เมื่อวันที่ 2 ธ.ค.65 นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า สถานการณ์โรคโควิด-19 ในประเทศไทย มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามคาดการณ์ หลังปรับเป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง และประชาชนกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ กรมควบคุมโรคเฝ้าระวังเชิงรุกในชุมชน สถานที่เสี่ยง และผู้ป่วยที่มารับการรักษาใน รพ. อ่านข่าว ตรวจพบเดลตาครอน XBC ในไทยรายแรก ผู้ป่วยหายแล้ว เจอ BN.1 เพิ่ม 4 เท่า
รวมทั้งติดตามการเปลี่ยนแปลงของสายพันธุ์กลายพันธุ์ ร่วมกับกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ทำให้พบผู้ป่วยที่มารับการรักษาที่รพ.ปทุมธานี เป็นหญิงไทย อายุ 47 ปี หลังตรวจพบการติดเชื้อโควิด 19 ด้วย ATK จากที่บ้าน และได้รับการตรวจด้วยวิธี RT-PCR ตามแนวทางการเฝ้าระวังโรค เป็นสายพันธุ์เดลตาครอน (XBC) รายแรกของประเทศ
“ผู้ป่วยรายนี้ได้รับวัคซีนแล้วรวม 3 เข็ม คือ Astra-Zeneca 2 เข็มแรกเมื่อปี 2564 และวัคซีน Pfizer เข็มที่ 3 เมื่อเดือนก.พ.2565 ไม่มีอาการป่วยรุนแรง ขณะนี้หายดีแล้ว” นพ.ธเรศ กล่าว
อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า มาตรการที่สำคัญ โดยเฉพาะ 608 คือไปรับวัคซีนให้ได้อย่างน้อย 4 เข็ม หากรับวัคซีนเข็มสุดท้ายนานเกิน 4-6 เดือน ให้รีบไปฉีดวัคซีนเข็มถัดไป เพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกัน ป้องกันป่วยหนักและลดโอกาสเสียชีวิตจากเชื้อโควิด 19 ทุกสายพันธุ์ ไปรับวัคซีนได้ที่สถานพยาบาลใกล้บ้านทั่วประเทศ
สำหรับผู้ที่ไปทำกิจกรรมในพื้นที่แออัด ใช้บริการในสถานที่สาธารณะ ขนส่งสาธารณะ ให้สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ และเว้นระยะจากผู้อื่น หากมีอาการป่วยทางเดินหายใจ ให้สังเกตอาการตนเอง และไปพบแพทย์เมื่อมีอาการมากขึ้น