วันที่ 13 พฤศจิกายน 2565 ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล โพสต์แจ้งเตือนให้เฝ้าระวังโรคโควิด-19 เชื้อ “เดลตาครอน XBC” ลูกผสมระหว่างเชื้อเดลต้า และโอมิครอน BA.2 ที่ล่าสุดพบว่าเริ่มมีผู้ป่วยติดเชื้อหลักร้อยรายในประเทศฟิลิปปินส์
ทั้งนี้ข้อความระบุว่า ระวัง “เดลตาครอน XBC” ลูกผสมระหว่าง “เดลต้า” และ “โอมิครอน BA.2” พบระบาดในฟิลิปปินส์มากกว่า 193 ราย! กลายพันธุ์ไปมากกว่า XBB และ BQ.1
นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกจับตามอง ‘เดลตาครอน’ ซึ่งในช่วงการระบาดของโควิด-19 ปลายปีที่ 3 ซึ่งโอมิครอนกำลังอ่อนกำลังดูเหมือน ‘เดลตาครอน’ หลายสายพันธุ์จะระบาดขึ้นมาแทนที่ เช่น XBC, XAY, XBA และ XAW (ภาพ 1) โดยเฉพาะเดลตาครอน “XBC” มีการกลายพันธุ์ต่างไปจากโควิด-19 สายพันธ์ดั้งเดิม “อู่ฮั่น” มากที่สุดถึงกว่า “130” ตำแหน่ง (ภาพ 2)
‘เดลตาครอน’ จากรหัสพันธุกรรมทั้งจีโนมประเมินว่า เป็นไวรัสโควิด-19 ที่มีศักยภาพในการโจมตีปอดอย่าง “เดลต้า” และสามารถแพร่ระบาดได้รวดเร็วเหมือน “โอมิครอน”
เมื่อต้นปี 2565 ที่ผ่านมา มีรายงานการตรวจพบ “เดลตาครอน” ในประเทศฟิลิปปินส์ แต่ก็ไม่เกิดการระบาดขยายวง จากนั้นก็สูญพันธุ์ไป แต่มาในช่วงปลายปี 2565 กลับพบ “เดลตาครอน” ในประเทศฟิลิปปินส์อีกครั้ง ในรูปแบบของโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ XBC, XBA, XAY และ XAW ระบาดขึ้นมาใหม่ (ภาพ 3)
ในกรณีที่เลวร้ายที่สุด (worst-case scenario) ลูกผสมเดลต้า-โอมิครอน อาจมีอันตรายถึงตายได้พอๆ กับสายพันธุ์เดลต้า ซึ่งคร่าชีวิตผู้ที่ติดเชื้อไปประมาณร้อยละ 3.4 ซึ่งสูงกว่าอัตราการเสียชีวิตของโอมิครอนเกือบ 2 เท่า ตามผลการศึกษาในปี 2565 ที่ตีพิมพ์ในวารสาร Nature Reviews Immunology นอกจากนี้ “เดลตาครอน” อาจมีความสามารถในการแพร่ติดต่อได้อย่างรวดเร็วเช่นเดียวกับโอมิครอน
การทำนายความรุนแรงของสายพันธุ์ลูกผสมเป็นเรื่องยาก เนื่องจากนักวิทยาศาสตร์ไม่แน่ใจว่า เหตุใดโอมิครอนจึงดูเหมือนจะทำให้เกิดโรคโควิด-19 ที่รุนแรงน้อยกว่า เมื่อเทียบกับเดลต้า
นักวิทยาศาสตร์ไม่ยังเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่า ทำไมโควิด-19 จึงเปลี่ยนจาก “โรคทางเดินหายใจส่วนล่าง” ในช่วง 2 ปีแรกที่เดลต้าและสายพันธุ์ก่อนหน้าระบาดมาเป็น “โรคทางเดินหายใจส่วนบน” ที่มีความรุนแรงน้อยลง การเปลี่ยนแปลงอาจเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงนอกเหนือไปจากโปรตีนหนาม ซึ่งไวรัสใช้ในการเกาะติดเซลล์ของมนุษย์และหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกัน
ทำไมประเทศไทยควรกังวล เพราะประเทศฟิลิปปินส์หนึ่งในอาเซียนที่อยู่ใกล้ประเทศไทย ขณะนี้ตรวจพบผู้ติดเชื้อโอมิครอน XBB จำนวนถึง 81 ราย พร้อมไปกับพบลูกผสม XBC ใน 11 จังหวัด ถึง 193 ราย
นักวิทยาศาสตร์อาเซียนได้ช่วยกันถอดรหัสพันธุกรรมไวรัสโคโรนา 2019 และแชร์ไว้บนฐานข้อมูลรหัสพันธุกรรมโควิดโลก “กิสเสด (GISAID)”
ลูกผสม XBB
สิงคโปร์ 1,137 ราย 12.154%
อินโดนีเซีย 90 ราย 0.623%
บรูไน 77 ราย 4.254%
มาเลเซีย 32 ราย 0.358%
ฟิลิปปินส์ 20 ราย 0.490%
กัมพูชา 1 ราย 0.197%
ลูกผสม XBC
ฟิลิปปินส์ 35 ราย 0.857%
บรูไน 15 ราย 0.829%
สิงคโปร์ 1 ราย 0.011%
มาเลเซีย 1 ราย 0.011%
สายพันธุ์ลูกผสม “XBB” และ “XBC” จากฐานข้อมูลรหัสพันธุกรรมโควิดโลก “กิสเสด (GISAID)” ยังไม่พบในประเทศไทย