วันที่ 4 พ.ย.2565 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย นายโรเบิร์ต เอฟ.โกเดคเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ร่วมกิจกรรมวาดภาพบนกำแพงสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย เกี่ยวกับพลังของเพศหญิงเพื่อสนับสนุนและรณรงค์ให้เกิดความเท่าเทียมกันของทุกคนในสังคมบริเวณกำแพงสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ฝั่งยื่นคำร้องขอวีซ่า ถนนวิทยุ เขตปทุมวัน
นายชัชชาติ กล่าวว่า ในวันนี้สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย จัดให้มีการเขียนรูปภายใต้แนวคิด We Are Tomorrow เพื่อสื่อสารถึงคนรุ่นใหม่ซึ่งเป็นพลังในอนาคต ผ่านการแสดงศิลปะบนกำแพง โดยส่วนตัวมองว่า การใส่งานศิลปะลงบนกำแพงทำให้การสื่อสารมีความหลากหลายขึ้น สอดคล้องกับเทศกาล Colorful Bangkok ที่ กทม.จัดขึ้น ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2565 ถึง มกราคม 2566 ซึ่งจะมีการจัดแสดงงานศิลปะหลายรูปแบบ เช่น จิตรกรรม ดนตรี และการจัดแสดงแสงสีเสียง เพื่อแสดงให้เห็นศักยภาพของเมือง ภายใต้นิยาม เมืองคือคนคนคือศิลปวัฒนธรรม สิ่งเหล่านี้ทำให้มนุษย์ต่างจากวัตถุและสิ่งปลูกสร้าง โดย กทม.มีวัตถุประสงค์ให้มีการแสดงความสามารถของศิลปิน รวมถึงสร้างพื้นที่ให้ทุกคนสามารถแสดงออกได้ และให้เยาวชนได้มีส่วนร่วมในการสร้างงานศิลปะ เพื่อสร้างความภาคภูมิใจในเมืองของตนเอง ซึ่งการขับเคลื่อนงานด้านนี้ไม่ได้อาศัยงบประมาณมาก หากใช้ความร่วมมือจากหลายภาคส่วนเป็นหลัก
นายชัชชาติ กล่าวว่า ปัจจุบัน กทม.ได้หารือเรื่องการแลกเปลี่ยนศิลปวัฒนธรรมกับเอกอัครราชทูตกว่า 21 ประเทศล่าสุดมีเอกอัครราชทูตจากอิสราเอลมาร่วมปลูกต้นไม้ที่สวนเบญจกิติ และเอกอัครราชทูตไอแลนด์ รวมถึงรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศจากออสเตรเลีย ได้มีการหารือเพื่อแลกเปลี่ยนโครงการด้านศิลปวัฒนธรรมเพื่อสร้างความเชื่อมโยงระหว่างเมืองในอนาคตให้มีการแสดงออกทางศิลปะมากขึ้น เพราะศิลปะเป็นการแสดงเสรีภาพทางความคิดและการแสดงออก ทั้งนี้ กทม.ไม่ได้มีความเชี่ยวชาญทางด้านศิลปะ แต่มีพื้นที่สามารถอำนวยความสะดวกให้ให้ทุกคนมาร่วมมือกันเพื่อช่วยกันเปลี่ยนเมือง เชื่อว่า หากมีพื้นที่ให้แสดงฝีมือ คนจะสื่อความหมายผ่านการสร้างสรรค์ได้มากขึ้น เป็นการมีส่วนร่วมของผู้คนเพื่อช่วยกันทำให้เมืองสวยงาม โดยเฉพาะเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ซึ่งชื่นชอบการวิ่งเหมือนกับตน มีความเอาจริงเอาจังในด้านการแสดงออกเชิงศิลปะ และอยากเห็นการมีส่วนร่วมในชุมชน ผู้คน โดยมองว่า ต้องดึงศักยภาพของคนออกมาให้ได้ ดังนั้น สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ได้ร่วมมือกับ กทม.ในมิติชุมชน และได้วางโครงการความร่วมมือกันไว้ในอนาคต
“ในอนาคตบทบาทผู้ว่าฯมีความสำคัญ เพราะสามารถเปลี่ยนชีวิตคนได้ การร่วมมือกันระหว่างผู้ว่าในประเทศต่างๆเป็นเรื่องน่าสนใจ เราได้หารือกับผู้ว่าฯกรุงพนมเปญ เวียงจันทน์ ย่างกุ้ง กัวลาลัมเปอร์ ถึงแนวทางร่วมกันเป็นเครือข่ายผู้ว่าราชการ เพราะหลายครั้งการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในระดับเมือง ซึ่งสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงให้เห็นผลได้ในระยะเวลาไม่กี่เดือน เพราะงานเกี่ยวกับศิลปวัฒนธรรมสามารถก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว และเทศกาลศิลปะที่ กทม.จัดขึ้นตลอด 3 เดือนนี้ เชื่อว่าจะทำให้มีการเปลี่ยนแปลงมากขึ้น” นายชัชชาติ กล่าว