เมื่อวันที่ 12 พ.ย.2565 ประชาชนและนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศจำนวนมากให้ความสนใจพากันเดินทางไปท่องเที่ยวบริเวณงานเทศกาลสีสันกาสะลอง ที่ทางมูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์ จังหวัดเชียงราย ร่วมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนังกานเชียงราย การท่องเที่ยวและกีฬา องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย เทศบาลนครเชียงราย และภาคเอกชนจัดขึ้นที่บริเวณลานกาสะลอง ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงราย  

โดยเฉพาะการเข้าชมความสวยงามของต้นคริสต์มาสหมอกพันวา เป็นการร่วมมือกันของชาวบ้าน กลุ่มชนเผ่าบนพื้นที่ดอยตุงที่ใช้เวลาว่างมาร่วมแรงร่วมใจถักทอผ้า ด้วยผ้าธรรมชาติและวัสดุในท้องถิ่นสื่อถึงการใช้ชีวิตทีเรียบง่ายและผูกพันกับธรรมชาติ เช่น ไม้ไผ่  เถาสน  ไหมย้อมสี  ผ้าฝ้าย และหญ้าแฝก โดยได้รับแรงบันดาลใจจากลายปักผ้าและของตกแต่งบนเครื่องแต่งกายของ 6 ชนเผ่าต่างๆในจังหวัดเชียงราย ได้แก่ อาข่า ลาหู่ ลัวะ ไทใหญ่ ไทลื้อและม้ง ที่แต่ละชนเผ่าจะมีอัตลักษณ์การแต่งกายที่แตกต่างกันออกไป เช่นการประดับโลหะที่หมวก การปักลวดลายประจำเผ่าหรือประดับผ้าแถบสีสันสดใส  โดยทั้ง 6 ชนเผ่า ซึ่งผ้าทอมืขนาด  1,000 วา  หรือ 2,000 เมตรเลยทีเดียว สำหรับยอดต้นคริสต์มาส ประดับด้วย “ต๋าแหลว”  ที่มักจะใช้ในพิธีกรรมล้านนาเช่นพิธีสืบชะตาหรือประดับไว้ตรงประตู มีลักษณะเหมือนกับกระจกแปดทิศ เพื่อดักความชั่วร้าย  โดยได้ทำพิธีเปิดไฟรับเทสกาลอย่างเป็นทางการไปเมื่อช่วงคืนที่ผานมา โดยมีนายภาสกร บุญญลักษม์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธาน

สำหรับงาน “เทศกาลสีสันกาสะลอง” จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี เพื่อสร้างสีสันและต้อนรับนักท่องเที่ยวที่จะมารับลมหนาวภาคเหนือในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่กำลังจะมาถึง พร้อมเผยแพร่ เรื่องราวทางวัฒนธรรมท้องถิ่นที่ทรงคุณค่าแห่งล้านนาให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้นโดยได้นำเทคนิคต่างๆ เข้ามาผสมผสาน โดยแต่ละปีจะมีไฮไลท์สุดพิเศษแตกต่างกันออกไป เพื่อมอบประสบการณ์แปลกใหม่ให้กับชาวเชียงรายและนักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชมงาน โดยปีนี้จัดให้มีขึ้นระหว่างเดือนพฤศจิกายน ยาวไปเดือนสิ้นเดือนมกราคม 2566

นอกจากนี้ภายในยังจัดให้มีการแสดงศิลปะวัฒนธรรมของกลุ่มชาติพันธุ์ชนเผ่าๆให้ได้ชมในช่วงวันหยุดสัปดาห์แลละวันหยุดนักขัตฤกษ์ที่มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวชมมาก อีกทั้งยังมีอาหารและเครื่องดื่มที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นขนมหวาน ปิ้งย่าง  หรืออาหารประเภทยำ   รวมไปถึงอาหารประจำถิ่นของกลุ่มชนเผ่าโดยเฉพาะกลุ่มชาติพันธุ์อาข่าและชาวไทยใหญ่ ที่ได้รับความนิยมคือข้าวซอยน้อย ข้าวแรมฟืนและข้าวฟืนทอด ให้นักท่องเที่ยวได้เลือกซื้อเลือกชมหรือนั่งรับประทารบริเวณงานท่ามกลางบรรยากาศที่สวยงาม ตลอดจนการเลือกซื้อสินค้าชุมชน งานหัตถกรรมชนเผ่าแบบวัฒนธรรมดั้งเดิมหรือสินค้าโอท็อปขึ้นชื่อของจังหวัดเชียงรายที่มีจำหน่ายไว้จำนวนมาก

โดยนายภาสกร กล่าวว่า ปัจจุบันเชียงรายมีสภาพอากาศที่หนาวเย็นและสถานการณ์โควิด 19 เริ่มคลี่คลายทำให้มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเยือนพื้นที่เพิ่มขึ้นอย่าวงต่อเนื่อง โดยมีเที่ยวบินเปิดบินถึงวันละ 52 เที่ยวบินต่อวัน ขณะที่ตามดอยสูงก็มีแหล่งท่องเที่ยวมากมาย อาทิ ภูชี้่ฟ้า ผาตั้ง ดอยตุง ดอยแม่สลอง หรือดอยผาหมี อีกทั้งในช่วงสิ้นปีจะจัดให้มีงานเทศกาลดอกไม้อีก 2 งาน ซึ่งคาดว่าปีนี้การท่องเที่ยวจะกลับมาคึกคัก 

"ทางจังหวัดได้เน่้นย้ำให้ทางผู้ประกอบการต่างๆรวมทั้งพี่น้องประชาชนในการเป้นเจ้าบ้านที่ดีให้การต้อนรับนักท่องเที่ยว ไม่เอารัดเอาเปรียบให้บริการในราคาที่เหมาะสมเพื่อให้การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ซึ่งอยากเชิญชวนนักท่องเที่ยวมาเยือนจังหวัดเชียงราย ซึ่งช่วงนี้ไปถึงต้นปีหน้า เชียงรายมีทัศนียภาพที่สวยงามเหมาะแก่การท่องเที่ยวและพักผ่อนเป็นอย่างมาก" นายภาสกร กล่าว.