ศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวพัทลุง ติดตามคุณภาพเมล็ดพันธุ์หลังการจำหน่าย ข้าว กข79 ชั้นพันธุ์จำหน่าย ฤดูแล้ง ปี 2565 เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้เกษตรกรในการซื้อเมล็ดพันธุ์จากศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวพัทลุง

การใช้เมล็ดพันธุ์ดีทำให้เกษตรกรประหยัดต้นทุนค่าเมล็ดพันธุ์ เนื่องจากใช้ในปริมาณน้อยกว่าเมล็ดพันธุ์ทั่วไป ลดต้นทุนการผลิต เพราะผ่านการคัดเลือกรวงที่สมบูรณ์แล้ว จึงลดเชื้อโรคและการใช้สารเคมีกำจัดโรค ผลผลิตสูง และทำให้กำไรต่อพื้นที่มากกว่า และจะได้เมล็ดพันธุ์ข้าวที่ดีได้อย่างไร จำเป็นต้องรู้จัก “ชั้นเมล็ดพันธุ์” เพื่อรู้ที่มาและการเลือกใช้เมล็ดพันธุ์ ซึ่งชั้นเมล็ดพันธุ์ประกอบด้วย เมล็ดพันธุ์คัด (breeder seed) เป็นชั้นเมล็ดพันธุ์สำหรับนักปรับปรุงพันธุ์ ซึ่งชาวนาสามารถเป็นนักปรับปรุงพันธุ์ได้ โดยเฉพาะในภาคใต้ซึ่งใช้ “แกระ” เป็นเครื่องมือเก็บเกี่ยวที่สามารถคัดเลือกรวงสมบูรณ์ ถูกต้องตามพันธุ์ และเมล็ดพันธุ์หลัก (foundation seed) หลังจากคัดเมล็ดพันธุ์ที่ต้องการแล้ว ได้เป็นเมล็ดพันธุ์หลักสำหรับปลูกขยาย ส่วนเมล็ดพันธุ์ขยาย (stock seed or registered seed) เมล็ดพันธุ์ที่ได้จากการปลูกด้วยเมล็ดพันธุ์หลัก

สำหรับเกษตรกรที่จะปลูกเป็นแปลงขยายพันธุ์ซึ่งเมล็ดพันธุ์จำหน่าย (certified seed) เป็นชั้นเมล็ดพันธุ์เพื่อผลิตจำหน่ายให้เกษตรกรทั่วไป โดยเมล็ดพันธุ์ข้าวที่ชาวนาส่วนใหญ่ใช้จึงมาจากชั้นเมล็ดพันธุ์จำหน่าย แต่หากต้องการความมั่นใจคุณภาพเมล็ดพันธุ์ที่ให้ผลผลิตสูง ต้านทานโรคแมลง ความงอกสูง ความแข็งแรงสูง ไม่มีเมล็ดพันธุ์หรือพืชอื่นปน เจริญเติบโตเร็วและสม่ำเสมอ ชาวนาก็สามารถที่จะผลิตได้เองในชั้นเมล็ดพันธุ์คัด

ด้าน นายอัมพร ทองไชย ผู้อำนวยการศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวพัทลุง มอบหมายให้ นางสาวเกศรินทร์ หมานหมัดนักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชำนาญการ นายพงษ์สิทธิ์ ช่ออัญชัญ นักวิชาการเกษตรปฏิบัติการ และเจ้าหน้าที่กลุ่มควบคุมคุณภาพ ออกติดตามคุณภาพเมล็ดพันธุ์หลังการจำหน่าย ข้าว กข79 ชั้นพันธุ์จำหน่ายฤดูแล้ง ปี 2565 ณ ตำบลชัยบุรี อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง เพื่อทราบสถานการณ์ และความงอกของเมล็ดพันธุ์ที่เกษตรกรซื้อไป

ทั้งนี้ เกษตรกรที่ซื้อเมล็ดพันธุ์ข้าวจากศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวพัทลุงไปปลูก สามารถเชื่อมั่นได้ว่าเมล็ดพันธุ์ทุกกระสอบมีคุณภาพ เพราะได้ผ่านกระบวนการปรับปรุงสภาพเมล็ดพันธุ์ ทดสอบความงอกความบริสุทธิ์ของสายพันธุ์และผ่านกระบวนการตรวจสอบคุณภาพจากห้องปฏิบัติการทุกกระสอบ โดยเมล็ดพันธุ์ ที่จะออกจำหน่ายต้องผ่านระยะพักตัวแล้ว ความงอกเกิน 90 เปอร์เซ็นต์ และไม่มีข้าวพันธุ์อื่นปน รวมถึงไม่มีเศษวัชพืชเศษหินปะปนมากับเมล็ดพันธุ์อย่างแน่นอน