ที่รัฐสภา เมื่อวันที่ 23 พ.ย.65 นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีต ส.ส. ให้สัมภาษณ์ภายหลังยื่นหนังสือ ว่า นายหาว เจ๋อ ตู้ ใกล้ชิดกับใคร พาดพิงถึงใคร รัฐมนตรีคนไหน ตนมีเอกสารหลักฐานที่น่าสนใจ ที่ตนเปิดเรื่องเครื่องบิน ตนต้องขออภัยฝูงบิน 604 ไม่มีอะไร เกี่ยวข้องด้วย แต่เนื่องจากเครื่องบินของนายหาว เจ๋อ ตู้ มีความเชื่อมโยงถึงรัฐมนตรีท่านหนึ่งที่นำไปใช้หาเสียงอยู่บ่อยๆ การขออนุญาตจอดก็จะต้องขออนุญาตโดยรัฐมนตรี ไม่ใช่นายหาว เจ๋อ ตู้ เพราะไม่ใช่สมาชิกฝูงบิน 604 ตรงนี้แสดงถึงอิทธิพลของนายหาว เจ๋อ ตู้  นอกจากนั้นที่ซอยลาดกะบัง 54 มีโรงแรมขนาดใหญ่ ขนาด 400 ห้องพื้นที่ 20 กว่าไร่ มีรถบัส 400-500 คัน และเงินสดอีกมหาศาล ซึ่งนายหาว เจ๋อ ตู้ มีคนจีนไม่รู้เรื่องการเมืองไทย จึงมีคนพานายหาว เจ๋อ ตู้ ไปพบกับบุคคลคนหนึ่งที่ชอบสะสมนาฬิกา พาเข้าไปกราบเพื่อให้เห็นบารมี โดยมีนาฬิกาปาเตะ 1 เรือน มูลค่าประมาณ 10 กว่าล้านบาท ถูกส่งมอบให้  เรื่องนี้ก็ทราบมีการอ้างนำเงิน หลายร้อยล้านบาท และนายหาว เจ๋อ ตู้ บริจาคเงิน 3 ล้านบาทให้พรรคพลังประชารัฐ แต่ในกฎหมายสัญชาติไทยระบุไว้ว่า หากบุคคลใดที่แปลงสัญชาติเป็นสัญชาติไทยแล้ว และยังใช้สัญชาติเดิมในการทำธุรกรรม และเดินทางก็มีสิทธิ์ยกเลิกสัญชาติไทยได้ ซึ่งปรากฎว่านายหาว เจ๋อ ตู้ ยังใช้พาสปอร์ตจีนอยู่  ดังนั้นการรับเงินของพรรคพลังประชารัฐ ไม่ทราบว่าคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)จะให้หรือไม่ว่าคนสัญชาติไทยและใช้สัญชาติจีนด้วยบริจาคเงินได้ 
 
เมื่อถามรัฐมนตรีที่เข้าไปเกี่ยวข้องคือใคร นายชูวิทย์ กล่าวว่า เป็นอดีตรัฐมนตรี  และอาทิตย์ที่ผ่านมามีการโทรศัพท์มาเคลียร์กับตน มีการบีบตน และใช้วิธีมาเฟียกับตนทุกรูปแบบ 

"ผมยืนยันว่าไม่กลัว สิ่งใดที่ผมพูดไปแล้วรับผิดชอบคำพูดตัวเองทุกคำ “ดังนั้นวิบากกรรมผม สัมภเวสี ผมไม่เคยกลัว ผมจะรอ ผมไม่เคยกลัวมัน แล้วผมจะถามมันว่า ที่ผมโชว์ ใช่มึงไหม และข้ออมูลทั้งหลาย ผมจะให้ "บิ๊กโจ๊ก" เพราะเป็นคนที่รับข้อมูลผมและติดตามเรื่องนี้ และนายหาว เจ๋อ ตู้ ขณะนี้ไม่ได้อยูที่หมู่บ้านลดาวัลย์ ที่ตลิ่งชัน แต่อยู่ที่โอ๊ควู๊ด สาธร 21 ใกล้ๆ กับผับจินหลิง เมื่อวันที่ 9 มี.ค. 65 ขออนุญาเที่ยวบินส่วนบุคคลบินขึ้นลง และจอดพัก ณ ท่าอากาศยานร้อยเอ็ด ซึ่งมีท่าน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เดินทางไปกลับเที่ยวบินนี้ ซึ่งเที่ยวบินนี้คือ HS-HAO ขอเรียนว่าท่านธรรมนัสกับผมไม่มีอะไรกัน ไม่มีอะไรบาดหมางกัน ผมไม่เคยเอ่ยถึงท่าน ไม่มีอะไรพลาดพิงท่าน ผมไม่ทราบ ผมพูดต่อหน้าสื่อว่านายตู้ หาว ไปเกี่ยวข้อง แต่นายสันทนะ เป็นคนพูดเองว่าร.อ.ธรรมนัสฝากดูแลคนจีนเหล่านี้  นั่นคือจุดเกิดเหตุ ซึ่งไม่ได้มาจากผมเลย ทั้งนี้เชื่อว่า เมื่อตรวจสอแล้วสุดท้ายคงเจอตอแน่ เพราะถ้ามีมีตอจะเอารถออก 4 คัน สลับตัวผู้ต้องหา หมายจับออกช้าได้อย่างไร "นายชูวิทย์ กล่าว