สยามรัฐ ยึดมั่นอุดมการณ์ปกป้องเทิดทูนสถาบันชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ยืนหยัดรับใช้สังคมด้วยจิตสำนึกแห่งความรับผิดชอบ ...*...

สัญญาณอันตรายทางการเมืองแรงชัดขึ้นเรื่อยๆ ยังไม่ทันสิ้นเสียงโห่ร้องกระทืบเท้าแสดงความสะใจจากกลุ่มสนับสนุนม็อบ 3 นิ้ว ฝ่ายแค้นรัฐบาลจากเหตุการณ์ นายวีรวิชญ์ รุ่งเรืองศิริผล หรือ ลุงศักดิ์ วัย 62 ปี สมาชิกกลุ่มศักดินาเสื้อแดงต่อต้านเผด็จการ บุกเตะต่อย นาย​ศรี​สุวรรณ​ จรรยา​ เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย​ ระหว่างให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ก็ถึงคิว นายธนาธร  จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า โดนเข้าบ้าง เจอ นายคเณศพิศณุเทพ จักรภพมหาเดชา หรือ เค ร้อยล้าน ปรี่เข้าทำร้ายร่างกายภายในงานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 27 ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ...*...

น่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง ว่าความขัดแย้งจะลุกลามขยายวงนำไปสู่ความรุนแรงยิ่งขึ้น เมื่อทั้งพรรคก้าวไกล และคณะก้าวหน้า ยังไม่ยอมก้าวไปไหน เอาแต่เดินวนเวียนอยู่กับเรื่องแก้ไขมาตรา 112 ที่ไม่ต่างอะไรกับการหมั่นสาดน้ำมันเข้ากองเพลิง ยั่วยุย่ำยีหัวใจคนไทยทั้งชาติที่มีความรักความผูกพันกับสถาบันพระมหากษัตริย์มายาวนาน จนหลายฝ่ายหวั่นเกรงกันว่าจะเป็นการจุดชนวน อันนำไปสู่สถานการณ์อันไม่พึงประสงค์ เข้าทางคนบางกลุ่มบางชาติที่ต้องการเห็นความปั่นป่วนวุ่นวายในบ้านเรา ...*...

อย่างไรก็ตาม ยังดีที่มีหลายพรรคการเมืองไม่ได้ไหลตามการปั่นกระแสในโลกโซเชียล พร้อมใจแสดงจุดยืนตรงกันข้ามพรรคก้าวไกลในประเด็นมาตรา 112 เฉกเช่น พรรคพลังท้องถิ่นไท ที่นำโดยนายชัชวาลล์ คงอุดม หรือชัช เตาปูน ซึ่งชูธงประกาศมาตลอดตั้งแต่การเลือกตั้งครั้งก่อนว่า หนึ่งในภารกิจหลักของพรรคคือการพิทักษ์สถาบันพระมหากษัตริย์  จะไม่ยอมให้มีการแตะต้องแก้ไขยกเลิกมาตรา 112 อย่างเด็ดขาด ...*...

และล่าสุด นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ได้ประกาศจุดยืนพรรคชาติไทยพัฒนาว่า ไม่แก้ไขมาตรา 112 ด้วยเหตุผลตั้งแต่เกิดมาจนถึงทุกวันนี้ ไม่เห็นคนทั่วไปมีปัญหากับมาตรา 112 ไม่ใช่มาตราที่หาเรื่องใคร แต่ใช้เพื่อปกป้องสถาบันอันเป็นที่รัก มีมาตั้งแต่สมัยปู่ ย่า ตา ยายหัวเด็ดตีนขาดก็ต้องมีมาตรา 112 ...*...


ขณะที่พรรคพลังประชารัฐแม้ยังอยู่ในสภาพอึมครึมว่าจะชูใครเป็นคนถือธงนำสู้ศึกเลือกตั้งระหว่าง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา หรือ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ทว่า ก็ได้แสดงจุดยืนผ่าน น.ส.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ ส.ส.กทม. ในฐานะโฆษกพรรคว่า ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งกับการแก้ไข มาตรา 112 ที่เป็นบทบัญญัติในการคุ้มครองประมุขของรัฐ ซึ่งเราชัดเจนมาโดยตลอดต่อการเทิดทูนสถาบันชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์ ตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข และพรรคพลังประชารัฐ จะยึดมั่นแนวทางนี้ ไม่มีเปลี่ยนแปลง   ...*...

