สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ศาลสหพันธรัฐของสหรัฐฯ ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ยุติการดำเนินคดีต่อเจ้าชายมูฮัมหมัด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารแห่งซาอุดีอาระเบีย จากกรณีที่มีส่วนพัวพันในการสังหารนายจามาล คาช็อกกี นักข่าวซาอุดีอาระเบีย ที่นครอิสตันบูล ประเทศตุรกี เมื่อปี 2018 (พ.ศ. 2561) ซึ่งทางผู้พิพากษาของสหรัฐฯ กล่าวอ้างว่า เพราะประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ ให้เอกสิทธิ์คุ้มครองแก่มกุฎราชกุมารแห่งซาอุดีอาระเบีย

โดยนายจอห์น เบตส์ ผู้พิพากษาแห่งศาลสหพันธรัฐของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ตนลังเลและไม่เต็มใจที่จะยุติกระบวนการทางกฎหมายในคดีนี้ แต่ก็ไม่มีทางเลือก เนื่องจากเป็นการตัดสินใจของรัฐบาลประธานาธิบดีไบเดน ทั้งนี้ ตนยังได้ระบุในคำตัดสินข้างต้นว่า ไม่รู้สึกสบายใจ โดยข้อกล่าวหาที่ว่าเจ้าชายมูฮัมหมัด บิน ซัลมาน เกี่ยวข้องกับการสังหารนายคาช็อกกีมีความน่าเชื่อถือ แต่รัฐบาลประธานาธิบดีไบเดนแจ้งต่อทางศาลฯ ว่า เจ้าชายมูฮัมหมัด บิน ซัลมาน ซึ่งได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของซาอุดีอาระเบียด้วยนั้น มีเอกสิทธิ์คุ้มครอง

รายงานข่าวแจ้งว่า นางฮาทิซ เซนกิส คู่หมั้นของนายช็อกกี ซึ่งเป็นผู้ยื่นฟ้องต่อศาลในสหรัฐฯ ว่าขอให้ดำเนินคดีต่อเจ้าชายมูฮัมหมัด บิน ซัลมาน ว่าเป็นผู้เกี่ยวข้องกับการหน่วยงานด้านความมั่นคงของซาอุดีอาระเบีย สังหารนายคาช็อกกี ซึ่งลี้ภัยอยู่ในสหรัฐฯ เพราะเขียนคอลัมน์วิพากษ์วิจารณ์ต่อรัฐบาลและราชวงศ์ซาอุฯ หลายครั้ง โดยการสังหารมีขึ้นในขณะที่เขาเดินทางไปยังนครอิสตันบูล ประเทศตุรกี เมื่อปี 2018

ทั้งนี้ นางเซนกิส ได้ออกมาระบุว่า จากการยุติดำเนินคดีดังกล่าว เปรียบเสมือนว่านายคาช็อกกีถูกสังหารให้เสียชีวิตซ้ำสอง