วันที่ 12 ธ.ค.65 นายชัชชาติ สิทธิพันธ์ุ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวภายหลังรับมอบหนังสือภาษาอังกฤษจากบริษัท Big Bad Wolf ในงาน Big Bad Wolf Book Festival ณ อาคาร 4 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ว่า กทม.มีแผนส่งเสริมหนังสือสู่ห้องสมุดชุมชนมากขึ้น ภายใต้แนวคิด หนังสือต้องเข้าหาเด็ก ไม่ใช่เด็กต้องเข้าหาหนังสือ โดยปัจจุบัน กทม.มีบ้านหนังสือหรือห้องสมุดประจำชุมชนกว่า 2,000 แห่ง ซึ่งต้องเน้นการส่งเสริมหนังสือที่มีคุณภาพมากขึ้น สร้างวัฒนธรรมการอ่านให้เข้มแข็ง ในขณะที่โลกมีสื่อออนไลน์มากมาย หนังสือยังคงมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาชาติและสร้างสังคมที่ดีต่อไป

 

นายชัชชาติ เปิดเผยว่า ส่วนตัวให้ความสำคัญกับหนังสือมาก กล้าพูดได้ว่าตนมีวันนี้ได้เพราะหนังสือ เนื่องจากที่ผ่านมา ตนมีหนังสือติดมือไว้ตลอด ซึ่งเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า หนังสือบางเล่มตนมีไว้แต่ไม่ได้อ่านวันนี้ เก็บไว้อ่านปีหน้าก็มี ซึ่งตนมองว่า หนังสือเล่มเดียวกัน แต่อ่านคนละช่วงเวลา หรืออ่านในเวลาที่เปลี่ยนไปจะพบความหมายคนละแบบเนื่องจากชีวิตเราเปลี่ยนแปลงไป เติบโตมากขึ้น มีประสบการณ์มากขึ้น สำหรับนโยบายเกี่ยวกับหนังสือของกทม. จะทำให้กรุงเทพมหานครเป็นเมืองหนังสือระดับโลกดังเดิม แต่พยายามเน้นที่เส้นเลือดฝอย ส่งเสริมหนังสือในชุมชน โดยเฉพาะบ้านหนังสือแต่ละชุมชน ให้เด็กเข้าถึงหนังสือดีๆ ได้ โดยไม่ต้องไปอ่านหนังสือดีๆ เฉพาะที่หอสมุดกลางเมืองเท่านั้น บ้านหนังสือในชุมชนแต่ละแห่ง ต้องมีหนังสือที่มีคุณภาพ ทันสมัย ซึ่งจะชักจูงให้เด็กเข้าถึงหนังสือมากขึ้น สามารถเข้าถึงหนังสือในบริเวณใกล้บ้านได้ ไม่ต้องเดินทางไปถึงหอสมุดส่วนกลาง

 

อีกเรื่องคือ ผู้ปกครองต้องช่วยสนับสนุนให้เด็กอ่านหนังสือมากขึ้น อย่างน้อยมีหนังสือติดบ้านไว้ สามารถแนะนำบุตรหลานได้ ทำให้หนังสือไปหาเด็ก ไม่ใช่ให้เด็กไปหาหนังสือ โดยปัจจุบัน หนังสือมีราคาแพงขึ้นมาก ส่วนหนึ่งรัฐต้องช่วยสนับสนุนให้ประชาชนเข้าถึงหนังสือได้ โดยการกระจายหนังสือจากส่วนกลางลงชุมชนมากขึ้น เพราะหนังสือหนึ่งเล่ม สามารถอ่านได้หลายคน ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันยืมอ่านได้

 

นายชัชชาติ กล่าวว่า การอ่านเป็นพื้นฐานในการพัฒนาชีวิต แม้ปัจจุบันจะมีทางเลือกอื่นมากมาย แต่หนังสือยังจำเป็นในการสร้างนิสัยการอ่านให้กับเด็ก แต่ละบ้านควรมีหนังสือติดบ้านไว้ให้เด็กพัฒนาการอ่าน สนับสนุนให้บุตรหลานอ่านหนังสือที่เขารัก อาจเริ่มจากหนังสือการ์ตูน สุดท้ายเขาจะติดเป็นนิสัยแล้วอ่านหลากหลายมากขึ้น หนังสือเป็นการลงทุนระยะยาว สามารถเก็บไว้อ่านหรือส่งต่อให้ผู้อื่นได้

 

“ปัจจุบันผมคิดว่าเด็กและเยาวชนอ่านหนังสือมากขึ้น เป็นเรื่องน่ายินดี เพราะผมเองมีวันนี้ได้เพราะหนังสือ ทำให้มีความรู้หลากหลาย สามารถเปลี่ยนโอกาสให้เป็นโชคดีได้ หากเราไม่อ่านหนังสือเพิ่มเติม มีแต่ความรู้ในห้องเรียนเราจะมีความรู้จำกัด ขอให้มีความรู้กว้างๆ อ่านเยอะๆ และรักการอ่าน จะเป็นต้นทุนที่ดีในอนาคต” นายชัชชาติ กล่าว