วันที่ 9 ธ.ค.65 ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Apisit Chavanon โพสต์ข้อความระบุว่า...

ปิดจบปี 2 เทอม 1 ด้วยการ #ใส่ชุดไปรเวทเข้าสอบ ตลอด 4 วิชาในสองสัปดาห์ที่ผ่านมา

JUV DEL 2403185

ไม่มีปัญหาไรเลย

EAP I 5500243

เซ็นใบบันทึกพฤติกรรมตามปกติ

NAT RE 2305100

บันทึกไว้เลยว่าเป็นวิชาเจ้าปัญหา ตั้งแต่เปิดประตูเข้าไป กรรมการคุมสอบยืนกรานว่าเราไม่สามารถเข้าสอบได้ พร้อมซักถามที่มาที่ไปว่าทำไมใส่ชุดไปรเวทมา เกิดเป็นบทสนทนาแปลก ๆ แบบนี้

ทำไมใส่เสื้อตัวนี้มา

มีเสื้อนิสิตแค่ตัวเดียวครับ ที่คณะไม่ต้องใส่เรียนเลยไม่อยากซื้อเยอะ เปลืองเงิน

แล้วเสื้อตัวนี้ที่คุณใส่มันไม่แพงกว่าเสื้อนิสิตหรอ

250 บาทครับ จตุจักร

ถ้าคุณไม่ใส่ชุดนิสิต ผมจะ identify ยังไงว่าคุณเป็นนิสิตมหาลัยนี้

///ชูบัตรนิสิต

(ช็อคแปปนึง) ไม่ๆๆๆๆๆ

สุดท้ายจบที่เซ็นใบบันทึกพฤติกรรมและเข้าสอบได้ตามที่เราอ้างสิทธิ์นั่นแหละ แต่อาจารย์แค่ไม่ยอมเชื่อตั้งแต่แรก

ดูออกเลยว่าคณะวิทยาศาสตร์ไม่รู้ระเบียบการคุมสอบตั้งแต่กรรมการ อาจารย์ ยันเจ้าหน้าที่คณะ ตอนแรกได้ยินว่าจะหายืมเสื้อนิสิตมาให้ใส่ด้วยซ้ำ กว่าจะได้สอบคือเลทไปแล้ว 40 นาที ไม่อยากถามหรอกว่าใครกันแน่ที่บกพร่องในการปฏิบัติหน้าที่ของตัวเอง

GEN PSY 3800101

เซ็นใบบันทึกพฤติกรรมตามปกติ นิเทศ 57 พร้อมใจใส่ไปรเวทเยอะมาก กรรมการคุมสอบคงเหนื่อยหน่อยในการไล่แจกและรวบรวมใบบันทึก

ที่จะบอกคือ พิสูจน์แล้วว่าใส่ชุดอะไรก็ทำข้อสอบได้จริง ชุดนิสิตไม่ได้มีประโยชน์ในทางปฏิบัติกับการเข้าสอบเลย ทั้งแพงกว่าและใส่ยากกว่า

ประโยชน์เดียวที่คิดออกคือการบังคับใส่ชุดนิสิตคงเติมเต็มความใคร่ในการได้กดขี่ของบุคลกรบางคนที่พอเห็นนิสิตอยู่ใต้อำนาจที่ต่ำกว่าอย่างพร้อมเพียงแล้วจะรู้สึกพึงพอใจ

เพราะงั้นวันนี้การใส่ชุดไปรเวทเข้าสอบยังผิดระเบียบอยู่ แต่ในยุคแห่ง disruption ที่ทุกอย่างต้องพากันปรับตัว จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยจะเป็นเสาหลักของสังคมได้อย่างไรหากสถาบันแห่งนี้ปรับตัวตามสังคมไม่ทันแล้ว?

 

 

ขอบคุณข้อมูล : เพจเฟซบุ๊ก Apisit Chavanon