วันที่ 14 พ.ย.65 ผศ. (พิเศษ) ดร.วิระศักดิ์ ฮาดดา นายก อบต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ในฐานะ นายกสมาคมองค์การบริหารส่วนตำบลแห่งประเทศไทย กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ไฟเขียวนักการเมืองท้องถิ่น ช่วยผู้สมัคร ส.ส.หาเสียงว่า เรื่องนี้น่าจะเปิดมาตั้งนานแล้วที่ผ่านๆ มาพรรคการเมืองก็สนับสนุนท้องถิ่นอยู่แล้วแต่เขาอยู่เบื้องหลังเหมือนพวกอีแอบ แต่ถ้าเปิดให้นักการเมืองหรือท้องถิ่นสามารถที่จะหาเสียงให้ได้ทั้งหมดรวมทั้งการเมืองทุกระดับ ถือว่าเป็นเรื่องถูกต้องอย่างเช่นในปัจจุบันนี้พ่อแม่ลูกครอบครัวเดียวกันพ่ออยู่พักการเมืองแต่หาเสียงให้กันไม่ได้ซึ่งเป็นเรื่องตลกมากเพราะฉะนั้นต้องเอาความจริงที่ปรากฏอยู่ในปัจจุบันนี้เอามาใช้ซะ สังคายนากฎหมายที่เป็นอยู่ในปัจจุบันให้ถูกต้องซะ เพราะปัจจุบันเขาทำอย่างนี้อยู่แล้วทั้งพรรคการเมืองทั้งท้องถิ่นเขาก็ช่วยกันหาเสียงอยู่แล้วแต่วิธีการหาเสียงนั้นเขาหาเสียงแบบไม่เปิดเผย ซึ่งตนเองมองว่าอยากให้เปิดตัวและเปิดเผยเพื่อแสดงความชัดเจนของกฎหมายเลือกตั้งก็จะทำให้ประชาชนจะได้ไม่ต้องสับสนว่าคนนี้สนับสนุนคนนี้นคนนั้นสนับสนุนคนโน้นภาพมันก็จะดีขึ้นและในโอกาสต่อไปเขาจะส่งลูกส่งหลานหรือส่งใครในระดับต่างๆในระดับท้องถิ่นในระดับ อบจ.ในระดับส.ส.ทั่วประเทศก็จะทำให้มีความชัดเจนมากขึ้น ไม่เช่นนั้นก็จะเป็นเครื่องไม้เครื่องมือของฝ่ายตรงข้ามที่ต้องมาเล่นงานกันอีกซึ่งในความเป็นจริงมันไม่ใช่เช่นคนนี้มาหาเสียงก็จ้องใบแดง เปิดไปเลยไม่ต้องมีไฟเขียวไฟแดงไม่ต้องมีอะไรกัน ลุยกันได้เต็มที่เลยจะได้รู้ว่าบารมีของแต่ละคนเป็นอย่างไร กฎหมายเปิดให้แล้วในนามของสมาคมองค์การบริหารส่วนตำบลแห่งประเทศไทยเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งที่กฏหมายฉบับนี้ออกมา เขาก็เห็นด้วยเพราะเขาต้องการมีส่วนร่วมในการทำงานด้านการเมืองบางคนมีพี่น้องเป็นส.ส. บางคนมีลูกพี่เป็น ส.ส.เขาก็ต้องการให้ส.ส.มาช่วยในทำนองเดียวกันท้องถิ่นก็ต้องไปช่วยลูกพี่ไปช่วยพรรคพวกในการหาเสียงร่วมกันตัวเองก็ไม่ต้องโดนใบแดงหรือพะวงเรื่องใบแดงหรือพะวงให้ผู้สมัครโดนใบแดงไปด้วย
ซึ่งในความเป็นจริงแล้วคนที่บังคับใช้กฎหมายก็ต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังโดยไม่เห็นแก่พรรคไม่เห็นแก่พวกแต่ในปัจจุบันนี้พอมีการชี้มูลเสร็จก็ดองเรื่องไว้พอถึงวาระที่จะมีการเลือกตั้งก็ดึงเรื่องขึ้นมาซึ่งมองว่าไม่ใช่ระเบียบกฎหมายต่างๆต้องเท่าเทียมกันเป็นไปตามขั้นตอนที่มีอยู่ อย่าใช้อำนาจของตัวเองแล้วก็หยิบเอาสิ่งที่เป็นคุณเป็นโทษมาใช้เพื่อเป็นประโยชน์ของพรรคพวกตัวเอง ถือเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง โดยเฉพาะคนที่เป็นรัฐบาลทางฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลต้องใช้กฎหมายระเบียบฉบับอันเดียวกัน มองว่ากฎหมายปัจจุบันนี้ อย่าง ปปช.เป็นต้นกว่าจะชี้มูลอะไรต่างๆใช้เวลายาวนานมาก 10-20 ปีพอถึงจังหวะก็รีบหยิบเรื่องนี้ขึ้นมาพิพากษา ซึ่งไม่มีความเป็นธรรมถ้าจะตัดสินอะไรก็ตัดสินไปเลยไม่ต้องรอซึ่งหลักฐานต่างๆหรือการต่อสู้อะไรก็มีอยู่แล้วพอถึงจังหวะจะเลือกตั้งออกมาก็รีบตัดสินเลยก็อยากฝากไปถึงผู้มีอำนาจใครผิดก็ว่าไปตามผิดใครถูกก็ว่าไปตามถูกกระบวนการขั้นตอนของกฎหมายมีอยู่แล้วถ้ามัวมายื้อกันไว้แบบนี้ กฎหมายต้องศักดิ์สิทธิ์ซึ่งประเทศไทยทุกวันนี้มีกฎหมายถ้าพวกกันก็ไม่นำเอามาใช้ถ้าไม่ใช่พวกกันก็ดึงเอามาใช้ระเบียบข้อบังคับของกฎหมายมีหลายมาตรา ถึงเวลาแล้วหรือยังที่จะต้องปฏิรูปกฎหมายระเบียบต่างๆเอาออกมาใช้ให้ทันกับสภาพแวดล้อมอะไรไม่ใช้ก็ยกเลิกไป แต่ปัจจุบันนี้กฎหมาย 2475 ของพรบของอุทยานก็ยังนำมาใช้อยู่ซึ่งจะเห็นว่ามีผู้กระทำความผิดถูกดำเนินคดีจำคุกซึ่งกฎหมายข้อนี้มันใช้ไม่ได้แล้วเนื่องจากท้องถิ่นก็โดนเรื่องนี้เยอะมาก กฎหมายข้อนี้ใช้มา 30-40 ปี สภาพของอุทยานกรมป่าไม้เปลี่ยนสภาพเป็นบ้านคนไปหมดแล้วแต่กฎหมายของอุทยานกรมป่าไม้อันนี้สภาพเป็นป่าก็ต้องใช้กฎหมายเป็นป่าซึ่งจริงๆแล้วมันเป็นหมู่บ้านพอท้องถิ่นไปทำถนนหนทางก็บอกว่าบุกรุกถูกดำเนินคดีอย่างนี้เป็นต้น ซึ่งระเบียบพื้นที่ซับซ้อนต้องมีการแก้ไขทางสมาคมกำลังรวบรวมข้อมูลเพื่อหาทางแก้ไขต่อไป