการไข้ ลดอาการหวัด บรรเทาอาการ ไอ และเจ็บคอ 3. เพิ่มสารคุ้มกันบางชนิดในร่างกาย

“แม้ว่าเชื้อโควิด-19 จะเปลี่ยนสายพันธุ์ไปเรื่อยๆ ฟ้าทะลายโจรยังเป็นสมุนไพรที่สามารถใช้รักษาผู้ป่วยโควิดที่มีไม่มีอาการหรืออาการน้อยในระยะเริ่มต้นได้ และในปัจจุบันยาฟ้าทะลายโจรได้รับการบรรจุในบัญชียาหลักแห่งชาติ โดยมีข้อบ่งใช้ในการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีอาการไม่รุนแรงอีกด้วย”นพ.ธงชัยกล่าว

ส่วนกรณีที่ก่อนหน้านี้มีความเป็นห่วงว่าการใช้ฟ้าทะลายโจรจะส่งผลข้างเคียง โดยเฉพาะส่งผลต่อตับ ต่อไต หากใช้ติดต่อกันเกิน 5 วันนั้น นพ.ธงชัย ยืนยันว่าไม่มีผลต่อตับต่อไตอย่างที่เป็นกังวลกัน โดยผลการวิจัยและรักษาของกรมการแพทย์แผนไทยฯ และสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ ได้ทำการวิจัยยืนยันว่าการใช้ฟ้าทะลายโจรที่มีปริมาณสารสำคัญแอนโดรกราโฟไลด์ ในขนาด 80 มิลลิกรัมต่อวันทั้งในรูปแบบกินครั้งเดียวและกินต่อเนื่องเป็นเวลา 7 วันตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข พบว่ามีความปลอดภัย และไม่พบความผิดปกติการทำงานของตับและไตการใช้ยาฟ้าทะลายโจรในผู้ป่วยโรคโควิด 19

ส่วนการใช้ฟ้าทะลายโจรที่ปริมาณ 180 มิลลิกรัมต่อวัน ติดต่อกัน 5 วัน ในเด็กจะต้องพิจารณาปรับขนาดยาตามน้ำหนักตัว ซึ่งหากร่างกายได้รับปริมาณสารสำคัญในแต่ละวันอย่างถูกต้อง จะทำให้ยาฟ้าทะลายโจรสามารถออกฤทธิ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้การใช้ฟ้าทะลายโจร สามารถใช้ได้ทั้งคนที่ได้รับการตรวจยืนยันว่ามีการติดเชื้อโควิด-19 รวมทั้งในคนที่ติดเชื้อโควิดแต่ไม่แสดงอาการ รวมทั้งมีอาการน้อย อย่างไรก็ตามการใช้ยาฟ้าทะลายโจร ยังมีข้อควรระวัง คือ ไม่ควรใช้ในสตรีตั้งครรภ์หรือกำลังให้นมบุตรและหากมีอาการแพ้หลังรับประทาน เช่น ผื่นขึ้น หายใจลำบาก หน้าบวม ริมฝีปากบวม ให้หยุดทันที และภายใน 3 วันอาการยังไม่ดีขึ้นควรขอรับคำปรึกษาจากแพทย์อีกครั้ง

"ที่ผ่านมาตั้งแต่มีการระบาดของโรคโควิด 19 ในไทย กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ได้จ่ายยาฟ้าทะลายโจร ให้แก่ภาคีเครือข่ายสาธารณสุข และประชาชนรวม 1,232,232 ราย หรือจำนวน 50,354,665 แคปซูล"

อธิบดีกรมแพทย์แผนไทย ฯ กล่าวอีกว่าขณะนี้ ทางกรม ได้จัดทำช่องทางสำหรับขอรับความช่วยเหลือและ ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับยาฟ้าทะลายโจร รวมถึงการใช้ยาสมุนไพร แนะนำอาหารเป็นยา และการดูแลรักษาอาการโควิด 19 เบื้องต้น โดยแพทย์แผนไทย ผ่าน Line Official Account (Line OA) Fah Fiest Aid ในการรักษาตัวของผู้ป่วยโควิด 19 และผู้สัมผัสเสี่ยงสูง โดยมีผู้ลงทะเบียนกว่า 77,884 ราย เป็นผู้ป่วยโควิด 19 จำนวน 15,570 ราย โดยดำเนินการจัดส่งยาฟ้าทะลายโจรถึงบ้านผู้ป่วย 12,076 ชุด เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นที่จะส่งเสริมให้ประชาชนได้ใช้ฟ้าทะลายโจร

โดยเฉพาะในช่วงปีใหม่นี้ ประชาชนมีการเดินทางกลับภูมิลำเนาและอาจเจ็บป่วยระหว่างการเดินทางทั้งไข้หวัด ไอ เจ็บคอ หรืออาจมีอาการโควิด19 การใช้สมุนไพรฟ้าทะลายโจรเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการรักษาโรคดังกล่าว ซึ่งขณะนี้ทางกรม ร่วมกับ บริษัทผู้ผลิตยาฟ้าทะลายโจร เตรียมส่งมอบฟ้าทะลายโจร 6,700 ชุด โดยดำเนินโครงการ ผ่านแอพพลิเคชัน “Fah First Aid” ให้แก่ประชาชนผู้ที่มีความเสี่ยงสูงจากการสัมผัสผู้ป่วย หรือสามารถติดต่อผ่านช่องทาง Line Official Account “Fah First Aid” เพื่อแจ้งความประสงค์ในการรับฟ้าทะลายโจรได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ตั้งแต่วันที่ 20 ธันวาคม 2565 – 31 มกราคม 2566 เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชน

สำหรับประชาชนที่ต้องการยาฟ้าทะลายโจรหรือสอบถามข้อมูลเรื่องการใช้ ยาฟ้าทะลายโจรครบวงจร สามารถรับบริการผ่าน Line Official Accout “FahFirstAid” สามารถลงทะเบียนโดยการเพิ่มเพื่อน พิมพ์ในช่องทางไลน์ไอดีว่า @fahdtam แล้วกดยอมรับยินยอมและรับทราบตามลำดับระบบจะให้กรอกข้อมูลส่วนตัว และกดบันทึกหน้าจอยืนยัน หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับบริการทางการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก สามารถสอบถามได้ที่ เบอร์สายด่วน 063-267 4154 Facebook กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก www.facebook.com/dtam.moph