วันที่ 14 พ.ย. 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เดือน พ.ย.นี้ ครบรอบ 8 ปี ที่ อดีต ผบก.ป.ประกาศให้นายสันติ หรือญาติมาติดต่อขอรับรถเบนซ์ในคดี 2 แม่ลูกคืน จากการตรวจสอบกับ นายสันติ ทิมวังกุ่ม อายุ 60 ปี เจ้าหน้าที่ดูแลยานพาหนะ บก.ป.เปิดเผยว่า ปัจจุบันกองบังคับการปราบปรามมีอาคารจอดรถใหม่ อยู่ด้านหลังอาคารประชาอารักษ์ นอกจากจอดรถทางราชการแล้ว ยังใช้เก็บรถของกลางในคดีต่างๆ ด้วยที่บริเวณชั้น 7 อาคารจอดรถ

สำหรับเบนซ์ 230 อี สีขาว ทะเบียน 8 ฉ 3237 กทม. ซึ่งเป็นรถในคดีดังในอดีตที่ 2 แม่ลูกตระกูลดัง คือ นางดาราวดี และ ด.ช.เสรี ภรรยาและบุตรชายนายสันติ เจ้าของร้านเพชรย่านบ้านหม้อ ที่เสียชีวิตจากกรณีถูกนายตำรวจระดับสูงของกรมตำรวจในเวลานั้น อุ้มมารีดหาข้อมูลเกี่ยวกับเพชรของกลางที่โดนขโมยมาจากซาอุดิอาระเบีย มีการโยงใยเกี่ยวข้องกับคดีเพชรซาอุฯที่โด่งดัง ก่อนถูกฆ่าปิดปากแล้วจัดฉากอำพรางว่า รถเบนซ์ของ 2 แม่ลูกประสบอุบัติเหตุถูกรถบรรทุก 10 ล้อที่วิ่งสวนทางมาชนบนถนนมิตรภาพ ต.ตาลเดี่ยว อ.แก่งคอย จ.สระบุรี เมื่อวันที่ 1 ส.ค. 2537 นั้น 

ล่าสุดก็ยังเก็บรักษาไว้ที่ชั้น 7 เช่นกัน รอเจ้าของหรือญาติผู้มีกรรมสิทธิ์มารับคืนไป แม้กองปราบฯ จะเคยประกาศให้นายสันติ  หรือญาติๆ มารับไปเมื่อปี 2557 ครั้งหนึ่งแล้ว หลังคดีหมดอายุความไปแล้ว แต่จนบัดนี้เวลาผ่านมาร่วม 8 ปี ก็ยังไม่มีใครมาติดต่อขอรับคืนแต่อย่างใด

นายสันติ เจ้าหน้าที่ดูแลยานพาหนะกองปราบ กล่าวว่า ตอนรถเบนซ์คันนี้จอดอยู่ใต้ถุนอาคารกองปราบเดิมที่ทุบทิ้งไปแล้ว ตอนนั้นโดนน้ำท่วมทั้ง 4 ล้อแช่น้ำอยู่นานเป็นปี ยางล้อแตกหมด เบลคล็อค หมุนไม่ได้เลยพวงมาลัยบังคับรถก็มีมาคนขโมยไป ก่อนจะนำกลับมาคืนก่อนวันเคลื่อนย้ายรถ มาจอดไว้ด้านหลังตึก 3 ชั้น ปัจจุบันเป็นศูนย์รับแจ้งความฯ  

ล่าสุดเมื่อ 4 เดือนที่ผ่านมา ได้เคลื่อนย้ายรถเบนซ์คันนี้อีกครั้งจากด้านหลังตึกศูนย์รับแจ้งความฯ ที่ปรับเป็นสนามฟุตบอลขึ้นไปโดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจน้องๆ กองกำกับการสนับสนุน-หนุมาน 5-6 นายมาช่วยกันยกเข้าลิฟต์ขนของตึกจอดรถเอาขึ้นไปไว้ที่ชั้น 7 ครั้งนี้ขนย้ายได้สะดวกง่ายดายไม่มีใครเจอประสบการณ์แปลกๆ แต่อย่างใด ปัจจุบันไม่ทราบว่านายสันติ ยังอยู่หรือไม่ หรือญาติๆ ใครที่ประสงค์จะขอรับรถเบ้นซ์คันนี้คืน ก็สามารถติดต่อ ผบก.ป.คนปัจจุบันได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อ พ.ย.2557  อดีต พล.ต.ต.ชัยทัต บุญขำ (ผบก.ป.เวลานั้น)ได้ประกาศ ให้เจ้าของรถในคดีทุกคันทั้งรถยนต์และจักรยานยนต์ถ้าประสงค์จะเอาคืนก็ขอให้มารับกลับคืนได้เลย ไม่ใช่แต่รถเบนซ์คันนี้เท่านั้น รถคันอื่นๆ ตั้งแต่ยุคไหนสมัยไหนก็ตาม ที่เป็นของกลางเจ้าของสามารถติดต่อขอรับคืนได้ หรือถ้าจะเอาไปขายเป็นเศษเหล็กหรือบริจาคให้วัดหรือมูลนิธิต่างๆ ก็แล้วแต่ความประสงค์ของเขา เพราะเราไม่มีที่จะเก็บแล้ว แต่ก็ไม่มีใครมาติดต่อขอรับคืนจนเวลาผ่านมาร่วม 8 ปีหลังประกาศออกไป จึงนำรถเบนซ์คันนี้พร้อมรถของกลางคันอื่นๆ ไปเก็บรักษาไว้ที่ขึ้น 7 อาคารจอดรถ บก.ป.ดังกล่าว