พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้วันที่ 5 ธันวาคม ของทุกปี เป็นวันคล้ายวันเฉลิมพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหา ภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร, วันพ่อแห่งชาติ และวันชาติ (ประเทศไทย) เพื่อรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทรงอุทิศพระวรกาย พระราชหฤทัย และพระสติปัญญาของพระองค์ บำเพ็ญพระราชกรณียกิจอันยังประโยชน์สุขให้แก่ราษฎรของพระองค์มาโดยตลอดและได้เชิดชูสดุดีพระเกียรติคุณพระบาทสมเด็จพระบรมชนากาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ให้ทรงเป็นพระบิดาแห่งศาสตร์ต่างๆ 9 แขนง อันได้แก่ 1) พระบิดาแห่งการจัดการทรัพยากรน้ำ2) พระบิดาแห่งเทคโนโลยีของไทย 3) พระบิดาแห่งฝนหลวง 4) พระบิดาแห่งนวัตกรรมไทย 5) พระบิดาแห่งการประดิษฐ์ไทย 6) พระบิดาแห่งการอนุรักษ์มรดกไทย 7) พระบิดาแห่งการวิจัยไทย 8) พระบิดาแห่งมาตรฐานการช่างไทย และ9) พระบิดาแห่งการวิจัยและพัฒนาข้าวไทย
ทั้งนี้หากยกตัวอย่างพระราชกรณียกิจอันยังประโยชน์สุขให้แก่ราษฎรของพระองค์ที่ทำให้ราษฎรจำมิเคยลืม และยังคงปฏิบัติตนอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะในสถานะการณ์ปัจจุบัน คือ หลักปรัชณา “เศรษฐกิจพอเพียง” ที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมีพระราชดำรัสแก่ชาวไทยนับตั้งแต่ พ.ศ.2517 เป็นต้นมา และถูกพูดถึงอย่างชัดเจนในวันที่ 4 ธันวาคม พ.ศ.2540 เพื่อเป็นแนวทางการแก้ไขวิกฤตการณ์ทางการเงินในเอเชีย พ.ศ.2540 ให้สามารถดำรงอยู่ได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนในกระแสโลกาภิวัตน์และความเปลี่ยนแปลงต่างๆ
ด้านนักวิชาการอย่าง “ดร.จิรายุ อิศรางกูร ณ อยุธยา” ประธานคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนเศรษฐกิจพอเพียง อธิบายถึงการพัฒนาตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง ว่า เป็นการพัฒนาที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของทางสายกลางและความไม่ประมาท โดยคำนึงถึง ความพอประมาณ ความมีเหตุผล และการสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีในตัวตลอดจนการใช้ความรู้ ความรอบคอบละคุณธรรมประกอบการวางแผน การตัดสินใจและการกระทำต่างๆ ความพอประมาณ หมายถึงความพอดีที่ไม่มากและไม่น้อยจนเกินไป ไม่เบียดเบียนตนเองและผู้อื่น เช่น การผลิตและการบริโภคที่พอประมาณ ความมีเหตุผล หมายถึง การใช้หลักเหตุผลในการตัดสินใจเรื่องต่างๆ โดยพิจารณาจากเหตุปัจจัยที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนผลที่คาดว่าจะเกิดขึ้นอย่างรอบคอบ การมีภูมิคุ้มกันที่ดี หมายถึง การเตรียมตัวให้พร้อมรับต่อผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงรอบตัว ปัจจัยเหล่านี้จะเกิดขึ้นได้นั้น จะต้องอาศัยความรู้ และคุณธรรม เป็นเงื่อนไขพื้นฐาน กล่าวคือ เงื่อนไขความรู้ หมายถึง ความรอบรู้ ความรอบคอบ และความระมัดระวังในการดำเนินชีวิตและการประกอบการงาน ส่วนเงื่อนไขคุณธรรมคือ การยึดถือคุณธรรมต่าง ๆ อาทิ ความซื่อสัตย์สุจริต ความอดทน ความเพียร การมุ่งต่อประโยชน์ส่วนรวมและการแบ่งปัน ฯลฯ ตลอดเวลาที่ประยุกต์ใช้ปรัชญา
