วันที่ 14 ธ.ค. 65 ที่รัฐสภา นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) พร้อมด้วยส.ส.พรรค แถลงจุดยืนต่อร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กัญชา กัญชง (ฉบับที่…) พ.ศ… 

โดยนายพิธากล่าวว่า จุดยืนของพรรคก้าวไกลไม่เคยเปลี่ยนแปลงแม้แต่เล็กน้อย ตั้งแต่สมัยพรรคอนาคตใหม่ คิดว่ากัญชาสามารถก้าวหน้าได้มากกว่ากัญชาทางการแพทย์ และสามารถเป็นกัญชาสันทนาการที่มีการควบคุมได้ แต่ที่ไม่ใช่จุดยืนของพรรคก้าวไกล คือ กัญชาเสรีสุดโต่งอย่างที่เกิดขึ้น หรือสุญญากาศทางกัญชาที่มีการปลดล็อกกัญชาออกจากยาเสพติด แต่ไม่มีกฎหมายควบคุม จนถึงตอนนี้แม้จะมีกฎกระทรวงมาพยายามอุดช่องโหว่ แต่จากการเกิดกัญชาเสรีในช่วงที่ผ่านมา ก็ยังมีปัญหา ซึ่งเรามีความห่วงใยเยาวชน เพราะคิดว่าหากเราต้องการปกป้องเยาวชนต้องมีกฎหมายมาควบคุมกัญชาที่เข้มข้น 

นายพิธากล่าวต่อว่า ฉะนั้น เราต้องเข้าใจว่ากัญชามีทั้งประโยชน์และโทษ ซึ่งการที่กัญชาหายไปจากสังคมไทยกว่า 60 ปี และมีการมาปลดล็อคกัญชาออกจากยาเสพติด กลายเป็นกัญชาเสรีอย่างสุดโต่ง จะทำให้มีโทษมากกว่าเดิมทั้งนี้ เราต้องการพัฒนาอุตสาหกรรมกัญชาที่ให้ประโยชน์มากกว่าโทษ คือการที่สามารถควบคุมได้ ซึ่งหากเราพัฒนาไม่ดี มีการปล่อยไปให้สุดตรงก่อน แล้วจึงค่อยนำกฎกระทรวงมาปิดช่องโหว่ทีละนิด ก็กลัวว่าจะเป็นวัวหายล้อมคอก

“กัญชาไม่ใช่เรื่องส่วนตัว ไม่ใช่เรื่องที่จะใช้อารมณ์ ไม่ใช่เรื่องของพรรคใดพรรคหนึ่ง และไม่ใช่เรื่องของนายทุนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง แต่เป็นเรื่องของสังคมส่วนรวม ซึ่งต้องหาศูนย์รวมตรงนี้ให้ได้ และย้ำว่าหากอยากให้กัญชาก้าวหน้าต้องมีกฎหมายควบคุม อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจในการโหวตวาระ 3 ต้องมีการลงรายละเอียด และต้องตัดสินใจกันอีกครั้ง ซึ่งแน่นอนว่าเราต้องเอาประชาชนเป็นที่ตั้ง” นายพิธา กล่าว

ด้านนายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ส.ส.กรุงเทพมหานคร กล่าวเสริมว่า ในฐานะที่ตนได้เป็นคณะกรรมาธิการของกฎหมายฉบับนี้ ยืนยันตามเดิมที่เคยพูดในสภาว่าการมีพ.ร.บ.กัญชา กัญชงออกมาคือการควบคุม ไม่ใช่การปลดเสรี การไม่มีกฎหมายในปัจจุบันเป็นสุญญากาศนี่เป็นการปล่อยเสรี 

“สิ่งแรกคือ ไม่ให้กลุ่มทุนใดกลุ่มหนึ่ง หรือกลุ่มการเมืองใดกลุ่มการเมืองหนึ่งผูกขาด ประชาชนได้มีโอกาสเข้าถึงประโยชน์ทางเศรษฐกิจ หรือการเข้าถึงการใช้ประโยชน์จากกัญชาอย่างเต็มที่ สอง แน่นอนที่สุด นี่คือสิ่งที่พรรคก้าวไกลมองมาตั้งนานแล้ว พอเห็นร่างพ.ร.บ.กัญชา ที่พรรคภูมิใจไทย(ภท.) เสนอ เราและพี่น้องประชาชนเครือข่ายกัญชาช่วยกันร่างพ.ร.บ.อีกหนึ่งฉบับ ซึ่งเรียกว่า “กัญชาก้าวหน้า” โดยมีหลักใหญ่ใจความที่เข้าไปอุดช่องว่างอยู่เยอะมาก” นายเท่าพิภพ กล่าว

นายเท่าพิภพกล่าวต่อว่า ตนกล้าพูดเลยว่า ร่างพ.ร.บ.กัญชา ที่พิจารณาวันนี้ 70-80% เป็นสิ่งที่ตนได้ใส่เข้าไปในเรื่องการควบคุม แม้จะมีบางมาตราที่กมธ.ส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย ดังนั้นอยากให้ทุกคนเชื่อว่า การทำงานของตนรวมถึงพรรคก้าวไกลที่ได้อยู่ในกมธ. เราตอบจุดประสงค์นี้เป็นหลักแน่นอน และวันนี้ที่ตนเรียกร้องให้สภาพิจารณา เพื่อโหวตผ่านในสิ่งที่ตนได้แปรญัตติไป เช่น การเก็บภาษีกัญชาเพื่อมาบำรุงท้องถิ่น, การคุ้มกันเยาวชนที่มากขึ้น หากเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี ใช้กัญชา ผู้ปกครองมีความผิดด้วย เป็นไปตามหลักกฎหมายที่เคยมีมาก่อนแล้ว เรื่องบุหรี่เรื่องสุราที่มีพ.ร.บ.คุ้มครองเด็กและเยาวชน 

นายเท่าพิภพกล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องให้ผ่านหรือไม่ผ่าน ตนมองว่ามีรายละเอียดหลายอย่างมาก การที่กัญชาไม่เป็นยาเสพติดจะส่งผลกระทบหลายอย่าง พรรคก้าวไกลต้องยืนยันอีกครั้งว่า การให้เป็นยาเสพติดจะสามารถควบคุมได้มากกว่า แต่ผู้ที่เริ่มปลูกไปแล้ว ก็สามารถใช้พ.ร.บนี้ได้ ทำธุรกิจได้เหมือนเดิม นี่คือทางออกที่ดีที่สุด