โปรดเกล้า! แต่งตั้ง 3 รมต. ธนกรรมต.สำนักนายกฯ นริศรมช.มหาดไทย สุนทรนั่งรมช.เกษตรฯ ด้านบิ๊กตู่บอกปรับครม.แล้ว เดินหน้าทำงานต่อ ลุงป้อมเช็กชื่อส.ส.พลังประชารัฐส่วนใหญ่ยังอยู่ครบ มีแค่บางส่วนชักแถวโบกมือลาซบพรรคอื่น ขณะที่ 4 ส.ส.กทม.ย้ายตามบิ๊กตู่ อนุชา ยันสามมิตร ยังไม่เลือกข้าง 2 ป. รอความชัดเจน ไม่รีบตัดสินใจ
เมื่อวันที่ 30 พ.ย.65 ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศแต่งตั้งรัฐมนตรี โดยระบุว่า พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี ตามประกาศลงวันที่ 9 มิถุนายน 2562 แล้ว และแต่งตั้งรัฐมนตรีเพื่อบริหารราชการแผ่นดิน ตามประกาศลงวันที่ 10 กรกฎาคม 2562 และประกาศครั้งสุดท้าย ลงวันที่ 22 มีนาคม2564 นั้น
บัดนี้ นายกรัฐมนตรีได้กราบบังคมทูลว่า โดยที่ได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า พ้นจากความเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและ สหกรณ์ ตามประกาศลงวันที่ 8 กันยายน 2564 และนายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ลาออกจากตำแหน่งตั้งแต่วันที่ 5 กันยายน 2565 สมควรแต่งตั้งรัฐมนตรีแทนตำแหน่งที่ว่าง และเพิ่มเติมบางตำแหน่ง เพื่อความเหมาะสมและบังเกิดประโยชน์ต่อการบริหารราชการแผ่นดิน
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งรัฐมนตรี ดังต่อไปนี้ 1.นายธนกร วังบุญคงชนะ เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี 2.นายสุนทร ปานแสงทอง เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 3.นายนริศ ขำนุรักษ์ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 30 พฤศจิกายน 2565 เป็นปีที่ 7 ในรัชกาลปัจจุบัน
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ตอบข้อสักถามภายหลังราชกิจจานุเบกษามีประกาศแต่งตั้งรัฐมนตรีใหม่จำนวน 3 ราย ว่า ราชกิจจาฯ ประกาศออกมาแล้ว หลังจากนี้รัฐบาลก็เดินหน้าทำงานต่อ เดินหน้าทำงานทุกวันอยู่แล้วนะจ๊ะ
ทั้งนี้ นายกฯ จะนำคณะรัฐมนตรี ซึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งใหม่เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่ในวันที่ 1 ธ.ค.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ นายสุนทร ปานแสงทอง ว่าที่รมช.เกษตรและสหกรณ์ เป็นโควตากลุ่มปากน้ำของพรรคพลังประชารัฐ และเป็นชื่อที่กลุ่มปากน้ำเสนอพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เมื่อครั้งพล.อ.ประวิตรลงพื้นที่ตรวจราชการที่จ.สมุทรปราการเมื่อวันที่ 25 ก.ค. โดยวันนั้น พล.อ.ประวิตรระบุว่า รอจังหวะ ถ้ามีการปรับครม.เมื่อไหร่ก็จะเสนอชื่อ อย่างไรก็ตามนายสุนทรถือว่าเป็นลูกหม้อของกลุ่มปากน้ำและทำงานร่วมกันมาตั้งแต่สมัย นายวัฒนา อัศวเหม จนมาถึง นายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม ไม่หนีไปไหน