นอกจากนี้พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้พระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์สร้างโครงการอันหลากหลายในโครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดา เพื่อเป็นโรงงานตัวอย่างและพระราชทานโอกาสให้บุคคลกลุ่มต่าง ๆ ที่สนใจ "ดูกิจการได้ทุกเมื่อ"
ลักษณะของโครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดา แบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ
1.โครงการแบบไม่ใช่ธุรกิจ เป็นโครงการสนองแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เกี่ยวกับการพัฒนาประสิทธิภาพการผลิตทางการเกษตร ทรงให้ความสำคัญกับการเพิ่มพูนคุณภาพชีวิตของเกษตรกร โดยมีแนวทางที่สำคัญคือ ทำให้เกษตรกรสามารถพึ่งตนเองได้ทางด้านอาหาร และสนับสนุนให้มีรายได้เพิ่มขึ้นนอกเหนือไปจากภาคเกษตร อีกทั้งเน้นการพัฒนาและอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ โครงการเหล่านี้ได้แก่ โครงการเกี่ยวกับปลานิล ป่าไม้สาธิต นาข้าวทดลองข้าวไร่ การผลิตแก๊สชีวภาพ ปุ๋ยอินทรีย์ เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อพืช สวนพืชสมุนไพร สาหร่ายเกลียวทองโครงการทดลองปลูกพืชโดยปราศจากดิน
2.โครงการกึ่งธุรกิจเป็นโครงการทดลองแปรรูปผลิตภัณฑ์จากการเกษตร มีการจัดผลิตภัณฑ์ออกจำหน่ายในราคาย่อมเยาในรูปแบบที่ไม่หวังผลกำไร แต่มุ่งส่งเสริมให้ประชาชนบริโภคสินค้าที่ผลิตได้ในประเทศไทย ซึ่งมีคุณภาพและราคาไม่แพง โครงการต่างๆเหล่านี้ได้แก่ โรงโคนมสวนจิตรลดา โรงบดและอัดแกลบ ห้องปฏิบัติการทดลอง โรงผลิตน้ำผลไม้ โรงนมเม็ดสวนดุสิต โรงอบผลไม้ โรงกลั่นแอลกอฮอล์ โรงเนยแข็ง โรงสีข้าว โรงเห็ด โรงอาหารปลา โรงผลิตกระดาษสา และโรงหล่อเทียนหลวง
โครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดาที่จัดอยู่ในกลุ่มของอุตสาหกรรมเกษตรมีมากมาย ซึ่งล้วนแต่เป็นโครงการที่ก่อเกิดประโยชน์ต่อพสกนิกรของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทั้งในด้านอยู่ดีกินดีและเสริมสร้างรายได้ โครงการต่างๆอาทิ
โรงโคนมสวนจิตรลดา
เริ่มจากในปี พ.ศ.2505 ได้มีบริษัทและหน่วยราชการน้อมเกล้าฯ ถวายโค 6 ตัว ซึ่งเป็นโคตั้งท้องแล้ว 4 ตัว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์สำหรับสร้างโรงงานโคนม ราคา 32,886.73 บาท ขึ้นในบริเวณสวนจิตรลดา ต่อมาเมื่อแม่โคตกลูกและเริ่มทำการรีดนม น้ำนมที่เหลือจากการแบ่งให้ลูกโคกินแล้ว ได้นำไปจำหน่าย เมื่อมีจำนวนโคนมเพิ่มขึ้น ทั้งจากแม่โคที่ให้ลูกทุกปี และมีผู้น้อมเกล้าฯ ถวายสมทบ ทำให้สามารถผลิตน้ำนมออกจำหน่ายแก่บุคคลภายนอกและโรงเรียนต่างๆในละแวกใกล้เคียง เมื่อมีกำไรสะสมมากยิ่งขึ้นก็ได้ขยายงานออกไปตามลำดับทั้งในด้านการผลิตน้ำนม คุณภาพนมดิบ และการส่งเสริมอาชีพแก่เกษตรกร
ผลพลอยได้จากโรงโคนมคือ มูลโคซึ่งเมื่อนำมาหมักจะได้ "ไบโอแก๊ส" หรือ "แก๊สชีวภาพ" สำหรับเป็นเชื้อเพลิง กากจากบ่อหมักแก๊สชีวภาพยังสามารถใช้ทำเป็นปุ๋ย มูลโคที่เป็นสารละลายที่อยู่ในถังหมัก ส่วนหนึ่งนำไปใช้สำหรับเพาะเลี้ยงสาหร่ายเกลียวทอง ซึ่งสามารถนำไปทำอาหารสำเร็จรูปสำหรับเลี้ยงปลาอีกส่วนหนึ่งทำเป็นปุ๋ยใส่แปลงพืชอาหารสัตว์ และบางส่วนนำไปใช้สำหรับบำรุงบ่อเพาะพันธุ์ปลานิล
