ใกล้เข้ามาทุกที สำหรับความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของข้าราชการกทม.นั่นคือการย้ายข้าราชการภายในศาลาว่าการกทม.เสาชิงช้า ไปทำการที่ศาลาว่าการแห่งที่ 2 เขตดินแดง พร้อมเปลี่ยนอาคารศาลาว่าการกทม.เสาชิงช้าเดิมให้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์เล่าเรื่องราวกรุงเทพมหานคร เมืองหลวงของประเทศไทย

นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ตนเองเป็นคนหนึ่งที่อาศัยในย่านศาลาว่าการกทม.เสาชิงช้า แต่เข้าใจการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น ที่แห่งนี้เปรียบเสมือนสะดือใจกลางเมือง มีศักยภาพเหมาะสมที่จะเป็นพิพิธภัณฑ์ หรือเป็นศูนย์กลางที่จะเล่าเรื่องราววัฒนธรรมเมือง การท่องเที่ยว ส่วนข้าราชการก็อาจมีผลกระทบเรื่องการเดินทาง แต่เชื่อว่าสถานที่เหมาะสมกว้างขวาง ซึ่งต่างจากที่เสาชิงช้า

จึงมองว่าการย้ายครั้งนี้จะทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากกว่ามีหลายที่ ส่วนการเปลี่ยนเป็น “พิธภัณฑ์เมือง” ตนมองเชื่อว่าหัวใจคือการเปลี่ยนผ่านอย่างค่อยเป็นค่อยไป ต้องมีแผนการเปลี่ยนเป็นพิพิธภัณฑ์อย่างละเอียด มีการศึกษาเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างรอบด้าน ซึ่งกทม.มีคณะกรรมการศึกษาเรื่องนี้อยู่และจะมีการชุมครั้งแรกเร็วๆ นี้ โดยมีคณาจารย์ที่เชี่ยวชาญเรื่องประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และเรื่องความเป็นมาของเมืองในมิติต่างๆ มาร่วมกันออกแบบและกำหนดความเหมาะสมด้านเนื้อหาของพิพิธภัณฑ์

สำหรับชาวบ้านชุมชนรอบๆ ศาลาว่าการกทม.เสาชิงช้ากับความเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงได้ยาก แต่อยากให้มองระยะยาวร่วมกัน คือ เขตพระนครควรเป็นแหล่งท่องเที่ยวและแหล่งวัฒนธรรม ซึ่งจะไม่เงียบเหงา มีชีวิตชีวา โดยความหมายของความมีชีวิตชีวาในชุมชนไม่ได้แปลว่าต้องให้ข้าราชการอยู่ตรงนี้ อาจมีชีวิตชีวาด้วยการท่องเที่ยว ด้วยความร่วมมือของประชาชนที่ชื่นชอบวัฒนธรรม

“ผมว่าหัวใจต้องไม่ทำให้เศรษฐกิจชุมชนพัง ถ้าเรารีบย้ายแบบตัดขาดทีเดียว คนจะหายไปหลายพันคน คือผมก็อยู่แถวนั้น รู้ว่าการเปลี่ยนแปลงต้องอาศัยการเปลี่ยนผ่านอย่างค่อยเป็นค่อยไป เราต้องศึกษาให้แน่ใจว่าคนที่มาท่องเที่ยวพิพิธภัณฑ์เมืองสามารถทดแทนข้าราชการที่ย้ายไปดินแดงได้ มีตัวอย่างสถานที่ที่เคยย้ายแล้วเศรษฐกิจพังไปเลย 2 ปี ฉะนั้น ตอนย้ายต้องคิดให้ละเอียด ว่าเราจะมีใครมาแทนที่และจะเกิดเศรษฐกิจรูปแบบไหน ผมว่าประชาชนย่านเหล่านั้นต้องมาร่วมมือกัน แต่อย่ามองว่าเป็นเรื่องค้าน ข้าราชการควรต้องย้าย โดยยึดภาพรวมเป็นหลัก” นายศานนท์ กล่าว

...บรรดาผู้ประกอบการ ผู้ค้ารอบๆศาลาว่าการกทม.มีความเห็นอย่างไร...

