สายการบินไทยเวียตเจ็ทเดินหน้าขยายเครือข่ายเส้นทางบินระหว่างประเทศอย่างต่อเนื่องในปี 2565 สู่หลากหลายปลายทางทั่วทั้งภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ปัจจุบัน ไทยเวียตเจ็ทให้บริการเที่ยวบินตรงจาก กรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ) สู่ สิงคโปร์ ฟูกุโอกะ ไทเป พนมเปญ และหลากหลายเส้นทางในประเทศเวียดนาม ได้แก่ โฮจิมินห์ซิตี้ ดานัง และฟู้โกว๊ก ให้บริการผู้โดยสารแล้วกว่า 5 ล้านคน พร้อมให้บริการขนส่งสินค้าทางอากาศไม่ต่ำกว่า 9,000 ตัน ส่วนในปี 2566 มุ่งให้ความสำคัญกับการพัฒนาการให้บริการบนเส้นทางบินภายในประเทศและการเดินหน้าขยายเครือข่ายเส้นทางบินระหว่างประเทศ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสารและยกระดับสมรรถภาพการแข่งขันในตลาด
ซึ่ง นายวรเนติ หล้าพระบาง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินไทยเวียตเจ็ท กล่าวว่า ไทยเวียตเจ็ทเริ่มต้นปี 2565 ด้วยการประกาศเปิดให้บริการเส้นทางบินระหว่างประเทศ เส้นทาง กรุงเทพฯ – พนมเปญ ทันทีที่ประเทศไทยและกัมพูชาประกาศผ่อนคลายมาตรการเดินทางระหว่างประเทศ นับแต่นั้นเป็นต้นมา ไทยเวียตเจ็ทได้เดินหน้าขยายเส้นทางบินระหว่างประเทศเส้นทางอื่น ๆ ตามมาอย่างต่อเนื่องทั่วทั้งภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ได้แก่ สิงคโปร์ ฟูกุโอกะ ไทเป รวมทั้งหลากหลายเส้นทางเชื่อมต่อระหว่างประเทศไทยและเวียดนาม ซึ่งเราถือเป็นผู้เล่นที่ใหญ่อันดับต้น ๆ ในตลาด
พร้อมกันนี้ สายการบินไทยเวียตเจ็ท ยังร่วมกับ เวียตเจ็ท กรุ๊ป ให้บริการเที่ยวบินระหว่างประเทศไทยและเวียดนามด้วยความถี่สูงสุด โดยนับตั้งแต่เดือนมกราคม 2565 ไทยเวียตเจ็ท และ เวียตเจ็ท กรุ๊ป ให้บริการเที่ยวบินระหว่างประเทศไทยและเวียดนามแล้วรวมกว่า 2,500 เที่ยวบิน ขนส่งผู้โดยสารกว่า 350,000 คน บนเครือข่ายเส้นทางบินที่ครอบคลุมและหลากหลาย ได้แก่ เส้นทางบินจาก กรุงเทพฯ สู่ ฮานอย โฮจิมินห์ซิตี้ ดานัง ฟู้โกว๊ก รวมทั้งเส้นทางบินตรงจาก ภูเก็ต และ เชียงใหม่ สู่ โฮจิมินห์ซิตี้ พร้อมกันนี้ สายการบินฯ เตรียมกลับมาให้บริการเที่ยวบินตรงระหว่าง กรุงเทพฯ และ ดาลัด ในวันที่ 2 ธันวาคม นี้ด้วย
อีกทั้งไม่เพียงแต่การขยายเครือข่ายเส้นทางบินอย่างต่อเนื่องเท่านั้น สายการบินฯ ยังเดินหน้าปรับเพิ่มความถี่เที่ยวบินบนเส้นทางบินต่าง ๆ ที่ให้บริการอย่างต่อเนื่องเช่นกัน เพื่อตอบรับปริมาณความต้องการเดินทางที่เพิ่มสูงขึ้นของผู้โดยสารภายหลังการผ่อนคลายมาตรการเดินทางในหลายประเทศ เร็ว ๆ นี้ สายการบินฯ ประกาศเพิ่มความถี่เที่ยวบินบนเส้นทางระหว่าง กรุงเทพฯ - ฟูกุโอกะ เป็น 1 เที่ยวบินต่อวัน พร้อมเพิ่มความถี่เที่ยวบินระหว่าง กรุงเทพฯ - ไทเป เป็น 10 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ในเดือนธันวาคม 2565 และจะปรับเพิ่มเป็นวันละ 2 เที่ยวบิน ในเดือนมกราคม 2566
