กรมชลประทาน ใช้คลองผันน้ำตัดยอดน้ำในคลองบางสะพาน เร่ง หลังมีฝนตกหนักในพื้นที่ ป้องกันและบรรเทาปัญหาน้ำท่วมพื้นที่ชุมชนและเขตเศรษฐกิจอำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้อย่างเต็มศักยภาพ ตามนโยบายและด้วยความห่วงใยของ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 

วันที่ 5 ธ.ค.65 นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ตั้งแต่ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา วัดปริมาณน้ำฝนสะสมสูงสุดในพื้นที่ต่างๆ อาทิ สถานีสำนักงานเกษตรอำเภอบางสะพาน ตำบลกำเนิดนพคุณ 183 มิลลิเมตร(มม.) สถานีศาลากลางหมู่บ้านในล๊อค ตำบลทองมงคล 132 มม. และที่สถานีน้ำตกไทรคู่ ตำบลร่องทอง 125 มม. ส่งผลให้ระดับน้ำในคลองบางสะพานเพิ่มสูงสุด โดยเมื่อเวลา 10.00 น. ของวันนี้ (5 ธ.ค. 65)ที่สถานีวัดน้ำ GT.7 สะพานบ้านวังยาง มีปริมาณน้ำไหลผ่านสูงสุดประมาณ 491.30 ลบ.ม./วินาที ระดับน้ำอยู่ที่ +5.69ม.(รสม.) ส่วนที่สถานีวัดน้ำ GT.20 รร.อนุบาลบางสะพาน ระดับน้ำอยู่ที่ +5.40 ม.(รสม.) และเมื่อเวลา 14.00 น. ที่ผ่านมา สถานีวัดน้ำ GT.7(สะพานบ้านวังยาว) มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 286.55 ลบ.ม./วินาที ระดับน้ำอยู่ +4.39 ม.(รสม.) มีแนวโน้มลดลง ส่วนที่สถานีวัดน้ำ GT.20 ร.ร.อนุบาลบางสะพาน ระดับน้ำอยู่ +5.74 ม.(รสม.) อยู่ในเกณฑ์เฝ้าระวัง มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นในอัตราที่ลดลง

กรมชลประทาน ได้ใช้คลองผันน้ำบางสะพานตัดยอดน้ำในคลองบางสะพาน ก่อนจะเร่งระบายน้ำลงสู่ทะเลอย่างเต็มศักยภาพ  ทำให้ปริมาณน้ำไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ชุมชนและเขตเศรษฐกิจในอำเภอบางสะพานแต่อย่างใด โดยก่อนหน้านี้ ได้รายงานสถานการณ์น้ำไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ร่วมกันประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ 2 ริมฝั่งของลุ่มน้ำคลองบางสะพาน ให้เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำล้นตลิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นได้ นอกจากนี้ ยังได้ปฏิบัติตาม 13 มาตรการรับมือฤดูฝนที่กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ(กอนช.) กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด มีการจัดเตรียมเครื่องจักร เครื่องมือ ตลอดจนเจ้าหน้าที่ประจำจุดเสี่ยง สามารถเข้าไปแก้ไขสถานการณ์ได้อย่างทันท่วงที หากประชาชนหรือหน่วยงานใด ต้องการความช่วยเหลือ สามารถติดต่อไปยังโครงการชลประทานในพื้นที่ หรือโทร 1460 สายด่วนกรมชลประทานได้ตลอดเวลา