งานทดลองผลิตภัณฑ์เชื้อเพลิง
งานทดลองผลิตภัณฑ์เชื้อเพลิงเริ่มขึ้นเมื่อปีพ.ศ.2528 โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราชกระแสให้ศึกษาต้นทุนการผลิตแอลกอฮอล์จากอ้อย เพราะว่าในอนาคตอาจเกิดเหตุการณ์น้ำมันขาดแคลนหรืออ้อยราคาต่ำ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานเงินเป็นทุนวิจัยใช้ในการดำเนินงาน 925,500 บาท
เดือนตุลาคม พ.ศ.2537 โครงการส่วนพระองค์สวนจิตร ร่วมกับบริษัทสุราทิพย์ได้ขยายกำลังผลิตแอลกอฮอล์เพื่อให้มีพอใช้ผลสมกับน้ำมันเบนซินเป็นแก๊สโซฮอล์สำหรับรถยนต์ทุกคันของโครงการที่ใช้เบนซิน และในวันที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ.2539 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เสด็จพระราชดำเนินเปิดสถานีบริการแก๊สโซฮอล์ในโครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดา
นอกจากนี้อีกหนึ่งพระราชกรณียกิจที่พระองค์ทรงให้ความสำคัญในเรื่องเกี่ยวกับ “ดิน” ซึ่งในปีนี้ ได้มีการจัดงานวันดินโลกระหว่างวันที่ 4 - 7 ธันวาคม 2565 ณ สถานีพัฒนาที่ดินตาก ตำบลแม่ท้อ อำเภอเมือง จังหวัดตาก มีวัตถุประสงค์เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และเผยแพร่พระราชกรณียกิจด้านการพัฒนาทรัพยากรดินเพื่อการเกษตร รวมทั้งสร้างการรับรู้เกี่ยวกับวันดินโลก
ที่ผ่านมาพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณแก่ปวงชนชาวไทย พระราชทานแนวพระราชดำริด้านการจัดการทรัพยากรดินเพื่อการเกษตร โดยผ่านโครงการพระราชดำริต่างๆจนเป็นที่ประจักษ์ในพระปรีชาสามารถและยอมรับไปทั่วโลก สหภาพวิทยาศาสตร์ทางดินนานาชาติ (IUSS) ได้ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายรางวัล "นักวิทยาศาสตร์ดิน เพื่อมนุษยธรรม (Humanitarian Soil Scientist)" เป็นพระองค์แรกของโลก ต่อมาองค์การสหประชาชาติ ได้ประกาศสดุดีพระเกียรติคุณ โดยรับรองให้วันที่ 5 ธันวาคม ของทุกปี เป็นวันดินโลก และบรรจุในปฏิทินการปฏิบัติงานขององค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) และประเทศสมาชิกทั่วโลกจะร่วมกันจัดกิจกรรมในวันสำคัญนี้
สำหรับการจัดงานในครั้งนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมพัฒนาที่ดิน ได้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หน่วยงานภาครัฐ เอกชน และหน่วยงานในจังหวัดตาก จัดงานวันดินโลกปี 2565 โดยกิจกรรมภายในงาน ประกอบด้วย นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ นิทรรศการดินโลก นิทรรศการ “มหัศจรรย์พืชพันธุ์ จากดินทั่วถิ่นไทย” จัดแสดงความหลากหลายของทรัพยากรดิน และพืชอาหารทั่วประเทศไทย นิทรรศการมีชีวิต แสดงแปลงองุ่นและเสาวรสปลอดภัย แปลงผักบ้านนี้มีรักปลูกผักกินเอง แปลงข้าวสรรพสี สตรอเบอรีและกะหล่ำปลี พืชผัก 4 ภาค นิทรรศการนวัตกรรมและเกษตรอัจฉริยะ นิทรรศการวิชาการผลิตผลเกษตรที่สูง เสวนาระดับนานาชาติ เสวนาหมอดินอาสา ฐานเรียนรู้ด้านการปรุงดิน เรื่องอนุรักษ์ดินและน้ำ เป็นต้น กิจกรรมประกวดแข่งขันต่างๆอาทิ ประกวดภาพถ่าย ประกวดวาดภาพจากดิน แข่งขันจัดกระเช้าพืชผัก/ผลไม้อินทรีย์ แข่งขันทำอาหาร เป็นต้น กิจกรรมเดินเทรล เช็คอินกับสัญลักษณ์วันดินโลกขนาดใหญ่ พร้อม “ชิม ช้อป ชา กาแฟ ชนเผ่า” และเลือกซื้อสินค้าผลผลิตจากเกษตรกรเป็นของฝากกลับบ้าน