ทั้งนี้ นายวรเนติ กล่าวว่า ในปี 2566 ไทยเวียตเจ็ทจะมีจำนวนเครื่องบ้านรวม 20 ลำ ดังนั้นจึงน่าจะแบ่งเบาปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งเครื่องบินดีเลย์ได้เป็นอย่างมาก โดยได้ตั้งเป้าโหลดแฟกเตอร์อยู่ที่ 8 ล้านคน ขณะที่ส่วนแบ่งทางตลาดในธุรกิจสายการบิน แบ่งเป็นตลาดภายในประเทศประมาณ25% หรือ 1 ใน 4 ของตลาดรวมทั้งหมด พร้อมๆ กับตัวเลขของโหลดแฟกเตอร์เฉลี่ยที่เป็นผู้โดยสารในประเทศประมาณ 80-85% ส่วนชาร์เตอร์ไฟท์ ของนักท่องเที่ยวต่างประเทศจะอยู่ที่ 25%
ซึ่งในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา สายการบินไทยเวียตเจ็ทยังได้จัดงาน Sky Career Festival 2022 เฟ้นหาบุคลากรที่มีความสามารถเพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งของไทยเวียตเจ็ท โดยภายในงานดังกล่าวมีผู้เข้าร่วมกว่า 10,000 คน ร่วมเดินทางสู่เส้นทางอาชีพในอุตสาหกรรมการบิน ค้นคว้าโอกาสในอาชีพที่ใฝ่ฝัน อาทิ พนักงานต้อนรับบนเครื่องเครื่องบิน นักบิน วิศวกรรม บริการภาคพื้นดิน การพาณิชย์ และตำแหน่งงานอื่น ๆ พร้อมการให้ข้อมูลเชิงลึกจากผู้เชี่ยวชาญที่มีชื่อเสียงในอุตสหกรรมการบิน งาน Sky Career Festival เป็นงานประจำปีของไทยเวียตเจ็ท นับตั้งแต่ปี 2561 และยังคงจัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเพื่อส่งเสริมโอกาสในการก้าวสู่เส้นทางอาชีพในอุตสาหกรรมการบิน
นอกจากนี้ สายการบินไทยเวียตเจ็ทได้เปิดตัว Sky Café คาเฟ่บนอากาศยานโดยมีพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินให้บริการอาหารไทยและอาหารนานาชาติแก่ผู้โดยสารบนเที่ยวบินทั้งภายในและระหว่างประเทศ Sky Café เปิดตัวอย่างเป็นทางการภายหลังจากสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) อนุญาตให้สายการบินให้บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเที่ยวบินภายในประเทศอีกครั้งในเดือนกรกฎาคม 2565 หลังจากหยุดให้บริการอย่างยาวนานเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19
ดังนั้นภายในปี 2566 ไทยเวียตเจ็ทได้ตั้งเป้าขยายเครือข่ายเส้นทางบินไปยังต่างประเทศ โดยเตรียมแผนเปิดตัวเส้นทางระหว่างประเทศเส้นทางใหม่ ๆ หลากหลายเส้นทาง จากสนามบินสุวรรณภูมิ สู่ จุดหมายปลายทางหลากหลายทั่วเอเชีย-แปซิฟิกภายในไตรมาสแรกของปี 2566 รวมถึงบริการบินตรงระหว่าง เชียงใหม่ และ โอซาก้า (ญี่ปุ่น) รวมถึงจุดหมายปลายทางในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นต้น