เริ่มแล้วเวที APPF ครั้งที่ 30 !!  "ชวน" ขอ 3 วันแห่งการถกเถียงจะนำไปสู่ข้อมติในทางปฎิบัติอย่างเป็นรูปธรรม เชื่อสามารถเปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาสได้ โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังมุ่งสร้างความเป็นหุ้นส่วน-ยึดมั่นในพันธกิจที่จะสร้างภูมิภาคนี้ขึ้นใหม่ มีความมั่นคงเข้มแข็ง ฟื้นฟูอย่างสมดุล ยั่งยืน มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง   

วันที่ 26 ต.ค.65 ที่รัฐสภา นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ในฐานะประธานการประชุม APPF ครั้งที่ 30  เป็นประธาน กล่าวเปิดการประชุม ระบุว่า ในนามรัฐสภาไทย ข้าพเจ้ามีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้ต้อนรับและส่งความปรารถนาดีจากประชาชนชาวไทย มายังผู้เข้าร่วมการประชุมประจำปีครั้งที่ 30 ของรัฐสภาภาคพื้นแปซิฟิก
โดยประเทศไทยภาคภูมิใจที่ได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพจัดประชุมรัฐสภาภาคพื้นแปซิฟิกอีกเป็นครั้งที่สอง เราใช้ความพยายามทั้งหมดในการทำให้การพำนักอยู่ในกรุงเทพฯ ของท่านได้รับความสำราญใจและมีผลิตผล ตั้งแต่มีการจัดตั้งขึ้นเมื่อต้นทศวรรษ 1990 

APPF ได้มีส่วนอย่างมากในการพัฒนาความร่วมมืออย่างบังเกิดผล การติดต่อสื่อสารกันอย่างใกล้ชิด และความเข้าใจซึ่งกันและกันในบรรดารัฐสภาที่เป็นสมาชิก ความผูกพันใกล้ชิดแห่งมิตรภาพและความร่วมมือที่เราได้หล่อหลอมไว้ในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา จะส่งเสริมความความพยายามร่วมกันของเราเพื่อนำมาซึ่งการฟื้นฟูหลังโควิด-19 ซึ่งจะนำไปสู่ความเติบโตและความมั่งคั่งรุ่งเรืองในภูมิภาค



การนำประเด็นเรื่อง "รัฐสภาและการพัฒนาอย่างยั่งยืนหลังโควิด-19"  มาเป็นหัวข้อการประชุมของเรา มาจากการตระหนักว่า โควิด-19 เป็นมากกว่าวิกฤติด้านสุขภาพ โรคระบาดนี้ส่งผลร้ายต่อชีวิตเกือบทุกด้านของเรา โดยมีผลกระทบรุนแรงต่อความก้าวหน้าไปสู่เป้าหมายแห่งการพัฒนาที่ยั่งยืน

"นั่นเป็นเหตุผลว่า เหตุใดเรา ในฐานะที่เป็นตัวแทนของประชาชน จึงมาร่วมประชุมกัน ณ ที่นี้ในวันนี้ เรามุ่งหมายที่จะเสริมสร้างความเป็นหุ้นส่วนและยึดมั่นในพันธกิจที่จะสร้างภูมิภาคนี้ขึ้นใหม่ให้มีความมั่นคงเข้มแข็งโดยการมุ่งไปที่การฟื้นฟูอย่างสมดุล ยั่งยืน และมีประชาชนเป็นศูนย์กลาง และดำเนินการให้บรรลุวาระ 2030 ของสหประชาชาติภายในช่วงเวลาที่เหลือของทศวรรษแห่งการดำเนินการอย่างจริงจัง" นายชวน กล่าว 
 
นายชวน กล่าวด้วยว่า ขอแบ่งปันแนววิธีการดำเนินงาน 2 แนวด้วยกันในเร่งรัดให้บรรลุเป้าหมายแห่งการพัฒนาอย่างยั่งยืนในประเทศไทย แนววิธีการแรก คือ ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้ทรงดำริไว้เพื่อวัตถุประสงค์แห่งการสร้างสมดุลในชีวิต 4 ด้านด้วยกัน ได้แก่ ด้านเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และสิ่งแวดล้อม แนววิธีการที่สอง ได้แก่ ตัวแบบเศรษฐกิจชีวภาพ-เศรษฐกิจหมุนเวียน-เศรษฐกิจสีเขียว หรือ BCG ซึ่งเป็นที่ยอมรับแล้วอย่างกว้างขวางสำหรับการฟื้นฟูภูมิภาคหลังโควิด-19 
 
