เมื่อเวลา08.30น.วันที่18 ธันวาคม 2565 พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย พร้อมคณะเดินทางมาจังหวัดอำนาจเจริญ เพื่อเปิดศูนย์ประสานงานที่เขตเลือกตั้ง 1 อำนาจเจริญ พร้อมเปิดว่าที่ผู้สมัคร สส.เขต 1 คือนายอิทธิกร สุวะมาตย์ เขต 2 นายสิทธิ โสพสิงห์ ซึ่งอำนาจเจริญ เชื่อมั่นจะเข้าทั้ง 2เขต ส่วนภาพรวมทั่วประเทศเรายังไม่สามารถคำนวณได้ เพราะส่วนใหญ่ก็เป็น ส.สหน้าใหม่ซึ่งมีความรู้ความสามารถทั้งนั้นแต่ตนเชื่อมั่นว่าจะต้องได้ที่นั่งมากกว่าเดิม ตนเชื่อแน่นว่าถ้าตนได้เป็นรัฐบาลถ้าตนได้เป็นนายกรัฐมนตรีเหตุการณ์ต่างๆนี้ก็จะอยู่ด้วยความสงบศึกไม่เหมือนอย่างเช่นทุกวันนี้ เพราะผม พูดจริงทำจริงครับ
ส่วนกรณีของคนจีนสีเทาที่เข้ามาแผ่อำนาจในพื้นที่ประเทศไทยสร้างความวุ่นวายกินบ้านกินเมืองของเรานี่จริงๆแล้วตนก็ไม่ได้เข้าไปเจาะลึกถึงเรื่องนี้เท่าไหร่นัก โดยเฉพาะไอ้สันขวานมันออกมาสู้กับคุณชูวิทย์ เรื่องการฟอกเงินของไอ้สันขวานแล้วก็เรื่องจีนสีเทาเรื่องนี้ทางตำรวจต้องลงมาทำงานอย่างตรงไปตรงมาแล้วก็จริงจัง ตอนนี้ตนไม่ได้เป็นตำรวจแล้ว ตนเกษียณมาแล้วอยากทำอะไรก็ทำไม่ได้ ไม่มีอำนาจไม่มีกฎหมายอยู่ในมือก็ให้ตำรวจที่ยังไม่เกษียณทำงานให้เต็มที่ก็แล้วกัน
ในเรื่องเกี่ยวกับการเลือกตั้งถ้าอยากให้ผมเป็นนายกรัฐมนตรีของไทยผู้เลือกตั้งก็ต้องการให้เลือกทั้งพรรคแล้วก็ตัวคนผู้สมัครแต่ละเขตด้วยถ้าช่วยกันทำเช่นนี้แล้วผมได้เป็นนายกรัฐมนตรีแน่นอน ทั้งนั้นทั้งนี้จะได้จำนวนคะแนนมากแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับพี่น้องประชาชนคนไทยทุกคน เราต้องเลือกคนดี
พร้อมฝากประชาชนทุกคน พวก ส.ส ที่ขายตัว เราอย่าไปเลือกพวกนี้พวกขายตัว คนชั่วขายตัว เราต้องเอาตัวแทนของเราเป็นคนดีเข้าไปในสภา
"อย่างเช่นพรรคพลังประชารัฐ คุณประยุทธ์ฯก็ไม่ได้ดูแลสมาชิกเท่าไหร่คนที่ดูแลก็คือคุณประวิตรฯ เขาเลยอยู่ไม่ได้ เมื่อเขาอยู่ไม่ได้เขาก็ต้องมาออกมาตั้งพรรคใหม่ คนที่ชอบซื้อ สส.จากพรรคโน้นพักนี้ทำไมไม่มาซื้อพรรคผมบ้าง ถ้ารัฐบาลไม่มีความพร้อมคงไม่มีการยุบสภาแต่ถ้ามีความพร้อมก็อาจจะมีการยุบสภาก่อนเพราะช่วงนี้กระแสการซื้อตัว สส.วุ่นวายไปหมดเพราะฉะนั้นประชาชนคนไทยเราอย่าไปเลือกคนชั่วเลือกคนดีเข้าไปพัฒนาประเทศ การที่คุณชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ออกมาแฉเปิดโปงจีนสีเทาตนถือว่าเป็นเรื่องดีคุณชูวิทย์ฯ เป็นคนที่มีประสบการณ์เยอะ ก็เป็นคนเก่าคนแก่ เป็นคนกล้ามาก ในการทำธุรกิจต่างๆผ่านมาหลายอย่างจึงมีประสบการณ์รอบด้าน คุณชูวิทย์นี่ไม่ใช่นักเลงอันธพาลไม่ใช่นักเลงหัวไม้เขาเป็นคนประกอบธุรกิจ ทำธุรกิจอย่างถูกกฎหมายเขาออกมาแฉ เขาไม่กลัวใครหรอกครับเขารู้ตัวว่าเขาทำถูกต้อง เขาผ่านโลกมาเยอะมีประสบการณ์มามากเขาไม่กลัวอะไรคุณชูวิทย์ กับคุณสันขวาน มันมวยคนละชั้นชูวิทย์เหนือกว่าเยอะ และขณะนี้คุณชูวิทย์กมลวิศิษฎ์ ได้เข้ามาร่วมแรงร่วมใจเป็นหนึ่งเดียวกับทางพรรคเสรีรวมไทยแล้วจนรู้สึกดีใจมากที่มีคนดีๆเข้ามาร่วมอุดมการณ์ด้วยบ้านเมืองจะได้สะอาด โดยผมได้ตั้งเป็นทีมที่ปรึกษาด้านกฎหมาย ในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมได้มีที่พึ่ง เป็นหนทางสุดท้ายของเขา ผมขอให้คำมั่นสัญญากับพี่น้องทั่วประเทศว่า ผมจะเป็นคนดีช่วยเหลือพี่น้องที่เป็นคนดีด้วยกันตลอดไป"