วันที่ 26 พ.ย. 65 นางสาวตรีชฎา ศรีธาดา รองโฆษกพรรคเพื่อไทยเปิดเผยว่า หลังจาก พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวในงานสัมมนาหนึ่ง ที่ จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 24 พ.ย. ว่าจะไม่ไปต่อทางการเมือง ใช้คำพูดว่า แก่แล้ว และ  หมดไฟ ว่า อยากถามพล.อ.อนุพงษ์ ว่าเหตุใดเพิ่งมาคิดหมดไฟยามนี้  หลังจากบ้านเมืองเจอวิกฤตอยู่ในสภาพถูกยึดอำนาจ ประเทศร่อแร่มาเป็นเวลา 8 ปี ยังไม่มีทีท่าจะหยุด แต่พอจังหวะขาลงของ 3ป. กลับทำตัวคล้ายทิ้งเรือแป๊ะเอาตัวรอดใช่หรือไม่  และหากพล.อ.อนุพงษ์ ให้ความชัดเจนในเส้นทางชีวิตของตัวเองจริงอย่างที่พูด เท่ากับว่าการเมืองสมัยหน้า พี่น้อง 3 ป. จะเหลือแค่ 2 ป. คือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หรืออาจจะแพแตกไม่เหลือสัก ป. ก็เป็นได้ เพราะถึงขั้นมีการแบ่งข้างแบ่งคนเสมือน ใครรัก พล.อ.ประวิตร ให้เลี้ยวซ้าย รัก พล.อ.ประยุทธ์ให้เลี้ยวขวา เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นแน่ 
             
นางสาวตรีชฎา กล่าวว่า พล.อ.ประวิตร มีความชัดเจนว่า เป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐและจะลงสนามเลือกตั้งครั้งหน้า แต่ พล.อ.ประยุทธ์ยังสร้างความสับสนอยู่เหมือนเดิมกรณีจะไปอยู่พรรคไหนระหว่างพลังประชารัฐ หรือ รวมไทยสร้างชาติ ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้บอกกับนักข่าวว่า หลังประชุมเอเปค 2022 เสร็จจะประกาศท่าทีทางการเมือง แต่ล่าสุดยังตีโวหารว่า หลังประชุมเอเปคก็ปีหน้า อย่างนี้ไม่เรียกว่ากลับไปกลับมาหลอกล่อรายวันหรือเอียงอายไม่กล้าเป็นสมาชิกพรรคการเมืองเพราะกลัวคนขุดคำพูดที่เคยด่านักการเมืองแบบเสียหายพอวันนี้กลืนน้ำลายที่ถ่มเอาไว้เต็มกลืนใช่หรือไม่ แต่อย่างไรก็ดี สภาพบ้านเมืองที่ประชาชนตกทุกข์ได้ยากมา 8 ปี  เป็นประเทศได้นายกรัฐมนตรีที่ไม่ได้เลือกเข้ามา  หาก 3 ป.จะแตกหัก ยุบสภาลงจากอำนาจ ก็ควรแก้รัฐธรรมนูญ มาตรา 272 ที่ให้อำนาจ ส.ว.โหวตเลือกนายกฯ  ก่อนที่ตนเองจะไป จะถือเป็นบุญใหญ่ของประเทศ

นางสาวตรีชฎากล่าวทิ้งท้ายว่า จากสัญญาณความแตกหักของ 3 ป. จึงได้เห็นสภาพของคนที่เข้าประชุมสภาในซีกฝั่งรัฐบาลอยู่ในสภาพไร้หลัก บวกกับพรรคร่วมรัฐบาลที่ง่อนแง่นจากความเห็นต่างเรื่อง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง  สภาพยิ่งกว่าบ้านแตกสาแหรกขาด ฝ่ายรัฐบาลขาดเอกภาพ สภาพร้อมล่มทุกเวลา ต้องเตรียมตัวให้พร้อม ได้เวลาทวงคืนอำนาจจาก 3ป. มาเป็นอำนาจของประชาชนแล้ว