สำหรับความเคลื่อนไหวส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ที่กำลังตัดสินใจว่าจะอยู่พล.อ.ประวิตรหรือจะย้ายพรรคไปอยู่กับพล.อ.ประยุทธ์ที่จะไปพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) หรือจะไปอยู่พรรคการเมืองอื่นๆ ในการเลือกตั้งครั้งหน้านั้น
แหล่งข่าวระดับสูงพรรคพลังประชารัฐ ระบุว่า ในช่วงเช้าวันที่ 29 พ.ย. ที่มูลนิธิป่ารอยต่อฯ ได้มีส.ส.ที่ตัดสินใจย้ายพรรค ได้เข้าไปกราบลาพล.อ.ประวิตรแล้ว อย่างเช่น น.ส.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ ส.ส.กทม. ที่ระบุว่าจะย้ายไปอยู่กับนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ อดีตรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ที่พรรคภูมิใจไทย โดยพล.อ.ประวิตรไม่ได้พูดอะไรมาก นอกจากกล่าวว่า ขอให้โชคดี ส่วนในช่วงบ่ายจะมีส.ส.พรรคพลังประชารัฐที่แสดงเจตจำนงจะอยู่พรรคต่อ ได้ทยอยเข้าพบพล.อ.ประวิตรเช่นกัน อาทิ ส.ส.กลุ่มภาคใต้ ส.ส.กลุ่มสามมิตร ส.ส.กลุ่มปากน้ำ เป็นต้น
แหล่งข่าวระดับสูง กล่าวถึงความคืบหน้า ในส่วนของการย้ายพรรคของส.ส.ล่าสุดในพื้นที่ กทม. พบว่า ล่าสุด นายประสิทธิ์ มะหะหมัด ส.ส.กทม. ที่เดิมจะย้ายไปอยู่กับนายพุทธิพงษ์ที่พรรคภูมิใจไทย แต่ล่าสุดได้เข้าพบพล.อ.ประยุทธ์ที่บ้านพัก เมื่อวันที่ 24 พ.ย.ที่ผ่านมา เพื่อขอมาอยู่กับพล.อ.ประยุทธ์ ทำให้ล่าสุดขณะนี้มี 4 ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ ตัดสินใจย้ายไปอยู่พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้แก่ นายประสิทธิ์ ,น.ส.ภาดาท์ วรกานนท์ ,นางกรณิศ งามสุคนธ์รัตนาและ น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ เป็นต้น
ส่วนภาคใต้ที่ย้ายไปมีจำนวน 4 คน ได้แก่ นายสายัณห์ ยุติธรรม ส.ส.นครศรีธรรมราช ,นายพยม พรหมเพชร ส.ส.สงขลา ,นายศาสตรา ศรีปาน ส.ส.สงขลา และร.ต.อ.อรุณ สวัสดี ส.ส.สงขลา ส่วนส.ส.ที่เหลือทั้งหมดจะยังอยู่กับพรรคพลังประชารัฐ โดยจะมี นายรงค์ บุญสวยขวัญ ส.ส.นครศรีธรรมราช กรรมการบริหารพรรค เป็นแกนนำคนสำคัญในพื้นที่ภาคใต้ร่วมจัดทัพบรรดาผู้สมัครส.ส.ภาคใต้ ขณะนี้เดียวกันก็มีรายงานว่า จะมีการเสริมทีมภาคใต้อีก 1 คน คือ นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ที่จะย้ายจากพรรคสร้างอนาคตไทย (สอท.) มาเสริมทีมภาคใต้ของพรรคพลังประชารัฐ นอกจากนี้ยังมีการประเมินในพื้นที่แล้วว่าพรรครวมไทยสร้างชาติจะได้ส.สภาคใต้จำนวน 6 คน ได้แก่ พัทลุง 1 คน สุราษฎร์ธานี 2 คน ชุมพร 2 คน นครศรีธรรมราช 1คน
วันนี้ภาคใต้จะใช้ยุทธศาสตร์ รักตู่ อยู่กับป้อม พลังประชารัฐพร้อมเป็นรัฐบาล บริหารประเทศโดยพล.อ.ประวิตร โดยยังคงวางเป้าหมายส.ส.ที่ 150 คน ซึ่งท่าทีของบรรดาแกนนำกลุ่มต่างๆ อาทิ กลุ่มสามมิตร กลุ่มปากน้ำ กลุ่มโคราช กลุ่มมะขามหวาน กลุ่มกำแพงเพชร ยังอยู่พรรคพลังประชารัฐ เพราะชัดเจนแล้วว่าส.ส.พรรคเศรษฐกิจไทยที่กลับเข้ามาอยู่ในพรรคจะไม่มี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา แหล่งข่าว ระบุ
