กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย ร่วมกับ สมาคมแม่บ้านมหาดไทย ขับเคลื่อนโครงการ “ผ้าไทยใส่ให้สนุก” ตามแนวพระดำริสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เพื่อพัฒนาคุณภาพและยกระดับผลงานหัตถกรรมไทย และสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับประชาชนอย่างยั่งยืน โดยกำหนดจัดงาน เทศกาลไหมไทย 2565 (Thai Silk Festival 2022) การแสดงแบบผ้าไทยร่วมสมัย และผ้าไทยลายอัตลักษณ์ 4 ภาค เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนี พันปีหลวง ในปี 2565 ระหว่างวันที่ 15, 16 และ 18 ธันวาคม 2565 ณ บริเวณหน้าเพลนารีฮอลล์ 1-3 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เพื่อเผยแพร่พระราชกรณียกิจด้านการอนุรักษ์ผ้าไทยในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พร้อมพระปณิธานและพระกรณียกิจของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญาที่ทรงสืบสาน รักษา ต่อยอดเผยแพร่ความงดงามของหัตถศิลป์ไทย โดยจัดงานแถลงข่าวในวันอังคารที่13 ธันวาคม 2565 เวลา 10.30 น. ณ บริเวณหน้าเพลนารีฮอลล์ 3 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะประธานที่ปรึกษาโครงการผ้าไทยใส่ให้สนุก กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 70 ปีที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงพระวิริยะอุตสาหะในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนคนไทย พระองค์ยังได้ทรงหว่านเมล็ดพันธุ์แห่งความรักความเมตตา และหยิบยื่นเมล็ดพันธุ์ที่จะมาช่วยเหลือพวกเราอย่างต่อเนื่องต่อไป ยิ่งไปกว่านั้นสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ได้ทรงซึมซับเอาพระราชกรณียกิจที่งดงามของสมเด็จย่าของพระองค์มาเป็นต้นแบบของความรัก ความผูกพัน และความตั้งใจที่จะพัฒนา งานด้านศิลปะและผ้าไทย และได้ทรงพัฒนาคุณภาพชีวิตของพวกเราเหมือนที่สมเด็จย่าของพระองค์ได้ทรงปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง โดยมีพระดำริในการทรงสนับสนุน ส่งเสริม อนุรักษ์ผ้าไทย และงานหัตถศิลป์ไทยได้เป็นที่รู้จักสู่สากล พระองค์ท่านทรงปรารถนาที่จะเห็นพสกนิกรของพระองค์ ได้มีรายได้จากภูมิภาค หัตถศิลป์ หัตถกรรมในชุมชนของตนเองอย่างยั่งยืน ซึ่งชิ้นงานที่ผลิตจะเกิดความยั่งยืนได้ ต้องได้รับการถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่นด้วยความคิดที่สร้างสรรค์ ซึ่งเป็นเสมือนหลักประกันว่า สิ่งเหล่านี้จะได้รับการสืบสาน
ภายในงานเทศกาลไหมไทย 2565 ยังจัดกิจกรรมแบ่งออกเป็น 3 โซน ได้แก่ 1.โซนนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติฯ จัดแสดงพระบรมฉายาลักษณ์ พระราชประวัติ และพระราชกรณียกิจ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงให้ความสำคัญและทุ่มเทพระวรกายในการอนุรักษ์และฟื้นฟูศิลปวัฒนธรรมของชาติอย่างผ้าไทย พระราชทานโครงการศิลปาชีพฯ จนก่อเกิดประวัติศาสตร์การฟื้นฟู การทอผ้าไทยจนครบวาระ 50 ปี และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงสืบสาน ต่อยอด และเสด็จเยี่ยมราษฎรทั่วทุกภูมิภาค จนก่อเกิดการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เช่น โครงการดอนกอยโมเดล โครงการนาหว้าโมเดล รวมทั้งนิทรรศการหม่อนไหม และนิทรรศการผ้าไทยลายอัตลักษณ์ 4 ภาค 2.