เมื่อวันที่ 27 พ.ย.65 เพจเฟสบุ๊ก P.khondee ( พี่คนดี กวีสมัครเล่น) โพสต์ข้อความ ระบุว่า เรื่อง ดารารุ่นใหญ่ตบดาราเด็ก ข้อเท็จจริงอันใดยังไม่รู้ และถึงจะรู้ก็เป็นเรื่องส่วนตัวของคู่กรณี ขอไม่ขอไปวิจารณ์นะครับ รู้เพียงว่าเขาถูกบีบบังคับให้ออกจากการเป็นดาราและพิธีกร จนต้องไปทำอาชีพอื่นนานแล้ว การไปติดตามขยี้มันก็ดูโหดไป แน่ใจนะว่าบางคนไม่ได้โจมตีเขาเพียงเพราะ ต้องการแสดงแสนยานุภาพในการจัดการกับฝ่ายตรงข้าม เห็นหลายๆคอมเม้นต์ใต้ข่าว มีด่า "กะทิ"ด่า "สลื่ม" กันเยอะแยะ นี่ถ้าเป็นดาราที่เกลียดกะทิไปทำเรื่องอะไรที่แย่กว่านี้ เราคงจะได้ยินประโยคที่ว่า"เขาไม่ได้ไปฆ่าใครตายสักหน่อย" จากคนพวกนี้กันบ้างแล้ว ผู้ที่โดนตบเป็นใครเรายังไม่ทันรู้ คุณทนวยก็ออกมาฉวยแสงก่อนแล้ว คนในโซเชี่ยนบางคนก็หิวการพิพากษา ไม่แพ้ทนวยผู้พร่องจรรยาบรรณ เอาเรื่องที่คนปรึกษามาแถลง ถ้ากระแสมันตีกลับ คนจะซวยที่สุดไม่ใช่ทนาย แต่จะเป็นลูกความเอง บางคำพูดคำจาที่พิมพ์ใต้ข่าว ผมรู้สึกว่าแรงกว่า การตบหน้า เป็นไหนๆ ถ้าเขาเสียหายเขาก็ฟ้องได้เหมือนกันนะ รู้จักบันยะบันยังกันบ้างเถิด
๔๐๙/๒๕๖๕ มีทนวยผู้ฉวยแสง
มีทนวย ผู้ฉวยแสง แสดงใหญ่
เหมือนโหยหิว สปอตไลท์ ใฝ่กระแส
เรื่องวิวาท ก็ไม่ใช่ ทำไมแคร์
มีบาดแผล ที่ตรงไหน หรือไม่คุณ
ในสังคม ผู้นิยม ด่า "กะทิ"
เม้นต์ตำหนิ ด้วยคำต่ำ คำสถุล
เกลียดนกหวีด อยากจะกรีด อยู่เป็นทุน
ใคร่ขยี้ ให้เป็นจุณ เพราะขุ่นเคือง
เห็นประกาศ แถลงป่าว ราวข่าวร้อน
ยังกับข่าว ฆาตกร ตอนต่อเนื่อง
ให้เอะอะ ปึงปัง ดังทั้งเมือง
ราวเป็นเรื่อง ที่ทุกคน ต้องสนใจ
เตือนชาวบ้าน ผู้หิวการ พิพากษา
จิกหัวด่า ก็เหมือนว่า ตบหน้าไหม
การด่าแรง ด่าเพลิน จนเกินไป
ก็เหมือนใช้ คำปราศรัย ไปตบตี
ผู้เสียหาย เป็นผู้ใด ไม่ทันรู้
มีตาอยู่ ยื่นชูหน้า มาขยี้
ได้รับแสง ได้แถลง ออกทีวี
เป็นวิถี ควรยึดถือ แล้วหรือไร
P.khondee
27 Nov 2022