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ และคณะกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ภายหลังร่วมงานมอบรางวัลรัฐบาลดิจิทัล ประจำปี 2565 ที่พล.อ.ประยุทธ์เป็นประธาน ซึ่งภายหลังนายกฯ เป็นประธานในพิธี นายอนุชาได้พูดคุยกับนายกฯ ระหว่างเดินทางไปส่งที่ตึกไทยคู่ฟ้า ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้พูด คุยเรื่องการเมืองกับนายกฯหรือไม่ นายอนุชา กล่าวว่า ไม่ได้คุยเรื่องการเมืองกับนายกฯ เมื่อสักครู่ได้เดินไปส่งท่าน เพราะท่านต้องรีบไปตรวจราชการที่เชียงราย ขณะที่ตนต้องรีบกลับมาดูกิจกรรมในงานมอบรางวัลรัฐบาลดิจิทัล เนื่องจากนายกฯไม่มีเวลาดู
เมื่อถามว่า ขณะนี้มีความชัดเจนหรือยังว่าจะอยู่กับนายกฯ หรือพล.อ.ประวิตร นายอนุชา กล่าวว่า ตนยังไม่ทราบว่าพล.อ.ประยุทธ์และพล.อ.ประวิตรจะไปกันอย่างไร ซึ่งอันนี้ตนยังไม่ทราบจริงๆ ฉะนั้นยังไม่ตัดสินใจใดๆในเรื่องนี้ และยังไม่มีการพูดคุยกัน ตนอยู่การเมืองมานาน ก็คอยดู เมื่อถามว่า กลุ่มสามมิตรวางแนวทางอย่างไรในสถานการณ์การเมืองครั้งหน้า นายอนุชา กล่าวว่า ยังไม่มีการพูดคุยกันในเรื่องนโยบายและในเรื่องนี้
ผู้สื่อข่าวถามว่า กลุ่มสามมิตรต้องรอ 2 ป. ชัดเจนก่อนหรือไม่ ถึงจะบอกอนาคตทางการเมืองได้ นายอนุชา กล่าวว่า ตนคิดว่าต้องชัดเจนหลายหลายอย่าง ซึ่งขณะนี้คิดว่ายังไม่มีอะไรเป็นปัญหาที่ต้องคิดและรีบตัดสินใจ เมื่อถามว่า หากถึงเวลาที่ต้องตัดสินใจ มีคำตอบแล้วหรือยัง นายอนุชา กล่าวว่า ยังไม่เห็นว่าเรื่องนี้ มีปัญหาอะไร เมื่อถามว่า มีปัจจัยอะไรที่จะทำให้ตัดสินใจได้ นายอนุชา กล่าวว่า ยังไม่มี
ด้าน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวถึงกระแสการย้ายพรรครวมไทยสร้างชาติของพล.อ.ประยุทธ์ ว่า ส่วนตัวไม่ชอบพรรคการเมืองที่ซื้อส.ส. และมองว่าประชาชนคงไม่เลือกพรรคการเมืองแบบนี้มาเป็นรัฐบาล ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งให้เลือกพรรคเสรีรวมไทย เพราะตรงไปตรงมาไม่มีนอกมีใน หากไปสนับสนุนพรรคที่มีการดูส.ส.ก็ถือเป็นการบ่อนทำลายชาติ ส่วนส.ส.ที่ลาออกไปเข้าร่วมกับพรรครวมไทยสร้างชาติ เป็นเรื่องของคนเหล่านั้น แต่ส่วนตัวเท่าที่ได้ลงพื้นที่ทั่วประเทศ กระแสความนิยมของพล.อ.ประยุทธ์ลดลง แล้วถามย้อนกลับผู้ที่เชียร์บิ๊กตู่ ว่าอยู่มา 8 ปีแล้วมีอะไรที่ดีขึ้นบ้าง ถ้ายังอยู่ในวังวนก็ช่วยไม่ได้
"จากการเลือกตั้งที่ผ่านมาพรรคพลังประชารัฐ ก็ยังไม่ได้คะแนนมาเป็นที่หนึ่ง รอบนี้แยกเป็น 2 พรรค คงไม่ได้จัดตั้งรัฐบาล นอกจากจะโกงแต่ก็ยังไม่รู้ว่าจะโกงกันทางไหน อย่างการเลือกตั้งปี 2562 พรรคเสรีรวมไทยและพรรคอนาคตใหม่ก็ถูกโกง โดยพรรคปัดเศษได้ที่นั่งแทน" พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าว