ทั้งนี้ในฐานะผู้แทนของปวงชน APPF ยึดถือพวกเขาเหล่านี้เป็นศูนย์กลาง โดยการส่งเสริมความไว้เนื้อเชื่อใจซึ่งกันและกัน ความเป็นเอกภาพ และการดูและอย่างครอบคลุมทุกฝ่ายโดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง เราสามารถเปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาสได้   สำหรับการประชุมครั้งนี้ กลุ่ม Young Parliamentarians Caucus แห่งประเทศไทยจะเข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ด้วย เพื่อส่งเสริมหลักการไม่ทิ้งใครไว้เบื้องหลังตามแนวทางของโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP)

ท้ายที่สุดนี้ ตนมีความมั่นใจว่า ช่วงเวลา 3 วันแห่งการพิจารณาถกเถียงจะนำไปสู่ข้อมติอย่างเป็นรูปธรรมและมีสาระ ซึ่งจะตามมาด้วยการดำเนินงานในทางปฏิบัติ เมื่อกล่าวเช่นนี้แล้ว ตนมีความยินดีที่จะประกาศเปิดประชุมประจำปีรัฐสภาภาคพื้นแปซิฟิกครั้งที่ 30 อย่างเป็นทางการ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมครั้งนี้มีประธานรัฐสภา ประธานสภาผู้แทนราษฎร และ ผู้แทนประเทศ สมาชิก ทั้ง28 ประเทศ จากอนุภูมิภาคต่าง ๆ ในเอเชียและแปซิฟิก ซึ่งได้แก่ ออสเตรเลีย กัมพูชา แคนาดา ชิลี จีน โคลัมเบีย เอกวาดอร์ คอสตาริกา ฟิจิ อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น สาธารณรัฐเกาหลี ลาว มาเลเซีย หมู่เกาะมาร์แชลล์ เม็กซิโก ไมโครนีเซีย มองโกเลีย นิวซีแลนด์ ปาปัวนิวกินี เปรู ฟิลิปปินส์ รัสเซีย สิงคโปร์ ไทย สหรัฐอเมริกา เวียดนาม และบรูไนดารุสซาลาม

นอกจากนี้ ยังมีนายเท็ดรอส อัดฮานอม กีบรีเยซุส (Dr.Tedros Adhanom Ghebreyesus) ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก (WHO)  ร่วมกล่าวถ้อยแถลงด้วย เข้าร่วมการประชุมอย่างพร้อมเพรียง
 
อย่างไรก็ตามหลังจากพิธีเปิด 
นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ได้แถลงถึงการประชุมในครั้งนี้ ว่า  เป็นการประชุมเพื่อการเร่งรัดพัฒนาที่ยั่งยืนภายหลังจากมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด -19 โดยคำนึงถึงการสำคัญในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนและมีผลประโยชน์ร่วมกัน 
สำหรับการจัดประชุมครั้งต่อไป ที่เจ้าภาพต้องเป็นประเทศรัสเซีย แต่ได้รับหนังสือจากตัวแทนประเทศรัสเซียว่าไม่ขอรับเป็นเจ้าภาพ ดังนั้นจึงได้มีประเทศที่เสียสละในช่วงเวลากะทันหันคือประเทศฟิลิปปินส์ที่ยินดีรับเป็นเจ้าภาพในปีต่อไป 
 
ในการประชุมครั้งนี้มีการพูดถึงเรื่องที่เกี่ยวกับปัญหาโควิด 19 และรวมถึงปัญหาอื่นๆ ซึ่งมองว่าทุกคนมีสิทธิ์เสนอประเด็นต่างๆ แต่ในวันสุดท้ายเชื่อว่าจะสรุปประเด็นที่จะทำร่วมกันได้ และที่สำคัญการประชุมครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกหลังจากเกิดการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด -19 ที่ได้มาพบเจอกันไม่ต้องผ่านทางออนไลน์ โดยไม่ต้องเป็นกังวลเรื่องการติดเชื้อโควิด 19 มากจนเกินไปแต่ด้วยระเบียบกฎเกณฑ์ของประเทศไทยก็ยังมีการสวมหน้ากากอนามัยอยู่ ยกเว้นผู้อภิปรายก็สามารถถอดหน้ากากได้