วันที่ 12 พ.ย.2565 ที่เกาะไข่ เขตอุทยานแห่งชาติตะรุเตา จ.สตูล จิตอาสาจากทั่วสารทิศ กว่า 500 คนร่วมกันเก็บขยะบนเกาะไข่ เป็นเกาะแรก ในโครงการรักษ์เล ป่า ฟ้าสตูลครั้งที่ 20 ก่อนจะตะลุยเก็บขยะที่ เกาะอาดัง เกาะราวี เกาะหินงาม และเกาะหลีเป๊ะ ต่อในวันพรุ่งนี้ โดยขยะส่วนใหญ่เป็นขยะที่ลอยมาจากแผ่นดินใหญ่ และเป็นเศษอวน เครื่องมือประมง ที่ติดค้างอยู่บนเกาะไข่
เกาะไข่ เกาะเล็กๆ เกาะหนึ่งในอุทธยานแห่งชาติตะรุเตาตั้งอยู่ระหว่าง เกาะตะรุเตา กับ เกาะอาดัง เสน่ห์ของเกาะไข่อยู่ที่ซุ้มประตูหินประติมากรรมธรรมชาติ อันเป็นสัญลักษณ์ของอุทธยานแห่งชาติตะรุเตา คู่รักคู่ใดได้ลอดซุ้มประตูหินนี้มีความเชื่อว่า จะสมหวังในความรัก และครองคู่กันไปอย่างมีความสุขชั่วนิจนิรันด์
ในส่วนของ ซุ้มหินชายฝั่งเกาะไข่ ผลจากการกระทำของพลังคลื่น น้ำขึ้นน้ำลง กระแสลม และการขัดสีของทรายที่ถูกพัดพามาด้วย ทำให้หน้าผาหินที่ยื่นออกไปในทะเล หรือหัวแหลม บริเวณชายฝั่ง เกิดการกัดเซาะจนเปลี่ยนรูปร่างไปจากเดิม พลังจากลมและน้ำที่กระแทกเป็นวงจรอยู่ซ้ำ ๆ เนิ่นนาน ทำให้เกิดแรงดันเข้ากัดเซาะตามรอยแตก รอยแยกในเนื้อหิน หรือตรงบริเวณที่มีรอยเลื่อน รอยคดโค้งในชั้นหินมาก กระทั่งรอยเหล่านั้นขยายใหญ่ขึ้น แล้วผุพังสึกกร่อน สุดท้าย หินบริเวณนั้นก็จะแตกหัก และพังลงทั้งสองด้าน เกิดเป็นช่องทะลุเข้าหากันได้ เรียกว่า “ซุ้มหินทะเล”
ช่องว่างนี้จะกว้างขึ้นตามกาลเวลา ถ้ากว้างจนส่วนบนของซุ้มหินขาดออกจากกันเหลือเพียงคานหรือเสาซุ้มด้านหนึ่ง เรียกว่า “เกาะหินโด่ง” (stack) ส่วนรอยหยักที่เกิดขึ้นเป็นแนวตอนล่างของหน้าผาหรือแหลมหิน เป็นรอยการเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำทะเล เรียกว่า “รอยน้ำเซาะหิน” (notch) ภูมิลักษณ์แบบนี้ส่วนใหญ่เกิดในหินตะกอน โดยเฉพาะในหินทราย หรือบริเวณที่มีหินหลายชนิดเกิดสลับชั้นกัน แหล่งที่โดดเด่นเป็นที่รู้จัก ก็เช่น ซุ้มหินชายฝั่งหาดผาแดงที่จังหวัดชุมพร แหลมจมูกควาย จังหวัดกระบี่ และที่เกาะไข่ จังหวัดสตูลแห่งนี้