วันที่ 30 พ.ย.65 นายขจิต ชัชวานิชย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร เป็นผู้แทนกรุงเทพมหานครในการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ การดำเนินงานด้านการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของประชาชน ระหว่างกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพกับ กรุงเทพมหานคร โดยมี นายชัชชาติ สิทธิพันธ์ุ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นายโฆสิต สุวินิจจิต คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นายเรืองศักดิ์ สุวารีอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ นายต่อศักดิ์ โชติมงคล ประธานที่ปรึกษาผู้ว่าฯ กทม.ร่วมเป็นเกียรติภายในงานณ ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เขตพระนคร

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ปัจจุบันกระทรวงยุติธรรมมีศูนย์ไกล่เกลี่ยที่ช่วยเหลือประชาชน 1,257 แห่งทั่วประเทศ และมีศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทภาคประชาชน 1,155 แห่ง รวมถึงมีศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทภาคประชาชนในพื้นที่ กทม.อีก305 แห่ง ทั้งหมดช่วยลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดีได้เกือบ 7,000 ล้านบาท โดยประชาชนไม่ต้องเดินทางไปขึ้นศาลอย่างไรก็ตาม การเปิดศูนย์ฯดังกล่าวต้องขึ้นทะเบียนและประกาศใช้ในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งผู้ไกล่เกลี่ยต้องขึ้นทะเบียนให้ถูกต้องและสังกัดประจำศูนย์ต่างๆ ภายในสำนักงานเขต กทม.ทั้ง 50 เขต ซึ่งวันนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นในการดำเนินการเพื่อช่วยประชาชนชาวกรุงเทพมหานคร โดยมีผู้ว่าฯ กทม.เป็นผู้มอบสิ่งนี้ให้กับประชาชน ซึ่งกระทรวงยุติธรรมพร้อมสนับสนุน นอกจากเรื่องไกล่เกลี่ยหนี้สินให้ประชาชนแล้ว ยังมีเรื่องกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา เรื่องหนี้สินยานพาหนะ บัตรเครดิต โดยกระทรวงยุติธรรมได้บูรณาการกับกระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ประชาชนสบายใจได้ว่ารัฐบาลไม่ละเลยปัญหาเหล่านี้

นายชัชชาติ กล่าวว่า การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในวันนี้ เป็นความร่วมมือที่กรุงเทพมหานครร่วมกับกระทรวงยุติธรรม ถือเป็นนิมิตหมายที่ดีที่ทั้งสองหน่วยงานได้ร่วมมือกันอย่างแนบแน่น เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดทั้งนี้ยังมีอีกหลายมิติที่ต้องทำงานร่วมกันต่อไป ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเป็นผู้บริหารที่มีวิสัยทัศน์และทำงานได้อย่างรวดเร็ว โดยเน้นการทำงานเชิงรุก เพื่อชูประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง อย่างไรก็ตาม ต้องขอขอบคุณความร่วมมือจากกระทรวงยุติธรรมในครั้งนี้ ถือเป็นจุดเริ่มต้นและจะมีความร่วมมือด้านอื่นๆ ตามมาในอนาคต

สำหรับศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทภาคประชาชนที่ กทม.ร่วมกับกระทรวงยุติธรรม ปัจจุบันได้เริ่มดำเนินการแล้ว โดยกระทรวงยุติธรรมได้ส่งผู้ไกล่เกลี่ยไปประจำที่สำนักงานเขต กทม.ทั้ง 50 เขต เพื่อประนีประนอมข้อพิพาทต่างๆ โดยเฉพาะเรื่องหนี้สินสามารถเข้ากระบวนการไกล่เกลี่ยที่สำนักงานเขตได้ในวงเงินไม่เกิน 500,000 บาท ก่อนจะเกิดการดำเนินคดีความตามกฎหมาย ซึ่งช่วยลดค่าใช้จ่ายแก่ประชาชนคู่กรณีทั้งสองฝ่าย และลดภาระของกระทรวงยุติธรรมรวมถึงประหยัดงบประมาณของแผ่นดิน เช่น ขณะที่ประชาชนในพื้นที่เขตนั้นๆ มีปัญหาเรื่องหนี้สิน ไม่ว่าจะเป็นคดีแพ่งคดีอาญา หรือคดีลหุโทษ สามารถเจรจาตกลงกันได้ที่สำนักงานเขต โดยไม่ต้องไปสู่ศาลและการดำเนินคดี ซึ่งที่ผ่านมาได้ดำเนินการมาแล้ว 1 ปี สามารถลดค่าทำเนียมศาล ในการขึ้นสู่คดีได้ถึงเกือบ 7,000 ล้านบาท