ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเชียงแสน แถลงกรณี แพทย์หญิงโรงพยาบาลเชียงแสน ปะทะคารมกับญาติผู้ป่วย
จากกรณีเกิดเหตุญาติผู้ป่วยและผู้ป่วยที่ไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลของรัฐแห่งหนึ่งใน จ.เชียงราย ได้มีการการถกเถียงกับแพทย์หญิงคนหนึ่งภายในห้องทำงานของโรงพยาบาล โดยมีญาติผู้ป่วยถ่ายคลิปไว้โดยเนื้อหาเป็นการต่อว่าแพทย์หญิงว่าให้บริการไม่ดี บางครั้งพูดถึงเรื่องความโง่ของผู้ป่วย และบางช่วงใช้สรรพนามว่า "กู" และ "มึง" ฯลฯ จนปรากฎในสื่อสาธารณะหรือโซลเชียลมีเดียร์เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันนั้น
ล่าสุดนายสุขชัย เธียรเศวตตระกุล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเชียงแสน ตั้งอยู่ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ได้พร้อมด้วยคณะผู้บริหารโรงพยาบาลได้ออกมาแถลงข่าวยอมรับว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นที่โรงพยาบาลเชียงแสนจริง
นายสุขชัย กล่าวว่า ตามที่มีการเผยแพร่คลิปดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 3 พ.ย.ในช่วงเวลา 19.00- 20.00 น.นั้น ทางโรงพยาบาลขอแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเป็นเหตุการณ์ที่หญิงไทยอายุประมาณ 36 ปี ตั้งครรภ์ประมาณ 12 สัปดาห์ มีอาการ 2 ชั่วโมงก่อนไปโรงพยาบาลด้วยการมีอาเจียนบ่อยมากว่า 10 ครั้ง ไม่สามารถรับประทานอาหารได้และมีอาการอ่อนเพลียรวมทั้งมวลท้อง ทำให้เคยไปรับการรักษาที่คลินิคเอกชนแห่งหนึ่งมาแล้วแต่ยังคงมีอาการคลื่นไส้อาเจียนและอ่อนเพลีย จึงได้เดินทางไปรับการรักษาที่ห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลเชียงแสน ในเวลา 18.35 น.ของวันเดียวกัน ซึ่งแพทย์ได้สั่งการรักษาด้วยการฉีดยาแก้อาเจียนแต่ผู้ป่วยไม่ต้องการยาฉีดและต้องการนอนพักที่โรงพยาบาลรวมทั้งขอรับน้ำเกลือ กระนั้นแพทย์ที่รักษาไม่ดำเนินการตามที่ผู้ป่วยร้องขอทำให้ผู้ป่วยไม่พอใจและเรียกญาติเข้าไปในห้องฉุกเฉินก่อนมีการโต้เถียงกันตามที่ปรากฎในคลิปที่เผยแพร่ในสื่อสาธารณะ
นายสุขชัย กล่าวอีกว่า หลังเกิดเหตุโรงพยาบาลเชียงแสนได้ทบทวนมาตรฐานการรักษาพยาบาลซึ่งพบว่าการรักษาเป็นไปตามมาตรฐานทางการแพทย์ แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นเบื้องต้นมาจากการสื่อสารที่ไม่เข้าใจกัน ดังนั้นทางโรงพยาบาลจึงให้แพทย์คนดังกล่าวได้หยุดงานเป็นเวลา 7 วันในระว่างที่รอผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยละเอียด
สำหรับผู้ป่วยทราบว่าขณะนี้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งใน จ.เชียงราย และมีอาการดีขึ้นแล้ว กระนั้นตนในฐานะผู้อำนวยการโรงพยาบาลเชียงแสนและแพทย์ที่เกี่ยวข้องขอแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งนี้จะได้นำเหตุการณ์มาเป็นแนวทางในการดำเนินการเพื่อไม่ให้เกิดขึ้นอีกต่อไป.