สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน ว่า เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2565 ประธานาธิบดีฮัสซัน ชีค โมฮามุดของโซมาเลียเผยในวันเดียวกันหลังจากไปตรวจเยี่ยมสถานที่เกิดเหตุคาร์บอมบ์ 2 ครั้งด้านนอกกระทรวงศึกษาธิการกลางกรุงโมกาดิชูเมื่อวันเสาร์ พบยอดผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 100 คนและบาดเจ็บถึง 300 คนและยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
           
สำหรับเหตุคาร์บอมบ์กลางกรุงโมกาดิชูเมื่อวันที่ 29 ต.ค.ที่ผ่านมา เกิดขึ้นที่สี่แยกเดียวกันกับที่เคยเกิดเหตุรถบรรทุกอัดแน่นด้วยวัตถุระเบิด ระเบิดขึ้นเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2560 ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 512 ศพและบาดเจ็บมากว่า 290 คน

โดยประธานาธิบดีโมฮามุด กล่าวถึงเหตุคาร์บอมบ์ในครั้งนี้ ว่า เป็นเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ซึ่งเกิดขึ้นในสถานที่เดิม ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องและไม่ใช่พระประสงค์ของพระเป็นเจ้า ซึ่งผู้ลงมือก่อเหตุคือกลุ่มอัลชาบับที่เป็นกลุ่มก่อการร้ายอิสลามิสต์ แม้ยังไม่มีกลุ่มใดออกมาอ้างว่าคาร์บอมบ์ล่าสุดเป็นการลงมือของกลุ่มตน
         
ทั้งนี้ ฮัสซัน ชีค โมฮามุด ชนะเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีโซมาเลียเมื่อเดือนพฤษภาคมปี 2565 นี้ ได้ประกาศหลังเหตุโจมตีโรงแรมไฮแอทเมื่อเดือนสิงหาคมว่าจะทำสงครามทุกรูปแบบกับกลุ่มอิสลามิสต์ โดยเมื่อเดือนกันยายนได้ขอให้พลเรือนออกห่างจากพื้นที่ซึ่งอยู่ในการควบคุมของกลุ่มนักรบญิฮาด เนื่องจากกำลังมีการสู้รบกันระหว่างกองกำลังติดอาวุธกับนักรบของชนเผ่า สำหรับเหตุรุนแรงก่อนหน้านี้ที่กลุ่มอัลชาบับอ้างว่ากลุ่มตนเป็นผู้ลงมือคือเหตุโจมตีโรงแรมแห่งหนึ่งในเมืองคิสมาโย เมืองท่าทางตอนใต้ของโซมาเลียเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทำให้มีผู้เสียชีวิต 9 รายและบาดเจ็บ 47 คน 

ขณะที่นักรบญิฮาดซึ่งต้องการโค่นล้มรัฐบาลโซมาเลีย โดยได้รับการหนุนหลังจากต่างชาติมานานกว่า 15 ปี โดยทางกองกำลังร่วมแอฟริกันยูเนียนขับไล่นับรบญิฮาดเหล่านี้ออกจากกรุงโมกาดิชูได้สำเร็จในปี 2554 แต่กลุ่มอัลชาบับยังคงควบคุมพื้นที่ชนบทกว้างใหญ่ของประเทศ และโจมตีทหารและพลเรือนอย่างต่อเนื่อง พร้อมกันนี้ยังได้ก่อเหตุระเบิดและกราดยิงโรงแรมไฮแอทในกรุงโมกาดิชูเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิต 21 รายและบาดเจ็บ 117 คน