จากมาตรการการเดินทางสู่ญี่ปุ่นที่นำเสนอให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกรวมถึงธรรมชาติที่งดงาม จึงทำให้เป็นประเทศที่เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักเดินทางชาวไทย และชาติอื่นๆ ซึ่งข้อมูล Airbnb ชี้ให้เห็นถึงนักท่องเที่ยวจากสหรัฐอเมริกาและทั่วเอเชียแปซิฟิก ต่างค้นหาที่พักของ Airbnb ในญี่ปุ่นอย่างท่วมท้น ขณะที่ประเทศไทยรั้งอันดับ 7 ของโลก หลังรัฐบาลญี่ปุ่นเปิดประตูต้อนรับนักท่องเที่ยวอย่างเป็นทางการ
ทำแคมเปญเจาะทุกกลุ่ม-ทุกช่วงเวลา
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า หลังจากประเทศที่เป็นจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวของคนไทย ได้เปิดรับนักท่องเที่ยวอย่างไม่มีเงื่อนไข โดยเฉพาะประเทศที่ได้รับความนิยมจากคนไทย 3 อันดับแรกของปี 2565 ได้แก่ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และ สปป.ลาว รวมทั้งการที่เงินบาทแข็งค่ากว่าเมื่อเทียบกับค่าเงินของประเทศปลายทาง ยิ่งทำให้การเดินทางท่องเที่ยวที่ชื่นชอบเป็นสิ่งที่คุ้มค่าทางจิตใจเป็นอย่างมาก
ขณะที่นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ในส่วนของคนไทยที่เดินทางไปเที่ยวต่างประเทศนั้น คงจะไม่มีมาตรการอะไรไปห้ามได้ เพราะเวลานี้ทุกประเทศเปิดกว้างพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวกันหมด แต่ในส่วนของททท.เองจะมุ่งเน้นการทำแคมเปญเจาะทุกกลุ่มเป้าหมายและทุกช่วงเวลา ทั้งวันหยุด วันธรรมดา เป็นต้น เนื่องจากอยากให้คนไทยที่ไม่มีแผนไปเที่ยวต่างประเทศออกมาเที่ยวภายในประเทศให้มากขึ้น รวมถึงจูงใจให้คนไทยที่ไปเที่ยวต่างประเทศหันมาเที่ยวภายในประเทศด้วย
มุ่งทำตลาดท่องเที่ยวที่มีศักยภาพ
โดยนางสาว ศิริพร บัณฑิตย์จิรกุล ผู้จัดการฝ่ายการตลาดและประชาสัมพันธ์ องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น (JNTO) กล่าวถึงบแนวทางการส่งเสริมตลาดคนไทยเที่ยวญี่ปุ่น ว่า จะมุ่งโปรโมทตลาดกลุ่มเดินทางซ้ำ กลุ่มเดินทางครั้งแรก และกลุ่มลักชัวรี พร้อมเชิญอินฟลูเอนเซอร์ไทยโปรโมทการท่องเที่ยวเมืองรอง เพราะมั่นใจว่าสินค้าและบริการท่องเที่ยวของญี่ปุ่นใน 47 จังหวัด ทั่ว 10 ภูมิภาค มีเสน่ห์ ไม่รู้เบื่อ ทำให้คนไทยต้องการไปเที่ยวญี่ปุ่นซ้ำหลายๆ ครั้ง
ด้วยสถิติเมื่อปี 2562 ก่อนเกิดวิกฤติโควิด-19 มีนักท่องเที่ยวไทยไปญี่ปุ่น 1,318,977 คน มากเป็นอันดับ 6 ของตลาดต่างชาติเที่ยวญี่ปุ่น เป็นอันดับ 5 ของตลาดเอเชียเที่ยวญี่ปุ่น และเป็นอันดับ 1 ของตลาดอาเซียนเที่ยวญี่ปุ่น โดยเป็นประเทศเดียวในอาเซียนที่มีจำนวนเกิน 1 ล้านคน
ซึ่งการเข้ามาทำตลาดท่องเที่ยวขององค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวของประเทศ และธุรกิจสายการบิน ทั้งสายการบินต้นทุนต่ำ (โลว์คอสต์) กับสายการบินที่ให้บริการเต็มรูปแบบ (ฟูลเซอร์วิส) ได้เปิดทำการบินพร้อมกับเพิ่มเที่ยวบินมากขึ้น ยิ่งเป็นแรงกระตุ้นจูงใจให้คนไทยกลุ่มที่มีรายได้ปานกลางถึงสูง วางแผนการเดินทางเที่ยวต่างประเทศแทนในประเทศ โดยใช้โอกาสในช่วงวันหยุดยาวออกเดินทางกันเป็นจำนวนมาก
สายการบินเปิดเที่ยวบินตรงรองรับ
อย่างไรก็ตามสายการบินไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์ ได้แจ้งมาว่า หลังจากญี่ปุ่นประกาศเปิดประเทศ มีผลตั้งแต่วันที่ 11 ต.ค.2565 เป็นต้นไป ส่งผลให้ในช่วงวันหยุดยาวตั้งแต่วันที่ 13-16 ต.ค.ที่ผ่านมีอัตราขนส่งผู้โดยสาร หรือโหลดแฟคเตอร์ เส้นทางบินจากกรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ) สู่ประเทศญี่ปุ่น 2 เส้นทาง ได้แก่ โตเกียว และโอซาก้า อยู่ที่ประมาณ 90-95% ทั้งนี้ไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์ตั้งเป้าหมายโหลดแฟคเตอร์เส้นทางญี่ปุ่นตลอดปีนี้ที่ 85-90%
ส่วนนาย สันติสุข คล่องใช้ยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทยแอร์เอเชีย ยังกล่าวต่อว่า ไทยแอร์เอเชียได้เริ่มให้บริการเที่ยวบินปฐมฤกษ์ เส้นทาง กรุงเทพฯ (ดอนเมือง) – ฟุกุโอกะ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 12 ต.ค.ที่ผ่านมา และถือเป็นครั้งเเรกของไทยแอร์เอเชียที่เปิดบินตรงสู่ประเทศญี่ปุ่น
สำหรับเป้าหมายปี 2566 นั้นทางททท.ได้ตั้งเป้าจำนวนนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นไว้ที่ 1.25 ล้านคน สร้างรายได้ประมาณ 75,000 ล้านบาท จากค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อทริปราว 60,000 บาทต่อคน คิดเป็นการฟื้นตัว 70% เมื่อเทียบกับปี 2562 ซึ่งมีจำนวนนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นมาไทย 1,787,185 คน สร้างรายได้ 93,758 ล้านบาท ก่อนที่สถานการณ์โควิด-19 ระบาดจะลากยาว กระทบต่อจำนวนในปี 2563 มีจำนวนลดลงเหลือ 320,331 คน ปี 2564 เหลือเพียง 9,461 คน และในส่วนของนักท่องเที่ยวญี่ปุ่น มาไทยในปีนี้ ทางททท.ได้ตั้งเป้าไว้ไม่น้อยกว่า 350,000 คน สร้างรายได้ประมาณ 21,000 ล้านบาท หลังจากในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ ตั้งแต่ เดือนมกราคม-กันยายน มีจำนวนนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นสะสม 178,557 คน