ระทึก! พบ"ผู้ติดเชื้อโควิด"พุ่ง เผยรอบสัปดาห์ป่วยรวม 4,914 ราย เฉลี่ยวันละ 702 เสียชีวิต 74 เฉลี่ยวันละ 10 คน ขณะที่"แพทย์จุฬาฯ"ห่วงโควิด-19 ขยายวงกว้างมากขึ้น คาดพบผู้ติดเชื้อรายใหม่อย่างน้อย 2.3 หมื่นคน/วัน

 เมื่อวันที่ 28 พ.ย.65 เฟซบุ๊กเพจศูนย์ข้อมูล COVID-19 กรมประชาสัมพันธ์ รายงานสถานการณ์โรคติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศไทย รอบสัปดาห์ ระหว่างวันที่ 20-26 พ.ย.65 มีผู้ป่วยเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล (รายสัปดาห์) จำนวน 4,914 ราย เฉลี่ยรายวัน จำนวน 702 ราย/วัน ผู้เสียชีวิตรวมจำนวน 74 ราย เฉลี่ย 10 ราย/วัน จำนวนผู้หายป่วยสะสม 2,483,809 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565) เสียชีวิตสะสม 11,482 ราย (ตั้งแต่ 1 ม.ค.65)


 ทั้งนี้ ประเทศไทยได้ยกเลิกประกาศให้โรคติดเชื้อโควิด-19 เป็นโรคติดต่ออันตราย และประกาศให้เป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวังแทน เมื่อวันที่ 1 ต.ค.65 ส่วนจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสมตั้งแต่เริ่มระบาดในประเทศไทยเมื่อต้นปี 2563 มีทั้งสิ้น 4,704,244 ราย ผู้เสียชีวิต 33,208 ราย

 วันเดียวกัน นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัวเมื่อวันที่ 28 พ.ย.65 ระบุว่า ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาสังเกตได้ว่ามีการรายงานข่าวเสียชีวิตที่บ้าน คอนโดฯ จำนวนมากหลายรายที่ตรวจพบ ATK เป็นบวก และน่าจะยังไม่รวมในรายงาน โดยสถานการณ์ปัจจุบัน ชัดเจนว่าขยายวงมากขึ้นอย่างรวดเร็ว จำเป็นต้องป้องกันตัวอย่างสม่ำเสมอระหว่างที่ใช้ชีวิตประจำวัน ทำงาน เรียน ท่องเที่ยวเดินทาง การใส่หน้ากากอย่างถูกต้องจะช่วยลดความเสี่ยงไปได้มาก โดยตัวเลขรายงานรายสัปดาห์ 20-26 พ.ย.65 พบผู้ป่วยนอนโรงพยาบาลเพิ่มขึ้น 4,914 คน เสียชีวิตเพิ่ม 74 คน ทั้งนี้คาดประมาณจำนวนการติดเชื้อใหม่รายวันอย่างน้อย 23,400 คน

 ขณะที่ เมื่อวันที่ 27 พ.ย.ที่ผ่านมา ทั่วโลกติดเพิ่ม 239,949 คน ตายเพิ่ม 386 คน รวมแล้วติดไป 646,118,182 คน เสียชีวิตรวม 6,636,160 คน 5 อันดับแรกที่ติดเชื้อสูงสุดคือ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ฝรั่งเศส ไต้หวัน และฮ่องกง เมื่อวานนี้จำนวนติดเชื้อใหม่มีประเทศจากยุโรปและเอเชียครอง 8 ใน 10 อันดับแรก และ 16 ใน 20 อันดับแรกของโลก จำนวนติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันของทั่วโลกตอนนี้ มาจากทวีปเอเชียและยุโรป รวมกันคิดเป็น 94.29% ของทั้งโลก ในขณะที่จำนวนการเสียชีวิตคิดเป็น 93.78% ปรากฏการณ์ "ซุปสายพันธุ์ (Variant soup)" Gerstung M จากมหาวิทยาลัยไฮเดลเบิร์ก ประเทศเยอรมัน ได้สรุปให้เห็นสถานการณ์ระบาดในปัจจุบันว่าเป็นไปตามที่หลายฝ่ายได้วิเคราะห์ไว้

 โดยทั่วโลกนั้นมีการระบาดปะทุขึ้นมาใหม่จากสายพันธุ์ย่อยของโอมิครอนที่หลากหลาย มีสัดส่วนของแต่ละสายพันธุ์ย่อยที่แตกต่างกันไป การปะทุล่าสุดที่เกิดขึ้นนั้น นอกจากสายพันธุ์เดิมอย่าง BA.5.x ที่ครองพื้นที่ทั่วโลกอยู่นั้น พบว่าทวีปเอเชียนั้นพบ XBB และ BA.2.75.x เข้ามาร่วมในสัดส่วนที่สูง ในขณะที่กลุ่มประเทศตะวันตกนั้นมี BQ.1.x เข้ามาเบียดในสัดส่วนที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

 ทั้ง นี้ลักษณะเช่นนี้ทำให้ยากที่จะคาดการณ์สถานการณ์ในอนาคต สายพันธุ์ย่อยของ Omicron ที่พร้อมร่วมวงการระบาดมีหลากหลาย ทั้ง BQ.1.x, XBB, CH.1.1, BA.2.75.x และอื่นๆ