วันที่ 13 ธันวาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน รองปลัด สธ.กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการค่าตอบแทนกำลังคนด้านสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุขครั้งที่ 2/2565 ว่า ที่ประชุมได้รับทราบตามข้อเสนอของคณะอนุกรรมการพิจารณากลั่นกรองการจ่ายค่าตอบแทนกำลังคนด้านสาธารณสุข ในการปรับปรุงเพิ่มเติมรายชื่อสาขาวิชาชีพและรายชื่อสายงาน ที่มีสิทธิได้รับเงินค่าตอบแทนในข้อบังคับกระทรวงสาธารณสุขฯ พ.ศ.2565
ซึ่งประกอบไปด้วย 1.นักวิทยาศาสตร์มีการเพิ่ม 10 สายงาน คือ นักเทคโนโลยีหัวใจและทรวงอก แพทย์แผนไทย นักจิตวิทยาคลินิก นักกิจกรรมบำบัด นักกายอุปกรณ์ นักเวชศาสตร์การสื่อความหมาย นักโภชนาการ นักฟิสิกส์รังสี นายสัตวแพทย์ และนักปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์ 2.นักวิชาการด้านสาธารณสุข เพิ่ม 4 สายงาน ได้แก่ นักสังคมสงเคราะห์ นักจิตวิทยา นักวิชาการสิ่งแวดล้อม และนักวิชาการเกษตร3.เจ้าพนักงานสาธารณสุข เพิ่ม 3 สายงาน คือ เจ้าพนักงานสาธารณสุข เจ้าพนักงานเวชกิจฉุกเฉิน พนักงานกู้ชีพ และ 4.เจ้าพนักงานเทคนิค เพิ่ม 3 สายงาน ได้แก่ ช่างกายอุปกรณ์ ช่างทันตกรรม และช่างภาพการแพทย์ รวมทั้งหมด 20 สายงาน
โดย นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ส่วนรายชื่อสายงานที่มีสิทธิได้รับเงินค่าตอบแทนล่วงเวลา (โอที) และเวรผลัดบ่าย/ดึก ตามหลักเกณฑ์ค่าตอบแทน ฉบับที่ 5 ในส่วนของตำแหน่งเจ้าหน้าที่พยาบาล ได้มีการขยายนิยามและเพิ่มสายงาน 4 สายงาน คือ 1.พยาบาลวิชาชีพ นักปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์ (วุฒิปริญญาตรี) 2.พยาบาลเทคนิค เจ้าพนักงานเวชกิจฉุกเฉิน เจ้าพนักงานสาธารณสุข (เวชกิจฉุกเฉิน) พนักงานกู้ชีพ EMT-I (วุฒิอนุปริญญา) 3.ผู้ช่วยพยาบาล และ 4.ผู้ช่วยเหลือคนไข้ พนักงานกู้ชีพ EMT-B
ซึ่งจากการคาดการณ์สถานการณ์การเงินการคลังหลังการเพิ่มค่าตอบแทน ฉบับ 5 โดยเมื่อปรับค่าตอบแทนโอที ร้อยละ 8 และค่าเวรบ่าย/ดึก ร้อยละ 50 และปรับเพิ่มวิชาชีพและสายงานดังกล่าวแล้ว มีค่าใช้จ่ายเพิ่มประมาณปีละ 3,000 ล้านบาท หน่วยบริการโรงพยาบาลทุกระดับสามารถดำเนินการบริหารจัดการได้ และสอดคล้องกับสภาวะการเงินการคลังรายรับรายจ่ายในภาพรวม กรณีโรงพยาบาลที่มีปริมาณงานมากและมีสถานการณ์เงินบำรุงรายรับดี สามารถปรับการเบิกจ่ายให้เพิ่มได้ตามความเหมาะสมของภาระงานและสถานการณ์การเงินการคลังโดยผู้บริหารหน่วยงานต้องติดตามผลรายรับรายจ่ายหลังเพิ่มค่าตอบแทนตามฉบับที่ 5 โดยผู้บริหารระดับจังหวัด และเขตสุขภาพ ร่วมพิจารณาการดำเนินงานในภาพรวม
สำหรับการปรับปรุงเพิ่มค่าตอบแทนโอที ได้มีการแก้ไขข้อความเล็กน้อยในส่วนของแพทย์ จากเดิมที่ระบุว่า แพทย์อัตราเดิม 550-1,100 บาท ได้แก้ไขข้อเสนอเป็นอัตรา 600-1,200 บาท แทน ทั้งนี้ จะมีการจัดทำร่างข้อบังคับกระทรวงสาธารณสุขฯ และจัดทำร่างหลักเกณฑ์ค่าตอบแทน ฉบับที่ 5 ที่แก้ไขเพิ่มเติม นำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการแก้ไขระเบียบเงินบำรุงฯ และกฎหมายลำดับรอง เสนอปลัด สธ.พิจารณาลงนามต่อไป
นอกจากนี้ ยังมีการปรับเพิ่มรายชื่อสาขาวิชาชีพที่สามารถเบิกจ่ายค่าตอบแทนในอัตราสหสาขาวิชาชีพ แนบท้ายหลักเกณฑ์ค่าตอบแทน ฉบับที่ 11 ซึ่งเดิมมีการประกาศรายชื่อ 12 สาขาวิชาชีพ ได้เพิ่มตำแหน่ง “นักโภชนาการ” เป็นลำดับที่ 13 รวมถึงเห็นชอบการปรับหลักเกณฑ์และอัตราเงินเพิ่มสำหรับตำแหน่งที่มีพิเศษของผู้ปฏิบัติงานด้านสาธารณสุข (พ.ต.ส.) ซึ่งผ่านความเห็นชอบที่ประชุม อ.ก.พ.กระทรวงสาธารณสุข แล้ว โดยเสนอปรับฐานอัตราเงิน พ.ต.ส.เพิ่มร้อยละ 20 เพื่อให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจ และเพิ่ม 8 วิชาชีพ ได้แก่ นักสาธารณสุขหรือนักวิชาการสาธารณสุข, แพทย์แผนไทย, นักกายอุปกรณ์, นักโภชนาการ, นักวิทยาศาสตร์การแพทย์, นักสังคมสงเคราะห์, นักฟิสิกส์รังสี และนักฟิสิกส์การแพทย์ โดยคาดการณ์ว่างบประมาณจากการปรับฐานจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 27.06 ซึ่งตรงนี้จะใช้เงินงบประมาณ จึงจะเสนอขอความเห็นชอบจากสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ต่อไป