โซนออกบูทร้านค้า OTOP Luxury ทั้ง 4 ภาค เหนือ กลาง อีสาน ใต้ จำนวน 100 บูท ประกอบด้วย กลุ่มผู้ประกวดผ้าลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ, ผ้าลายขิดนารีรัตนราชกัญญา ซึ่งได้รับรางวัลเหรียญพระราชทานต่างๆ รวมทั้งร้านค้าของศิลปิน OTOP ที่มีชื่อเสียง ไม่ว่าจะเป็น “อาจารย์เถ่า-มีชัย แต้สุจริยา” ศิลปินแห่งชาติจากบ้านคำปุน จังหวัดอุบลราชธานี, “อาจารย์วีรธรรม ตระกูลเงินไทย” แห่งบ้านจันทร์โสมา จังหวัดสุรินทร์, “อภิชาติ พลบัวไข” หรือ“ผู้ใหญ่ต้น” แห่งบ้านโนนกอก จังหวัดอุดรธานี 3.โซนลานคำหอม (จำลอง) สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตน ราชกัญญา จะเสด็จฯ มาพระราชทานรางวัลผ้าลายขิดนารีรัตน ราชกัญญารางวัลงานหัตถกรรม รางวัล Young OTOP รางวัลมหาดไทยผ้าไทยใส่ให้สนุก
ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย กล่าวว่า นับเป็นความโชคดีของพสกนิกรไทยทุกคน ซึ่งไม่มีคนแผ่นดินไหนในโลกโชคดีเหมือนกับคนไทย เพราะตลอดระยะเวลากว่า 70 ปีที่ผ่านมาเราได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงรื้อฟื้นผ้าไทยที่หายไปจากแผ่นดินไทยให้กลับคืนสู่ชีวิตของคนไทยและสังคมไทย ด้วยเพราะพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านทำให้เราได้รู้จักผ้าไทยถึงทุกวันนี้ และนับเป็นพระกรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ที่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตน ราชกัญญา ทรงตั้งพระทัยมั่นในการสืบสานเพื่อทำให้ผ้าไทยไม่สูญหาย ซึ่งเป็นเครื่องสะท้อนถึงความเป็นชาติ เอกลักษณ์ และวัฒนธรรมความเป็นไทย
สมาคมแม่บ้านมหาดไทย น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณและมีความมุ่งมั่นในการสนองพระราชดำริ “ผ้าไทยใส่สนุก” ด้วยการจัดประกวดการออกแบบตัดเย็บผ้าไทยให้มีความหลากหลาย ใส่ได้ในทุกโอกาส ทุกช่วงวัย เช่น ชุดไปงานฉลองรับปริญญา ชุดไปงานแต่งงาน หรือใส่ในชีวิตประจำวัน เพื่อทำให้เราได้เห็นว่าผ้าไทยสามารถตัดเย็บได้ทุกแบบ สามารถขยายผลเป็นชุดที่มีหลากสีสันได้ โดยจะเป็นหนึ่งในกิจกรรมการประชุมสมาคมแม่บ้านสัญจรโดยมีประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดทุกจังหวัดเป็นผู้นำร่วมกับภาคีเครือข่ายในพื้นจังหวัด ทั้งผู้นำกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี สมาคมสตรี กลุ่มสตรีระดับจังหวัด อำเภอ ตำบล โรงเรียน มหาวิทยาลัย และทุกกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งเมื่อเราสามารถขับเคลื่อนการส่งเสริมผ้าไทยเหล่านี้ได้สำเร็จ จะทำให้เกิดกระแสความสนใจและความนิยมชมชอบ เกิดการกระตุ้นภาคการผลิต (ต้นน้ำ) จากปริมาณความต้องการผ้าไทย (กลางน้ำ) ที่เพิ่มมากขึ้น ก็ส่งผลทำให้ปลายน้ำ คือ ช่างทอผ้า ได้มีอาชีพที่มั่นคง มีรายได้ที่เพิ่มพูน ครอบครัวและลูกหลานได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน ดร.วันดีกล่าว
นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวว่า การประกวดผ้า ลายขิดนารีรัตนราชกัญญาในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ที่สำคัญ คือ เพื่อสืบสานพระราชปณิธานของสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวงที่ทรงอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นมาโดยตลอดและต่อเนื่องยาวนาน และมีสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงสืบสานด้วยพระอัจฉริยภาพโดยนวัตกรรมต่างๆ มาช่วยทำให้ประชาชนมีอาชีพมีรายได้ที่มั่นคง และคัดเลือกผ้าที่สวยงามและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ใช้สีธรรมชาติ ประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนได้รับรู้ว่า สิ่งเหล่านี้คือศิลปวัฒนธรรมความภาคภูมิใจของคนไทย
สำหรับผลงาน “ผ้าลายขิดนารีรัตนราชกัญญา” ปีนี้มีชิ้นงานส่งเข้าประกวด ประเภทผ้า 2,946 ผืน และงานหัตถกรรม จำนวน 298 ชิ้น ผลงานที่ผ่านเข้ารอบตัดสินระดับประเทศ ประกอบด้วยประเภทผ้า จำนวน 61 ผืน และงานหัตถกรรม จำนวน 10 ชิ้น ซึ่งผู้เข้าประกวดได้นำเสนอแนวคิด เทคนิค และวิธีการทอผ้า ย้อมสีผ้า ทั้งนี้ทุกท่านที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นสุดยอดผลงาน ผ้าลายพระราชทาน “ผ้าลายขิดนารีรัตนราชกัญญา” ประจำปีนี้ จะได้เข้ารับพระราชทานเหรียญรางวัลจากสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ในงานเทศกาลไหมไทย 2565 (Thai Silk Festival 2022) ในวันที่ 17 ธันวาคม 2565 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
ด้าน นายกุลวิทย์ เลาสุขศรี กรรมการที่ปรึกษาโครงการผ้าไทยใส่ให้สนุก และ นายธนันท์รัฐ ธนเสฏฐการย์ คณะกรรมการประกวดผ้าฯ เผยว่า ภายในงานยังได้จัดแฟชั่นโชว์ผลงาน 10 แบรนด์ไทยดีไซเนอร์ชื่อดัง ได้แก่ SIRIVANNAVARI Couture, KAI, TIRAPAN, PICHITA, PISIT, THEATRE, ASAVA, ISSUE, VATIT ITTHI และ WISHARAWISH รังสรรค์ผลงานสุดประณีตที่ได้แรงบันดาลใจจากสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดยนำผ้าไทยลายอัตลักษณ์ 4 ภาค มาตัดเย็บเป็นชุดที่มีดีไซน์ทันสมัย อาทิ ผ้าไหมแพรวา ผ้าไหมมัดหมี่ ผ้าไหมยกดอกผ้าปักชาวเขา ผ้าไหมหางกระรอก ผ้าบาติก ผ้าฝ้ายย้อมคราม ผ้าขาวม้า ผ้าหางกระรอก สะท้อนมุมมองของผ้าไทยในอีกมิติหนึ่ง และเห็นถึงศักยภาพของการพัฒนาลายผ้าทอให้เข้ากับยุคสมัย แต่ยังคงอัตลักษณ์และเสน่ห์ของความเป็นไทยไว้อย่างสมบูรณ์
สำหรับผู้สนใจสามารถเข้าชมนิทรรศการ พร้อมร่วมสนับสนุนอนุรักษ์ผ้าไทย และงานหัตถศิลป์ไทยได้ในงาน Thai Silk Festival 2022 ระหว่างวันที่ 15, 16 และ 18 ธันวาคม 2565 ณ บริเวณหน้าเพลนารีฮอลล์ 1-3 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์