วันที่ 17 ธ.ค.2565 เจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองเชียงแสน ได้ประสานงานร่วมกับ ด่านตรวจคนเข้าเมืองเชียงราย กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 5 ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.มณุวัฒน์ กอสนาน ผกก.ด่าน ตม.เชียงแสน จ.เชียงราย พ.ต.ท.หญิง จารุวรรณ วงษ์สุวรรณ สว.ด่าน ตม.เชียงแสน พ.ต.ท.ณัฐวัตร มิตรคุณ สารวัตรด่าน ตม.เชียงแสน พ.ต.ต.ปรเมศร์ ศรีนนท์ สว.(สอบสวน) กก.สส.บก.ตม.5 พ.ต.ต.ณัฐนนท์ เปียแก้ว สว.กก.สส.บก.ตม.5 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองเชียงราย เจ้าหน้าที่งานสืบสวน สภ.บ้านดู่ จ.เชียงราย ได้ร่วมกันจับกุม นางชาร์ชานหลิงอายุ 26 ปี สัญชาติเมียนมา นางเหวนถี่ท๋อง อายุ 26 ปี สัญชาติเวียดนาม นางหยินจ้ายหลาน อายุ 27 ปี สัญชาติเมียนมา ในข้อกล่าวหาว่า “ใช้ดวงตรา รอยตรา หรือแผ่นปะตรวจลงตราที่ทำขึ้นปลอม” ตามประมวลกฎหมายอาญา และ “เป็นคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522”
สำหรับการจับกุมในครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 19.00 น.วันที่ 16 ธ.ค.65 ขณะที่ ร.ต.อ.หญิง รุ่งจิตร งามเลิศ ร้อยเวรประจำจุดผ่านแดนถาวรสามเหลี่ยมทองคำ บ้านสบรวก อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ได้พบ หญิงสาว 3 คน ยื่นหนังสือเดินทาง เพื่อเดินทางออกนอกราชอาณาจักรไปยังเขตเศรษฐกิจพิเศษ สามเหลี่ยมคำ สปป.ลาว โดยเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบข้อมูลในหนังสือเดินทาง และตรวจสอบในระบบสารสนเทศ สตม. พบว่า ทั้ง 3 คนถือวีซ่านักท่องเที่ยว โดย นางชาร์ชานหลิง ผ่านจุดตรวจ ตม.ทอ.สุวรรณภูมิ และได้ทำการขออยู่ต่อในราชอาณาจักรที่ด่าน ตม.ชลบุรี ถึงวันที่ 23 ต.ค. 65 โดยพบรอยตราประทับอนุญาตขออยู่ต่อของ ตม.จ.ตาก ลงวันที่ 17 ต.ค. 65 อนุญาตให้คนต่างด้าวอยู่ได้ถึง 23 ม.ค. 66
จากการตรวจสอบข้อมูลในระบบสารสนเทศ ไม่พบข้อมูลการขออนุญาตอยู่ต่อของ ตม.จ.ตาก โดย นางชาร์ชานหลิง ให้การยอมรับว่าได้ติดต่อผ่านแอพพิเคชั่น Wechat เมื่อประมาณต้นเดือนตุลาคม 65 เพื่อให้ดำเนินการช่วยเหลือในการปลอมรอยตราประทับขออยู่ต่อของ ตม.จ.ตาก ผ่านนายหน้าซึ่งเป็นชาวจีน ตกลงราคาดำเนินการเป็นเงิน 60,000 บาท
ทางด้านนางเหวนถี่ท๋อง สัญชาติเวียดนาม พบข้อมูลเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 1 ต.ค. 65 เป็นวีซ่านักท่องเที่ยว 30 วัน ทางจุดผ่านแดนถาวรสามเหลี่ยมทองคำ อนุญาตอยู่ได้ถึง 14 พ.ย. 65 พบรอยตราประทับอนุญาตการขออยู่ต่อของ ตม.จ.ตาก ลงวันที่ 14 พ.ย. 65 อนุญาตให้คนต่างด้าวอยู่ได้ถึง 14 ก.พ. 66 จากการตรวจสอบข้อมูลในระบบสารสนเทศ สตม. ไม่พบข้อมูลในระบบ นางเหวนถี่ท๋อง ให้การว่า ได้ติดต่อผ่านแอพพิเคชั่น Telegram กับเพื่อน เมื่อต้นเดือน ต.ค. 65 โดยจ่ายเงิน 25,000 บาท
ส่วน นางหยินจ้ายหลาน อายุ 27 ปี สัญชาติเมียนมา พบข้อมูลเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 9 ต.ค.65 เป็นวีซ่านักท่องเที่ยว 14 วัน ผ่านจุด ตม.ทอ.สุวรรณภูมิ และได้ทำการขออยู่ต่อที่ด่าน ตม.จ.น่าน ได้อยู่ต่อจนถึง 26 ต.ค. 65 พบรอยตราประทับอนุญาตการขออยู่ต่อของ ตม.จ.ตาก แต่ไม่พบข้อมูลในระบบ นางหยินจ้ายหลานให้การว่า ได้ติดต่อผ่านแอพพิเคชั่น Wechat มีค่าดำเนินการ 60,000 บาท
จากการสอบสวนทราบว่าขบวนการที่ปลอมรอยประทับขออยู่ต่อในประเทศไทย มีชาวจีนเป็นนายหน้าคาดว่าจะมีเหยื่อหลงเชื่อเป็นจำนวนมาก ซึ่งการตรวจสอบเจ้าหน้าที่ประจำด่านตรวจคนเข้าเมืองเชียงแสน เป็นไปตามนโยบายของ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มอบหมายให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองระดม กวาดล้างบุคคลต่างด้าวที่อยู่ในราชอาณาจักรโดยการอยู่เกินกำหนดอนุญาต ( Overstay) และการกระทำ ความผิดตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจึงได้สั่งการให้หน่วยงาน ในสังกัดปฏิบัติงานด้านการป้องกันปราบปราม สืบสวนจับกุม ของ สตม. หน่วยงานในสังกัด ดำเนินการระดมกวาดล้างบุคคลต่างด้าวที่อยู่ในราชอาณาจักรโดยการอยู่เกินกำหนด อนุญาต (Overstay ) รวมถึงการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้อย่างต่อเนื่อง.