‘ศิริปกรณ์ เชี่ยวสมุทร’เดินหน้าฟื้นตลาดระยะไกล ประสานงานทุกสายการบินขจัดปัญหาการเดินทาง

จากสถานการณ์การท่องเที่ยวของตลาดระยะไกลในภาพรวมของ ปี 2565 – 2566 รายได้น่าจะฟื้นตัวในสัดส่วน 30-35% ของภาพรวม เทียบกับปี 2562 ก่อนเกิดโควิด-19 คิดเป็นมูลค่าประมาณ 3 แสนล้านบาท จากเป้าหมายรายได้รวมทั้งปี 2565 ของภาคการท่องเที่ยวไทยที่ 1.2-1.5 ล้านล้านบาท ภายใต้การดึงเที่ยวบินกลับคืนมา โดยเฉพาะในตารางบินช่วงฤดูหนาวที่จะเริ่มในวันที่ 30 ตุลาคมนี้  

จับตาสถานการณ์เศรษฐกิจอย่างใกล้ชิด

โดย นายศิริปกรณ์ เชี่ยวสมุทร รองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง และอเมริกา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า อุปสรรคของตลาดระยะไกลคือ สายการบินที่ยังกลับมาบินไม่เหมือนเดิม โดยเฉพาะหากเทียบกับปี 2562 ทำให้ราคาค่าโดยสารแพงขึ้น แม้นักท่องเที่ยวจะยอมจ่ายก็ยังหาที่นั่งสำหรับการเดินทางไม่ได้ รวมถึงในเดือนพฤศจิกายนนี้จะมีการแข่งขันฟุตบอลโลกที่ประเทศกาต้าร์ ทำให้สายการบินกาตาร์ แอร์เวย์ และสายการบินในตะวันออกกลางจะบินรองรับนักกีฬาและแฟนบอลทั่วโลกเป็นการเฉพาะ ส่งผลให้ไม่มีการเพิ่มเที่ยวบินไปยังตลาดระยะไกล ทั้งสหรัฐฯ ยุโรป เพื่อบินเชื่อมมาประเทศไทย ซึ่งททท.อยู่ระหว่างประสานสายการบินต่างๆ ให้กลับมาบินให้มากที่สุด หรือจัดหาเที่ยวบินเช่าเหมาลำในตลาดที่นักท่องเที่ยวพร้อมเดิมทาง

ด้วยภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอยที่มีแนวโน้มจะเกิดขึ้นในปี 2566 ดังนั้นทางททท.จึงจับตากับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างใกล้ชิด เพื่อเจาะตลาดตรงกลุ่มให้คนจากประเทศเหล่านั้นเข้ามาพำนักในไทย ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายที่คุ้มค่ากว่าอยู่ในประเทศตัวเอง โดยเฉพาะกลุ่มดิจิทัล นอแมด ที่สามารถทำงานได้จากทุกที่ในโลก  

กลยุทธ์การตลาดของภูมิภาคยุโรป

โดย นายศิริปกรณ์ ยังได้กล่าวถึงกลยุทธ์การตลาดของภูมิภาคยุโรป ว่า แบ่งเป็น 1.รักษาฐานตลาดนักท่องเที่ยวคุณภาพ เพิ่มค่าใช้จ่าย และขยายวันพักกลุ่มรีพีทเตอร์ หรือท่องเที่ยวซ้ำ  สำหรับตลาดหลักอย่างอังกฤษ เยอรมัน ฝรั่งเศส นอร์ดิก และ 2.ส่งเสริมการเดินทางของกลุ่มเป้าหมายใหม่ อาทิ เป็นการเดินทางเที่ยวไทยครั้งแรก ในตะวันออกกลาง ซาอุดีอาระเบีย อิสราเอล คาซัคสถาน