เจ้าของร้านขายก๋วยเตี๋ยว รายหนึ่ง กล่าวว่า ร้านตนเปิดขายมากว่า 9 ปี และเชื่อว่าร้านค้า ร้านอาหารต่างๆก็เปิดกันหลายปี ไม่น้อยกว่า 9-10 ปี มีลูกค้าเต็มร้านทุกวัน ลูกค้าส่วนใหญ่คือข้าราชการ หากคนเหล่านี้ย้ายไปอาจส่งผลกระทบพอสมควร แต่ก็ยังเชื่อว่า การเปลี่ยนย่านนี้ให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวอาจทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น โดยตนเตรียมการปรับร้าน ปรับเมนู ให้มีภาษาจีน ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติและการเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะมาถึง ทั้งนี้ ในฐานะผู้ประกอบการยังไม่รู้ว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จะส่งผลไปทางใด อาจดีขึ้นกว่าเดิมก็ได้

...และบรรดาข้าราชการคิดเห็นอย่างไร...

ข้าราชการรายหนึ่ง เผยว่า  เชื่อว่ามีคนที่พร้อมรับการเปลี่ยนแปลง และก็ไม่อยากไป ไม่มีปัญหาเรื่องการเดินทางหากย้ายศาลาว่าการกทม.ไปอยู่ที่เขตดินแดง แต่ที่บางคนไม่อยากไปอาจเป็นเพราะ ลูกเรียนในพื้นที่ อาจไม่สะดวก ซึ่งถึงแม้จะเป็นปัญหาส่วนตัว แต่อาจกระทบต่อประสิทธิภาพในการทำงาน แต่เชื่อว่า เมื่อถึงเวลาทุกคนก็ต้องทำได้ อาจยุ่งยาก ลำบากในช่วงแรๆ แต่จะสามารถปรับตัวไปได้เองในที่สุด แต่ก็มองว่าพื้นที่ศาลาว่าการกทม.เสาชิงช้าเหมาะสมในการทำงานอยู่แล้ว เพราะอยู่ใกล้หน่วยงานภาครัฐรวมถึงกระทรวงต่างๆ ซึ่งเอื้อต่อการติดต่อประสานงานและการประชุมหารือ รวมถึงมีพื้นที่เพียงพอซึ่งสามารถดูแลจัดการได้ทั่วถึง มีเสน่ห์และเอกลักษณ์เฉพาะตัว แต่ก็พบว่ามีการปรับตัวและวิถีชีวิตมานานเช่นกัน

 ดังนั้นการย้ายศาลาว่าการกทม.จึงสะดวกต่อผู้อาศัยใกล้เขตดินแดงบ้าง หลังจากพวกเขาเดินทางไกลมาทำงานที่ศาลาว่าการกทม.เสาชิงช้ามานาน ขณะเดียวกัน หลายคนที่มีบุตรหลานเรียนหนังสืออาจต้องปรับเปลี่ยนวิธีรับส่งแตกต่างจากเดิม ทั้งนี้ ต้องเข้าใจข้าราชการบางส่วนที่อาศัยอยู่ใกล้เขตดินแดงด้วยว่า แต่เดิมพวกเขาก็สามารถเดินทางมาทำงานที่ศาลาว่าการ

...เปลี่ยนศาลาว่าการกทม.เป็นพิพิธภัณฑ์...

 ชาวบ้านที่อาศัยและเปิดร้านขายของชำ อยู่ด้านหลังศาลาว่ากทม.รายหนึ่ง มองว่า อาจจะไม่ได้รับความนิยม เพราะพื้นที่โดยรอบมีพิพิธภัณฑ์หลายแห่งซึ่งมีคนเข้าใช้บริการไม่มาก การสร้างพิพิธภัณฑ์เพิ่มขึ้นอีกแห่งอาจเป็นการสิ้นเปลืองงบประมาณโดยเปล่าประโยชน์เพราะมีพื้นที่เดิมให้ใช้งานอยู่แล้ว บางพิพิธภัณฑ์ที่อยู่รอบๆยังต้องเกณฑ์คนไปเข้าไปชมเพื่อไม่ให้เงียบเหงา ก็กลัวว่าพิพิธภัณฑ์เมืองจะเป็นเช่นนั้นด้วย

พิพิธภัณฑ์เมือง อาจได้รับความนิยมน้อย เพราะเรื่องเมืองเป็นความสนใจเฉพาะด้าน และสามารถหาข้อมูลได้หากต้องการ ทั้งนี้ หากมีการย้ายเกิดขึ้น วิถีชีวิตของข้าราชการบางส่วนอาจเปลี่ยนไป เช่น เรื่องการเดินทาง รวมถึงบางส่วนอาจต้องย้ายที่อยู่อาศัยเพื่อให้สะดวกต่อการเดินทางไปทำงานและไม่ใช้เวลามากเกินไป