อีกหนึ่งกิจกรรมที่พลาดไม่ได้ในวันที่ 5 ธันวาคมกับการที่ “การรถไฟแห่งประเทศไทย” จัดกิจกรรม เดินขบวนพิเศษรถจักรไอน้ำนำเที่ยว เฉลิมพระเกียรติ 5 ธันวาคม เพื่อแสดงความจงรักภักดีและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาสุดมิได้ต่อกิจการรถไฟไทย รวมถึงโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริอื่นๆอีกนับพันโครงการที่สร้างความผาสุกแก่พสกนิกรภายในประเทศ
โอกาสนี้ รฟท. ได้นำหัวรถจักรไอน้ำ รุ่นแปซิฟิก หมายเลข 824 และ 850 รุ่นหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ผลิตโดยบริษัท นิปปอน ชาร์เรียว จำกัด ซึ่งปัจจุบันได้เก็บรักษาและซ่อมบำรุงอยู่ที่โรงรถจักรธนบุรี มาจัดเดินขบวนพิเศษรถจักรไอน้ำนำเที่ยว เส้นทางสายประวัติศาสตร์ระหว่างสถานีกรุงเทพถึงสถานีฉะเชิงเทรา เพื่อให้ประชาชนได้ร่วมน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์
เส้นทางขบวนรถจักรไอน้ำพิเศษนำเที่ยวเส้นทางกรุงเทพ - ฉะเชิงเทรา - กรุงเทพ ขบวนที่ 903/904 ประชาชนทั่วไปที่อาศัยอยู่ใกล้เส้นทางรถไฟสายกรุงเทพ – ฉะเชิงเทรา สามารถร่วมบันทึกภาพหัวรถจักรไอน้ำในเส้นทางที่ขบวนรถวิ่งผ่านได้ตลอดเส้นทาง
นอกจากนี้ “บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด” ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง ได้มอบของขวัญให้แก่ผู้โดยสาร เนื่องในโอกาสวันพ่อแห่งชาติ และเพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดีในครอบครัวระหว่างคุณพ่อกับคุณลูก โดยในวันที่ 5 ธันวาคม 2565ได้จัดกิจกรรม Father's Day ในรูปแบบ online ให้คุณพ่อและคุณลูกได้ร่วมสนุกลุ้นรับของขวัญสุดพิเศษ ลุ้นรับ Nano LED TV 32 นิ้ว จักรยาน พัดลม เตาปิ้งย่างบาร์บีคิว หม้อหุงข้าว กระติกต้มน้ำร้อน และรางวัลอื่นๆอีกมากมายรวม 15 รางวัล เปิดโอกาสให้ผู้โดยสารร่วมคอมเมนต์รูปคู่กับคุณพ่อพร้อมเขียนนิยามความรักระหว่างคุณกับคุณพ่อใต้โพสต์กิจกรรมทางเพจ Facebook RED Line SRTET แล้วแชร์ไปหน้า Facebook ของตนเอง ซึ่งภาพที่มียอดการกดหัวใจมากที่สุดจะได้รับรางวัล โดยจะจัดส่งตรงถึงบ้าน ฟรี! โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น ทั้งนี้ ผู้ร่วมสนุกต้องตั้งค่าการแชร์โพสต์เป็นสาธารณะ โดย 1 บัญชีเฟสบุ๊คแอคเคาท์สามารถร่วมสนุกได้เพียง 1 สิทธิ์เท่านั้น และการตัดสินของคณะกรรมการถือเป็นที่สิ้นสุด ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวสามารถร่วมสนุกได้ตั้งแต่วันที่ 3 ธันวาคม 2565 เป็นต้นไป และจะสิ้นสุดการร่วมกิจกรรมในวันที่ 5 ธันวาคม 2565 เวลา 20.00 น. ผู้โชคดีที่ได้รับรางวัล บริษัทฯจะทำการประกาศรายชื่อผ่าน Facebook official page ของรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงเพจ RED Line SRTET ในวันที่ 13 ธันวาคม 2565 ทั้งนี้เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯกำหนด
พระองค์ทรงสถิตในดวงใจกับพระราชกรณียกิจที่ไม่เคยลืม