เช่นเดียวกับพรรคประชาธิปัตย์ ที่นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคย้ำว่า ประชาธิปัตย์  ยึดมั่นในระบบการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ไม่มีนโยบายที่จะแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 112 เพราะเนื้อหาสาระสำคัญของมาตราดังกล่าวนั้น ไม่ได้ไปสร้างความเสียหายความไม่เป็นธรรมให้กับใคร ต้องมองที่การกระทำของบุคคลมากกว่าตัวบทกฎหมาย หากมีการกระทำที่เป็นความผิดก็ให้ว่าไปตามกฎหมาย และเป็นการกระทำความผิดส่วนตัว ไม่ใช่กฎหมายมีปัญหา ความคิดและการกระทำของคนต่างหากที่มีปัญหา เมื่อมีการก้าวล่วง จาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์ ผิดถูกก็ต้องว่ากันตามข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย ...*...

“ชัดเจนว่า มาตรา 112 ไม่ได้ขัดหรือแย้งต่อหลักนิติธรรมหรือรัฐธรรมนูญ แต่อาจจะขัดใจผู้ที่คิดไม่ดีต่อบ้านเมือง พรรคการเมืองใดยื่นแก้ไข ก็ขอให้กลับไปอ่านคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญให้ดี เพราะได้เคยวินิจฉัยอธิบายความสำคัญของ มาตรา 112  ไว้แล้ว มาตรา 112 ไม่ได้เป็นปัญหาตามที่มีผู้บิดเบือน การเสนอแก้มาตรา 112 ต่อสภาฯ” โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ระบุ...*...

ไม่ต่างกับพรรคภูมิใจไทยที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคยืนยันว่า พรรคภูมิใจไทย ไม่มีแนวคิดแก้มาตรา 112 เนื่องจากเป็นพรรคการเมืองที่ก่อตั้งขึ้นมา โดยมีอุดมการณ์ทางการเมือง ปกป้องสถาบันสำคัญของชาติ เป็นหัวใจในการทำงานของพรรค และเป็นอุดมการณ์ที่สมาชิกพรรคภูมิใจไทย ทุกคน ยึดถือเป็นหลักในการทำงานรับใช้พี่น้องประชาชน ...*...

“ไม่เข้าใจคนที่เสนอแก้ไขเดือดร้อนอะไรกับกฎหมายอาญามาตรา 112 ถ้าเราไม่คิดทำผิดกฎหมาย ทำไมต้องกลัวรับโทษทางกฎหมาย ผมเชื่อว่าคนไทยส่วนใหญ่ ไม่รู้สึกว่ากฎหมายอาญามาตรา 112 เป็นปัญหาอุปสรรคในการดำเนินชีวิต ใช้ชีวิตประจำวัน จะมีก็แต่กลุ่มคนที่คิดท้าทาย คิดทำผิดกฎหมาย แต่กลัวโทษจึงมาเรียกร้องให้แก้กฎหมายให้สิ่งที่ตนจะทำ เป็นสิ่งไม่ผิดกฎหมาย ไม่ต้องรับโทษ ผมมั่นใจว่าการแก้ไขกฎหมายอาญา ม.112 ไม่มีทางได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา ใครจะคิดอย่างไร ลงมติอย่างไร เป็นสิทธิของเขา แต่พรรคภูมิใจไทย หัวหน้าพรรค พูดแทนสมาชิกทุกคนได้เลยว่า เราไม่แก้ไข และคัดค้าน ขัดขวางถึงที่สุด รวมทั้งไม่ร่วมมือร่วมทำงาน กับพรรคการเมือง นักการเมือง หรือกลุ่มการเมืองที่เสนอแก้ไขมาตรา 112 ทุกระดับ รวมไปถึงการจัดตั้งรัฐบาล หลังการเลือกตั้งครั้งหน้าหรืออีกกี่ครั้งก็ตาม” หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยย้ำ