เมื่อวันที่ 12 พ.ย.65 ที่บริเวณป่าทิใต้บ้านหมอนเจริญ ต.กาบเชิง อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยทับทัน-ห้วยสำราญทับซ้อนเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าทุงมน ป่าบักไดและป่าตาเบาแปลงที่สาม พ.ต.อ. อิทธิพล พงษ์ธร ผกก.สืบสวนภ.จว.สุรินทร์ มอบหมายให้ พ.ต.ท.วิชิตเวช ต๊ะผัด รอง ผกก.กก.สืบสวนภ.จว.สุรินทร์ พ.ต.ท.สาโรจ ตระกูลโสภิษฐ์ สว.กก.สืบสวนฯ สั่งการให้ชุด ปทส.กก.สืบสวนฯโดยมี ร.ต.อ. ปราโมทย์ เที่ยงธรรม รองสว.กก.สืบสวนฯ (หน.ชุด ปทส.) ดต. ธวัช เจนรอบ  ส.ต.อ. ณัฐวุฒิ ทศพร ส.ต.ท.ศัจจกร โยธาจันทร์ ผบ.หมู่กกสืบสวน ภ.จว.สุรินทร์ ร่วมกับเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยทับทัน-ห้วยสำราญ ชุดเจ้าหน้าที่ชุดปฎิบัติการเดินลาดตระเวณเชิงคุณภาพ smart patro เพื่อป้องกันการลักลอบตัดไม้ทำลาย และล่าสัตว์ป่าในพื้นที่หวงห้าม ขณะลาดตระเวน ตรวจพบมีชาวบ้านเข้ามาลักลอบตัดไม้ ยูคาลิปตัส จึงได้เข้าจับกุม ผู้ต้องหา 2 คน ได้แก่ นายเสริม (ขอสงวนนามสกุล) 60 ปี อยู่บ้านหมอนเจริญ ต.กาบเชิง อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ และนายศราวุธ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี อยู่บ้านหมอนเจริญ ต.กาบเชิง อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ พร้อมด้วยของกลาง จำนวนหลายรายการ

ทั้งนี้ ได้ตรวจยึดของกลาง พร้อมอุปกรณ์ในการกระทำความผิด ได้แก่ ไม้ยูคาลิปตัส จำนวน 44 ท่อน ปริมาตร 1.547 ลบ.ม. มีดขอ จำนวน 1 เล่ม มีดอีโต้ จำนวน 1 เล่ม เลื่อยคันธนู จำนวน 2 ปื้น รถยนต์กระบะบรรทุกตอนเดียว 4 ล้อยี่ห้อ มิตซูบิชิ สตราด้าสีเขียว ทะเบียนสุรินทร์ จำนวน 1 คัน

เจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหาว่า มีความผิด ตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 มาตรา 14 ฐาน "ทำไม้กระทำด้วยประการใดๆอันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาต และ" พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 มาตรา 53 วรรคหนึ่ง ฐาน "เข้าไปในเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต" มาตรา 55 วรรคหนึ่ง (5) ฐาน "เก็ษหา นำออกไป กระทำการด้วยประการใดๆให้เป็นอันตราย หรือทำให้เสื่อมสภาพซึ่งไม้ หรือกระทำการอื่นใดอันส่งผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อง ระบบนิเวศ โดยไม่ได้รับอนุญาต"มาตรา 55  วรรค หนึ่ง(2) ฐาน "ยึดถือครอบครองที่ดินแผ้วถาง เผาป่า หรือกระทำด้วยประการใดให้เสื่อมเสียหรือเปลื่อนแปลวสภาพธรรมชาติเดิมโดยไม่ได้รับอนุญาต"

เจ้าหน้าที่จึงได้บันทึกจับกุม-ตรวจยึดพร้อมแจ้งสิทธิ์ตามกฎหมายให้ผู้ต้องหาทราบแล้วได้นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน.สภ.กาบเชิง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป