ชาวบ้าน ต.เขาคอก อ.ประโคนชัย รวมตัวบุกศาลากลางจังหวัดยื่นหนังสือผู้ว่าฯ เดินหน้า เพิกถอนอาชญาบัตรผูกขาดสำรวจแร่ 2 บริษัทเอกชน ไม่ให้เข้าไปสำรวจขุดเจาะหาแร่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติเขาคอก แหล่งภูเขาไฟ หวั่นผลกระทบสร้างความเสียหายต่อทรัพยากรธรรมชาติ โบราณสถาน และวิถีชีวิต ขณะจังหวัดรับเรื่องตรวจสอบข้อเท็จจริง เสนอไปกระทรวงอุตสาหกรรมพิจารณาต่อไป
วันนี้ (25 ต.ค.2565) ตัวแทนชาวบ้าน หมู่ 1 และ หมู่ 15 ต.เขาคอก อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ประมาณ 30 คน ในนาม “กลุ่มคนรักษ์ภูเขาไฟเขาคอก” ได้รวมตัวกันเดินทางมาถือป้ายประท้วง ที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดบุรีรัมย์ ต.เสม็ด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ เพื่อยื่นหนังสือให้กับ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ ขอให้เพิกถอนอาชญาบัตรผูกขาดสำรวจแร่ของ 2 บริษัทเอกชน ในเขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ บ้านเขาคอกหมู่ที่ 1 ต.เขาคอก อ.ประโคนชัย ซึ่งเป็นแหล่งภูเขาไฟ 1 ใน 6 ลูกของจังหวัด
ทั้งนี้ ตามที่อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ออก อาชญาบัตรผูกขาดสำรวจแร่ ให้แก่ 2 บริษัทเอกชน เพื่อทำการสำรวจหินบะซอลต์ที่ใช้ในอุตสาหกรรมก่อสร้าง ในพื้นที่ตำบลเขาคอก อำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์ รวมเนื้อที่ทั้งหมด 3,052 ไร่ ซึ่งพื้นที่ตังกล่าวอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ โดยผู้ถืออาชญาบัตรผูกขาดสำรวจแร่จะเข้าสำรวจ (โดยวิธีการเจาะสำรวจ) ได้ยื่นคำขออนุญาตให้เข้าไปศึกษาวิจัยทางวิชาการภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติ
โดยที่ผ่านมา เมื่อ วันที่ 27 กรกฎาคม 2565 เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัดบุรีรัมย์ได้เข้าไปทำประชามติกับประชาชนแล้ว ปรากฎว่าประชาชนในพื้นที่ไม่ให้ความยินยอม ในการเข้าสำรวจด้วยเหตุผลตังต่อไปนี้ เดิมทีที่ดินดังกล่าวเป็นป่าชุมชนที่ประชาชนใช้ร่วมกัน ในพื้นที่ดังกล่าว บางส่วนท่านทราบดีอยู่แล้วว่ารัฐมีการจัดสรรปันส่วนให้กับประชาชนทำประโยชน์ เพื่อการเกษตร (สปก.) และประชาชนบางส่วนได้เข้าไปทำประโยชน์การเกษตรเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน อันเป็นการจัดสรรให้ประชาชนที่ไม่มีที่ดินทำกิน ได้มีที่ดินทำกินต่อไป
ในพื้นที่ดังกล่าว บางส่วน พบโครงสร้างทางธรณีวิทยา (ปากปล่องภูเขาไฟ) ที่มีลักษณะทางกายภาพเป็นพิเศษอันมีคุณค่าเกี่ยวกับการศึกษาวิจัยและอนุรักษ์ และยังพบซากดึกดำบรรพ์ โบราณวัตถุที่ควรคำแก่การอนุรักษ์และให้การคุ้มครองตามกฎหมาย และเป็นแหล่งเรียนรู้ ศึกษาประวัติศาสตร์ ซึ่งหากมีการเข้าสำรวจเพื่อขุดเจาะสำรวจแร่ จะเป็นการทำลายธรรมชาติโดยรอบ และทำลายวัตถุโบราณ และทำลายโครงสร้างธรณีวิทยาอย่าถาวรและมิอาจทำให้กลับมาได้ดั่งเดิมได้อีก จึงขอให้ทางผู้ว่าราชการจังหวัด ได้พิจารณาและดำเนินการส่งเรื่องพร้อมเหตุผลให้อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่เพื่อเพิกถอนอาชญาบัตรผูกขาดสำรวจแร่ ของ 2 บริษัทเอกชน ต่อไป
นายชำนิจ ดีมาก ตัวแทนชาวบ้าน หมู่ 1 ต.เขาคอก อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ กล่าวว่า วันนี้ชาวบ้านมายื่นหนังสือให้ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจารณา ยื่นเรื่องไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามขั้นตอน เพื่อเพิกถอนอาชญาบัตรผูกขาดสำรวจแร่ ที่ได้มีการออกแก่ 2 บริษัทเอกชน ซึ่งมีสิทธิ์เข้าไปสำรวจแร่ ในพื้นที่ป่า
นายชำนิจ กล่าวต่อว่า ถึงจะมีการดำเนินการขออนุญาตถูกต้องตามขั้นตอนของกฎหมาย แต่ชาวบ้านก็ไม่อยากให้เข้าไปสำรวจ ซึ่งจะส่งผลกระทบทั้งด้านสิ่งแวดล้อม ชีวิตความเป็นอยู่ เพราะป่าเขาคอกทุกวันนี้อุดมสมบูรณ์ดี เปรียบเสมือนตู้เย็นของหมู่บ้าน ชาวบ้านในพื้นที่ 4 ตำบล 3 อำเภอ ใช้ประโยชน์ร่วมกันหาของป่า หากการยื่นหนังสือครั้งนี้ไม่เป็นผลก็จะยกระดับการร้องเรียนต่อไป
ต่อมา นายชุมพล ภูผานิล ผู้อำนวยการกลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรม จ.บุรีรัมย์ เป็นตัวแทนผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ ได้ลงมารับหนังสือร้องเรียนจากชาวบ้าน เพื่อให้ทางจังหวัดพิจารณาเกี่ยวกับการเพิกถอนอาชญาบัตรผูกขาดสำรวจแร่ 2 บริษัทเอกชน ซึ่งการพิจารณาอนุญาตในอาชญาบัตรเป็นอำนาจของทางกระทรวงอุตสาหกรรม ทางจังหวัดรับเรื่องแล้วก็จะแจ้งอุตสาหกรรมให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง แล้วพิจารณาเสนอไปยังกระทรวงอุตสาหกรรมว่า จะสามารถที่จะดำเนินการตามข้อเรียกร้องของชาวบ้านได้หรือไม่
ส่วนขั้นตอนในการขอใช้พื้นที่ เท่าที่ทราบจากทางอุตสาหกรรมอยู่ระหว่างการดำเนินการขออนุญาตจากกรมป่าไม้ เนื่องจากพื้นที่ที่ออกอาชญาบัตรเป็นพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ จะต้องไปขออนุญาตทางกรมป่าไม้ก่อน จึงจะเข้าสำรวจได้
ซึ่งภายหลังชาวบ้านยื่นหนังสือ และรับฟังคำชี้แจงจากทางจังหวัดบุรีรัมย์ ชาวบ้านต่างพอใจ จึงสลายตัวกลับไปในเวลาต่อมา