ขณะที่ตลาดการท่องเที่ยวซาอุดีอาระเบียนั้น ทาง ททท.ได้กำหนดกลุ่มเป้าหมายออกเป็น 4 กลุ่ม คือ กลุ่มครอบครัว กลุ่มคนรุ่นใหม่ (Arab Millennials) กลุ่มสุขภาพ กลุ่มฮันนีมูน ทั้งนี้ข้อมูลได้ระบุ ว่า ในปี 2562 นักท่องเที่ยวจากซาอุดีอาระเบียมีอัตราพักค้างเฉลี่ยราว 13 คืน มีค่าใช้จ่ายต่อทริปสูงถึง 87,500 บาท และ ไตรมาสแรกของปีนี้มีนักท่องเที่ยวซาอุดีอาระเบียเดินทางมายังประเทศไทยแล้วกว่า 17,985 คน และคาดว่าทั้งปีจะมีจำนวนสูงถึง 100,000 คน

ด้านตลาดอเมริกา พบว่า แนวโน้มการท่องเที่ยวเปลี่ยนไป เน้นการเดินทางกับครอบครัว เลือกเดินทางเป็นจุด ๆ มากขึ้นกว่าการเดินทางไปยังหลายพื้นที่ และให้ความสำคัญกับการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน  ข้อมูลระบุว่าตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-วันที่ 31 สิงหาคม 2565 มีนักท่องเที่ยวเดินทางมายังประเทศไทย 242,756 คน จากเป้าที่วางไว้ที่ 750,000 คน

เร่งเจรจาสายการบินฟื้นเที่ยวบินตรง

อย่างไรก็ตาม นายศิริปกรณ์  กล่าวว่า เวลานี้ได้เร่งเจรจาสายการบิน ฟื้นเที่ยวบินตรง เปิดเส้นทางใหม่ โดยใช้วิธีการพูดคุยผ่านทั้งเอเย่นต์และการเจรจากับสายการบิน เพื่อให้กลับมาให้บริการเที่ยวบินที่เคยยกเลิกไป หรือเปิดเส้นทางบินใหม่ ๆ เข้าสู่ประเทศไทยได้เช่นเดิม ซึ่งจากฐานข้อมูล  Official Airlines Guide (OAG) โดยสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ชี้ว่าจำนวนที่นั่งของสายการบินที่เดินทางมาประเทศไทย มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น จากเดิมในตารางการบินฤดูร้อน ช่วงเดือนมีนาคม-ตุลาคม 2565 มีจำนวนที่นั่งต่อสัปดาห์จำนวน 329,288 ที่นั่ง ขณะที่ตารางบินฤดูหนาว ช่วงเดือนตุลาคม 2565-มีนาคม 2566 มีจำนวนที่นั่งต่อสัปดาห์จำนวน 573,538 ที่นั่ง เพิ่มขึ้น 74.18% โดยเส้นทางที่เพิ่มขึ้นมากที่สุด คือ เที่ยวบินจากภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก

เพราะฉะนั้นเมื่อจำนวนที่นั่งสายการบินเพิ่มขึ้นจึงน่าจะทำให้ราคาบัตรโดยสารโดยเฉลี่ยลดลง ด้วยเหตุนี้เองทาง ททท.จึงได้เตรียมดำเนินการเชิงรุก สื่อสารกับสายการบินเพื่อฟื้นเที่ยวบินกลับมาให้ได้มากที่สุด โดยอาจมีการเจรจากับสายการบิน เช่น EVA Air ให้กลับมาเปิดเส้นทางบินเดิม รวมถึงเส้นทางใหม่ เช่น กรุงเทพฯ-แฟรงก์เฟิร์ต, ปราก, ลอนดอน และสายการบินยังมีศักยภาพที่จะดึงนักท่องเที่ยวจากตลาดอเมริกาเข้าสู่ประเทศไทย พร้อมเจรจาสายการบินอื่น ๆ เช่น การบินไทย LOT สิงคโปร์แอร์ไลน์ส เป็นต้น

ทั้งนี้ นายศิริปกรณ์ กล่าวต่อว่า ในปี 2565 คาดว่ารายได้จากนักท่องเที่ยวตลาดยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง และอเมริกา จะมีสัดส่วนราว 30-35% ของรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมด ส่วนปี 2566 .ตั้งเป้าสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวอย่างสม่ำเสมอทั้งปี สนับสนุนการออกเดินทางทุกช่วงเวลา พร้อมดันรายได้จากการท่องเที่ยวเฉลี่ยให้เพิ่มขึ้นเป็น 75,000-80,000 ต่อคนต่อทริป นำมาสู่การกระตุ้นการพักค้างที่ยาวนานมากขึ้น