ชาวบ้านบุรีรัมย์ต้องผิงไฟและตากแดดคลายหนาว ขณะเด็ก คนชรา และผู้ที่มีโรคประจำตัวเริ่มเจ็บป่วยหลังอุณหภูมิลดฮวบฉับพลัน 16 องศาเซลเซียส ทำให้ร่างกายปรับตัวไม่ทัน วอนภาครัฐนำผ้าห่มเสื้อกันหนาวมาแจกจ่ายช่วยเหลือเพราะไม่ได้รับมา 3-4 ปีแล้ว บางคนเลือกจิบเหล้าขาวเชื่อช่วยคลายหนาว
วันที่ 14 ธ.ค.65 ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า มีชาวบ้าน ผู้สูงอายุในหมู่บ้านตาดตรวน ต.ชุมเห็ด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ต่างพากันออกมาก่อไฟผิง และนั่งตากแดดเพื่อสร้างความอบอุ่นให้แก่ร่างกายหลังสภาพอากาศหนาวเย็นลงแบบฉับพลัน ล่าสุดอุณหภูมิลดต่ำอยู่ที่ 16 องศาเซลเซียส ขณะที่เด็ก คนชรา และผู้ที่มีโรคประจำตัวในหมู่บ้านหลายคนที่มีสภาพร่างกายอ่อนแอและภูมิต้านทานต่ำก็เริ่มมีอาการเจ็บป่วยด้วยโรคทางเดินหายใจแล้ว และคาดว่าหากสภาพอากาศหนาวเย็นมากกว่านี้จะทำให้เด็ก ผู้สูงอายุได้รับผลกระทบมากกว่านี้
ขณะเดียวกัน อยากให้หน่วยงานภาครัฐนำผ้าห่มหรือเสื้อกันหนาวมาแจกจ่ายช่วยเหลือชาวบ้าน เด็ก คนชรา ที่ครอบครัวฐานะยากจนในพื้นที่ด้วย เพราะไม่ได้รับการแจกจ่ายช่วยเหลือมา 3-4 ปีแล้ว เชื่อว่าหากมีผ้าห่มกันหนาวเพียงพอจะช่วยบรรเทาผลกระทบจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นได้
โดย นางพรรณี สวายรัมย์ อายุ 54 ปี ชาวบ้านตาดตรวน บอกว่า หลังจากสภาพอากาศหนาวเย็นลงอย่างฉับพลัน ก็ทำให้แม่ซึ่งเป็นผู้สูงอายุและมีโรคประจำตัว รวมถึงลูกชายซึ่งยังเป็นเด็ก มีภูมิต้านทานต่ำก็มีอาการเจ็บป่วยด้วยโรคทางเดินหายใจ ก็อยากให้หน่วยงานภาครัฐนำผ้าห่มหรือเสื้อกันหนาวมาแจกจ่ายเพื่อบรรเทาความหนาวเย็น เพราะชาวบ้านบางคนไม่มีกำลังซื้อ ประกอบกับมีสมาชิกในครอบครัวหลายคน
ส่วน นางสม ครรัมย์ อายุ 72 ปี บอกว่า อากาศหนาวเย็นมา 2 วันแล้วทำให้เริ่มมีอาการเจ็บป่วย เพราะปกติก็มีโรคประจำตัวทั้งเบาหวาน ความดันอยู่แล้ว ช่วงนี้จะใช้วิธีสวมใส่เสื้อผ้าหนาๆ ใส่หมวกไหมพรมเพื่อทำให้ร่างกายอบอุ่น แต่ตอนกลางคืนซึ่งอากาศจะหนาวมากกว่ากลางวันก็จะรู้สึกเย็นมาก อยากให้ภาครัฐนำผ้าห่ม หรือเสื้อกันหนาวมาแจกจ่ายด้วยเพื่อจะได้มีไว้ห่มกันหนาว เพราะไม่เคยได้รับมาเกือบ 4 ปีแล้ว
ขณะที่นายสุชด เทียมทอง อายุ 39 ปี บอกว่า หลังจากอากาศหนาวเย็นลงก็จะใช้วิธีก่อไฟผิงและดื่มเหล้าขาวบ้าง เพราะเชื่อว่าจะสามารถแก้หนาวได้ แต่ก็รู้ว่าการดื่มเหล้าไม่ดีต่อสุขภาพ แต่เลือกจิบแค่ทำให้ร่างกายอบอุ่นเท่านั้น ไม่ได้ดื่มเยอะจนกระทบต่อสุขภาพ