จากกรณีเด็กอาชีวะ 3 คน ถูกกลุ่มรุ่นพี่อดีตเพื่อนร่วมสถาบันอุ้มไปทำร้ายร่างกาย และ ทรมานในบ้านทรงไทย ซอยรามคำแหง 63 ทั้งยังปรากฎคลิปวิดีโอถูกเผยแพร่ทางโซเชียลถึงการกระทำของวัยรุ่นกลุ่มนี้ จนสร้างเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมนั้น

วันที่ 15 พฤศจิกายน 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมานายเติ้ล อายุ 17 ปี เยาวชนที่ร่วมก่อเหตุในครั้งนี้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สน.หัวหมาก ตามหมายเรียก โดยมีผู้ปกครองร่วมพาเข้าพบตำรวจในครั้งนี้ โดยตำรวจจะสอบปากคำนายเติ้ลพร้อมเจ้าหน้าที่สหวิชาชีพเนื่องจากผู้ก่อเหตุยังเป็นเยาวชน

ด้านนายเติ้ล ยอมรับว่า ทำจริง แต่สิ่งที่ผู้เสียหายกล่าวอ้างนั้นเกินความจริง โดยเฉพาะเรื่องแชทที่นายโอ๊ตอ้างว่าตนส่งไปเพื่อล่อลวงนายซับนั้น ไม่เป็นความจริง แต่นายโอ๊ตเป็นคนส่งเอง พร้อมปฏิเสธว่าไม่ได้ให้ผู้เสียหายอมอวัยวะเพศของตนแต่อย่างใด ซึ่งทางด้านผู้ปกครองที่เดินทางมาด้วย ก็ตอบเพียง ไม่ทราบเรื่องราวดังกล่าว ก่อนที่ทั้งหมดจะเข้าไปภายในห้องสอบสวน

สำหรับเหตุการณ์นี้ มีผู้ก่อเหตุทั้งสิ้น 17 คน ทั้งหมดจะถูกแจ้ง 3 ข้อหา คือ กักขังหน่วงเหนี่ยว , ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง และ ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่วนข้อหาอื่นขณะนี้ยังต้องรอผลการสอบสวนรวมถึงพยานหลักฐานเพิ่มเติมจึงจะสามารถแจ้งได้ ส่วนผู้ปกครองของเยาชนที่ร่วมก่อเหตุจะมีความผิดหรือไม่นั้น ทางเจ้าหน้าที่ขอดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ก่อเหตุทั้ง 17 คนให้แล้วเสร็จก่อน จึงจะพิจารณาต่อไป เบื้องต้นตำรวจได้ขออนุมัติหมายจับบุคคลที่อายุเกิน 18 ปี แล้ว 11 คน ถูกจับกุมแล้ว 3 คน ที่เหลืออยู่ระหว่างการติดตามตัว ซึ่งคาดว่าหลบหนีออกนอกพื้นที่แล้ว นอกจากนี้ตำรวจยังออกหมายเรียกเยาชนอีก 6 คน โดยเข้ามอบตัวแล้ว 1 คน ส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างรอการประสานเข้ามอบตัว หากไม่มาตามหมายเรียกเจ้าหน้าที่จะขอหมายจับตามขั้นตอนต่อไป

ต่อมา ย่า อายุ 67 ปี ผู้ปกครองของนายเติ้ลได้ เปิดเผยว่า ที่ผ่านมารู้จักเพื่อนของหลานชายเพียงไม่กี่คนเท่านั้น และเป็นเพื่อนระแวกบ้านเท่านั้น มักจะไปนั่งเล่นที่บ้านเป็นประจำ ส่วนเพื่อนที่โรงเรียนหรือ กลุ่มอื่น ไม่รู้จัก ขอยืนยันว่า เติ้ลไม่มีปืนอย่างแน่นอน อุปนิสัยเวลาอยู่ที่บ้านเติ้ลจะพูด "ครับ" ตลอด และเวลาโทรศัพท์คุยกับรุ่นพี่ ก็จะชอบพูด "ครับพี่ๆ เสมอ จนบางครั้งต้องสอนหลานว่า เวลามีเรื่องเดือดร้อนรุ่นพี่ไม่สามารถช่วยเหลือเราได้ ที่ผ่านมาย่าต้องคอยเลี้ยงหลานกว่า 7 คน เนื่องจากพ่อแม่ทุกคนทิ้งไว้ให้เลี้ยง จึงสอนเติ้ลเสมอว่าต้องตั้งใจเรียน แต่ในเมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นแล้วก็ต้องยอมรับผิด อะไรผิดก็ว่าไปตามผิด หลานก็ทำใจไว้แล้ว ซึ่งทางย่าเองก็ไม่มีเงินประกันตัวแต่อย่างใด และในส่วนของการให้ปากคำ หลานชายได้เล่าให้ตำรวจฟังหมดแล้ว หลังจากนี้ก็เข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายต่อไป

กระทั่งเวลา 13.38 น. ตำรวจคุมตัวนายเติ้ล ไปส่งฟ้องศาลเยาวชนและครอบกลาง โดยมีสีหน้าเรียบเฉย เมื่อสอบถามถึงการทำร้ายร่างกายผู้เสียหาย นายเติ้ลตอบสั้นๆว่า "ไม่ได้ทำ" ก่อนจะเดินขึ้นรถตำรวจออกไป

ด้าน แม่ของผู้เสียหาย เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้ยินคำพูดของ นายเติ้ล ที่ออกมาปฏิเสธในการกระทำดังกล่าว ก็รู้อยู่แล้วว่าคำตอบจะออกมาเป็นอย่างไร เขาอยากจะพูดอะไรก็เป็นสิทธิ์ของตัวเขา หลังจากที่คุยกับทางพนักงานสอบสวนที่สอบปากคำผู้ร่วมก่อเหตุทั้งหมดทราบว่าให้การปฏิเสธทุกคน ซึ่งตอนนี้ตนก็ได้ปรึกษากับทนายในเรื่องการแจ้งข้อหาเพิ่ม จากที่ผู้ต้องหาได้มีการนำคลิปวีดีโอดังกล่าวออกมาเผยแพร่ผ่านสื่อโซเชียล ซึ่งเข้าข่ายความผิดพ.ร.บ.คอมฯ

ส่วนเรื่องการทำงานของทางตำรวจก็ยังมีความเชื่อมั่นในการปฏิบัติหน้าที่อยู่ ถึงแม้จะยังตรวจค้นไม่พบอาวุธปืนก็ตาม ตนอยากให้ตำรวจเข้าตรวจค้นอีกครั้ง ในเมื่อรูปภาพที่ทางผู้ต้องหายังนำภาพถืออาวุธปืนออกมาโพสขมขู่ผ่านทางเฟสบุ๊กเมื่อไม่นานมานี้

ทั้งนี้อยากจะฝากไปถึงผู้ที่ร่วมกระทำความผิดที่เป็นผู้ใหญ่ในครั้งนี้ ว่าให้ออกมาต่อสู้คดีถ้าหากไม่ได้ทำผิดจริง