รายงาน : พลังเยาวชนศาสนิกสัมพันธ์ชายแดนใต้ เสริมสร้างพัฒนาสังคมพหุวัฒนธรรมที่เข้มแข็ง
สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดปัตตานีจัดโครงการพัฒนาสังคมพหุวัฒนธรรมที่เข้มแข็งและเสริมสร้างการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ภายใต้ชื่อกิจกรรมพลังเยาวชนศาสนิกสัมพันธ์เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์
นางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม(วธ.) กล่าวว่า วธ.มีนโยบายในการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้โดยการนำมิติทางด้านศาสนา ศิลปะ และวัฒนธรรม ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ด้านความมั่นคง การสร้างความปรองดองและความสันติสุขในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ สามารถดำเนินชีวิตร่วมกันอย่างปกติสุขในสังคมที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม โดยในปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดปัตตานีจัดโครงการพัฒนาสังคมพหุวัฒนธรรมที่เข้มแข็งและเสริมสร้างการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ภายใต้ชื่อกิจกรรมว่า พลังเยาวชนศาสนิกสัมพันธ์เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์
ทั้งกล่าวอีกว่า โดยบูรณาการงบประมาณจากสำนักงานปลัดวธ. และกรมการศาสนา เพื่อสร้างการรับรู้และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของสถาบันพระมหากษัตริย์ที่มีต่อปวงชนชาวไทย ส่งเสริมการอยู่ร่วมกันในสังคมพหุวัฒนธรรมอย่างมีความสุข เกิดการยอมรับและเคารพในความหลากหลายทางเชื้อชาติ เกิดจิตสำนึกในเรื่องความสมานฉันท์บนความหลากหลายทางศาสนา และวัฒนธรรมอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข นำหลักธรรมทางศาสนา น้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาประพฤติปฏิบัติในการดำเนินชีวิต โดยมีผู้เข้าร่วมโครงการฯ 120 คน ประกอบด้วย นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ครูอาจารย์ และเจ้าหน้าที่สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดปัตตานี ดำเนินการระหว่างวันที่ 28 พฤศจิกายน – 2 ธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา
สำหรับกิจกรรม ประกอบด้วย การเสวนาศาสนิกสัมพันธ์ หัวข้อ “การอยู่ร่วมกันในสังคมพหุวัฒนธรรม” และบรรยายให้ความรู้ หัวข้อ “สถาบันพระมหากษัตริย์กับสังคมไทย” การรับฟังบรรยายจากผู้อำนวยการสถาบันเอเชียตะวันออกศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เรื่อง “เรียนรู้อย่างเข้าใจบนวิถีพหุวัฒนธรรม” คณะผู้เข้าร่วมกิจกรรมเข้าเยี่ยมคารวะและรับฟังโอวาทจากจุฬาราชมนตรี ผู้บริหาร วธ. ศึกษาดูงานวิถีพหุวัฒนธรรมชุมชนคุณธรรมกุฎีจีน กรุงเทพมหานคร หอศิลป์แห่งชาติ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร นอกจากนี้เยี่ยมชมโครงการชั่งหัวมันตามพระราชดำริและอุทยานราชภักดิ์ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ศูนย์การเรียนรู้วิถีชุมชนเศรษฐกิจพอเพียง “นาโปแก” และชุมชนท่องเที่ยวทะเลน้อย จังหวัดพัทลุง
ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวจะทำให้เยาวชนเกิดความตระหนักในความรักชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ร่วมเป็นกำลังสำคัญในการสร้างความสมานฉันท์ให้เกิดขึ้นในสังคมอย่างเข้มแข็ง และขอเป็นกำลังใจให้กับผู้ปฏิบัติงานในการขับเคลื่อนงานศาสนา ศิลปะ และวัฒนธรรม โดยการมีส่วนร่วมของหน่วยงาน องค์กรเครือข่าย กลุ่มผู้นำศาสนาและประชาชนในพื้นที่ ส่งเสริมให้เกิดความสามัคคี ความรักชาติ ประชาชนสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติสุขภายใต้สังคมพหุวัฒนธรรม ซึ่งเอื้อต่อการพัฒนาและแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ในทุกมิติที่เกี่ยวข้องต่อไป