วันที่ 11 พ.ย. 2565 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณี นพ.ระวี มาศฉมาดล หัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ เสนอร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) นิรโทษกรรม โดยกำหนดเงื่อนไข ไม่รวมไปถึงคดีทุจริต คดีอาญาร้ายแรง และความผิดเกี่ยวกับกฎหมายอาญามาตรา 112 ว่า รัฐบาลไม่เคยมีใครพูดเรื่องนี้ ตนยังไม่ทราบ
เมื่อถามว่า หากเรื่องดังกล่าวถูกหยิบยกมาเป็นประเด็นสังคมจะดำเนินการอย่างไร นายวิษณุ กล่าวว่า “ก็ต้องถามว่ายังไม่เข็ดอีกหรือ”
เมื่อถามว่า ที่ระบุว่ายังไม่เข็ดอีกหรือหมายถึงอะไร รองนายกฯ กล่าวว่า เนื่องจากเคยมีความคิดทำเรื่องนี้มาแล้ว แล้วก็เป็นเรื่อง
ส่วนที่ นพ.ระวี อ้างว่า มีการกำหนดเงื่อนไขที่รัดกุมและจะไม่ใช่การนิรโทษกรรมแบบสุดซอย นายวิษณุ ตอบว่า มันอาจมีวิธีเขียนให้ผลออกมาคล้ายๆ กัน แต่ดูนุ่มนวลกว่านี้ก็ได้ ใส่เงื่อนไขใส่หลักเกณฑ์และวิธีการเข้าไป ตนไม่รู้ ตนไม่ได้เสนอ ต้องไปถาม นพ.ระวี ตนตอบไม่ถูก
ผู้สื่อข่าวถามว่า การอ้างเงื่อนไขที่รัดกุมไว้ก็ยังน่ากังวล เพราะในการพิจารณาอาจมีการเปลี่ยนแปลงเนื้อหาในสภาฯใช่หรือไม่ นายวิษณุ ตอบว่า “อันนั้นแหละที่น่ากลัว ส่วนน่ากลัวอย่างไร เหมือนที่สื่อถาม ก็คือตั้งต้นเสียดี แต่พอไปถึงปลายทางอาจไม่เหมือนที่ตั้งใจไว้”
เมื่อถามอีกว่า นายกรัฐมนตรี เคยเปรยเรื่องการนิรโทษกรรมไว้บ้างหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า “ไม่เคยได้ยินตั้งแต่เกิดมา และในรัฐบาลไม่เคยได้ยินใครพูดเลยถึงเรื่องนี้”
เมื่อถามว่า ในช่วงปลายรัฐบาลเช่นนี้หากผลักดันเรื่องดังกล่าวจะเป็นผลบวกหรือผลลบ นายวิษณุ ตอบว่า “น่าจะเป็นผลลบ เพราะจะถูกการเมืองนำไปตีความต่างๆ และยิ่งมาทำใกล้ช่วงนี้น่าจะเป็นลบ”