จากกรณีมูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์ Watchdog Thailand Foundation - WDT โพสข้อความ #สุดสลด !! #กลุ่มคนเปิดเพจรับบริจาคปล่อยหมาแมวตายป่วยอดอาหารตายคากรงกัดกินซากกันเอง ซึ่งระบุเหตุการเดิดขึ้นที่บ้านหลังหนึ่ง ในซอยหทัยราษฎร์ 39
ล่าสุด มูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์ เจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์ และเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.คันนายาว ได้เดินทางมายังบ้านดังกล่าวลักษณะเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น รอบบ้านเต็มไปด้วยขยะ และซากต้นไม้ใบไม้ ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ปรึกษาหาทางช่วยสุนัขที่อยู่ในบ้านนั้น นายสุพล อายุ 66 ปี แสดงตัวเป็นพ่อเจ้าของบ้าน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้ชายคนดังกล่าว เซ็นมอบอำนาจเพื่อจะเปิดเข้าไปในบ้านทางชายคนดังกล่าวก็ยินยอมและให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
ซึ่งตอนเข้าไปสภาพบ้านรกและมีซากแมวตายอยู่เป็นบางจุดมีกรงขนาดใหญ่ 3-4 กรง อยู่กลางบ้านโดยที่มีแมวอยู่ภายใน ภายในบ้านพบตู้เย็น 1 ตู้โดยมีซากแมวแช่ไว้ในตู้เย็นนับ 10 สภาพแมวแต่ละตัวผอมเหลือแต่กระดูก โดยภายในบ้านพบสุนัข 3 ตัวพร้อมเหลือแต่กระดูกเช่นเดียวกัน เจ้าหน้าที่จึงรีบทยอยนำสุนัขและแมวออกมาทีละตัวเพื่อมาปฐมพยาบาลและดูอาการแมวและสุนัขว่ามีโรคอะไรไหมจะได้รักษาตามโรคนั้นๆ
นายสามารถ ชำนิไกร อายุ 39 ปี เจ้าหน้าที่กู้ภัย 4 ขาสมุทรปราการ กล่าวว่า ซึ่งภายในบ้านมีขยะเยอะและผอมทุกตัว ซึ่งแมวแต่ละตัวถูกขังอยู่ตามห้องและในกรงทั่วบ้าน ซึ่งมีขังอยู่ในห้องข้างบนและข้างล่าง มีทั้งอยู่ในกรงและนอกกรงซึ่งแต่ละตัวผอมมาก และยังพบซากแมวตามพื้นและแช่อยู่ในตู้เย็น ซึ่งตอนนี้ยังประมาณไม่ได้ว่าซากแมวทั้งหมดมีกี่ตัวและแมวที่มีชีวิตทั้งหมดมีกี่ตัว
นายสุพล อายุ 66 ปี (พ่อของเจ้าของบ้านและแมว) กล่าวว่า ลูกสาวของตนได้นำแมวมาเลี้ยงนานนับ 10 ปีก่อนที่จะซื้อบ้านหลังนี้อีก ซึ่งลูกสาวจะนำแมวหมาที่ป่วยและแมวหมาพิการแมวหมาถูกรถชนมารับเลี้ยงด้วยตัวเอง หมาแมวจรจัด ซึ่งจะนำมารักษาด้วยตัวเองโดยค่ารักษาแต่ละตัวเป็นจำนวนเงิน 4-5 หมื่น ซึ่งมีตัวหนึ่งราคามากสุดค่าการรักษาคือ 300,000 บาท ซึ่งมีโรงพยาบาลอยู่โรงพยาบาล 1เซ็นค่ารักษาไปก่อนได้ ซึ่งแมวหลังดังกล่าวตนก็ไม่รู้ว่ามีกี่ตัวแต่ประมาณได้ว่านับร้อยตัว ซึ่งบ้านหลังดังกล่าวลูกสาวได้ซื้อไว้เพื่อให้แมวและหมาอยู่ ซึ่งหมาและแมวที่มีเยอะขนาดนี้เนื่องจากลูกสาวเปิดเพจรับดูแลรักษาหมาแมวซึ่งมีผู้มาบริจาคอยู่เรื่อยๆจึงมีหมาและแมวเยอะขนาดนี้ เพราะเมื่อก่อนลูกสาวมีรายได้ต่อเดือนนับแสนบาทซึ่งพอมีกำลังช่วยเหลือน้องหมาน้องแมวแต่พักหลังลูกสาวไม่มีรายได้จึงไม่สามารถดูแลหมาแมวที่รับบริจาคมาได้จึงปล่อยให้เป็นสภาพแบบนี้ซึ่งลูกสาวก็เสียใจมาก เพราะเคยสัญญาว่าจะตายและทั้งชีวิตจะมีแค่หมาและแมวเท่านั้น ซึ่งลูกสาวเคยแจ้งไปทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เข้ามาช่วยเหลือแล้วแต่ก็ไร้วี่แววในการช่วยเหลือ
ทางด้านตัวแทนมูลนิธิอนุรักษ์ช้างและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ซึ่งทางมูลนิธิได้เห็นในจาก facebook ซึ่งทางครูเล็กได้เห็นภาพว่ามีแมวและหมาจำนวนมากที่เจ็บป่วย ได้ลงพื้นที่และตัดสินใจรับแมวและหมาทั้งหมดไว้ดูแล ซึ่งสภาพน้องหมาน้องแมวดังกล่าวที่ได้เห็นน่าจะอดอาหารและมีบางตัวเจ็บป่วย ตอนนี้ยังนับจำนวนไม่ได้ว่ามีกี่ตัว ซึ่งแมวและหมาทุกตัวจะได้นำตัวไปโรงพยาบาลสัตว์ที่ทางมูลนิธิดิวอยู่ และจะดูแลให้ดีที่สุด ซึ่งแมวและหมาทุกตัวจะนำไปมูลนิธิเขาแม่แตงที่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งแต่ละตัวจะรับการรักษาก่อนที่พร้อมจะเดินทางไปได้ถึงจะนำไปที่มูลนิธิแม่แตงเชียงใหม่ ซึ่งค่าใช้จ่ายทั้งหมดทางครูเล็กจะออกให้ทุกตัว ส่วนซากของแมวที่เสียชีวิตจะนำไปที่วัดบำเพ็ญกุศลตามพิธีทางศาสนาต่อไป
ขอบคุณข้อมูล/ภาพ : มูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์ Watchdog Thailand Foundation - WDT