วันที่ 20 ต.ค.65 ที่ สภ.บางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ พ.ต.อ.จักรพงศ์ นุชผดุง ผกก.สภ.สำโรงใต้ พ.ต.อ.นิรันดร ฟักสุบัน ผกก.สภ.บางเสาธง พ.ต.อ.ภูริส จินตรานันท์ ผกก.สืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ ร่วมกัน แถลงข่าว การจับกุมผู้ต้องหาที่ก่อเหตุทำร้ายร่างกาย ในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ จำนวน 3 คดี โดยแยกเป็นของ สภ.บางเสาธง 2 คดี และ สภ.สำโรงใต้ 1 คดี รวมผู้ต้องหากว่า 20 คน โดยส่วนมากผู้ก่อเหตุยังเป็นเยาวชน โดยที่เจ้าหน้าที่ได้ยึดของกลาง เป็น อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ จำนวน 2 กระบอก กระสุนปืนลูกซอง จำนวน 7 นัด มีดดายหญ้า จำนวน 1 เล่ม พร้อมยานพาหนะในการก่อเหตุ มีทั้งรถจักรยานยนต์ และ รถยนต์กระบะ
โดยคดีที่ 1 ในพื้นที่ สภ.สำโรงใต้ เหตุเกิด เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2565 เวลาประมาณ 20.28 น. สภ.สำโรงใต้ ได้รับแจ้งเหตุ มีผู้ถูกทำร้ายร่างกายด้วยอาวุธมีดได้รับบาดเจ็บสาหัส ถูกอาวุธมีด ฟันที่ศีรษะและลำตัว เหตุเกิดหน้าบ้านเช่าไม่มีชื่อ ซอยต้นโพธิ์ หมู่ 17 ต.บางหญ้าแพรก อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ต่อมาญาติจึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีกับผู้ที่ร่วมกันก่อเหตุ ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ และ เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สถานีตำรวจภูธรสำโรงใต้ ได้ร่วมกันบูรณาการกำลังเพื่อเร่งรัดสืบสวนจนกระทั่งสามารถติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาที่ร่วมกันก่อเหตุทั้งหมดพร้อมของกลาง
คดีที่ 2 ในพื้นที่ สภ.บางเสาธง เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2565 เวลาประมาณ 00.20 น ได้มีเหตุทำร้ายร่างกายนายอาณัติ (ขอสงวนนามสกุล) หรือขวัญ อายุ 17 ปี และ น.ส.นงเนตร (ขอสงวนนามสกุล) ภรรยาซึ่งถูกฟันได้รับบาดเจ็บที่หัวไหล่ซ้าย และฟกช้ำบริเวณร่างกาย เหตุเกิดที่บริเวณริมถนนวัดศรีวารีน้อย ต.ศีรษะจรเข้น้อย อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ ซึ่งผู้บาดเจ็บเรียนอยู่ที่สถาบันอาชีวะแห่งหนึ่ง และทราบว่ากลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุเป็นนักเรียนอาชีวะอีกแห่งหนึ่ง ที่เคยมีเรื่องทะเลาะวิวาทกันมาก่อนจำนวนหลายครั้ง จากการสืบสวนทราบว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุมีจำนวน 7 คน ซึ่งทั้งหมดเป็นเยาวชน โดยกลุ่มผู้ก่อเหตุใช้รถยนต์กระบะ แบบแค๊ป สีเข้ม ไม่ทราบทะเบียน เป็นยานพาหนะในการก่อเหตุและ หลบหนี ต่อมาวันที่16 ตุลาคม 2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ร่วมกันทำการจับกุม นายกฤษดา (ขอสงวนนามสกุล) หรือเอ็ม อายุ 17 ปี และนายภูริวัฒน์ (ขอสงวนนามสกุล) หรือฟาฮัต อายุ 17 ปี พร้อมด้วยของกลาง อาวุธปืนแบบไทยประดิษฐ์ ไม่ทราบขนาด ไม่มีหมายเลขทะเบียน จำนวน 1 กระบอก เครื่องกระสุนปืนลูกซองขนาดเบอร์ 12 จำนวน 7 นัด และ อาวุธมีดแบบซามูไร ความยาวรวมด้าม 60 ซ.ม จำนวน 1 เล่ม โดยกล่าวหาว่า ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ / มีอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่ / พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว / ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้านหรือที่ชุมนุมชน / พาอาวุธมีดไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุสมควร
สอบถามเบื้องต้น ให้การรับว่าได้ร่วมกับพวกที่หลบหนีก่อเหตุรุมทำร้าย นายอาณัติ และ น.ส.นงเนตร จริงแล้วได้แยกย้ายกันหลบหนีซึ่งตนได้เอาอาวุธปืนและมีดที่ใช้ในการก่อเหตุมาเก็บซุกซ่อนไว้ทั้งนี้ฝ่ายสืบสวนได้ติดตามตัวผู้ร่วมก่อเหตุที่เหลือโดยได้ประสานและกดดันไปยังผู้ปกครองของผู้ร่วมก่อเหตุให้เข้ามอบตัว ต่อมาผู้ต้องหาที่เหลือ ได้เข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน ได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบ และ ตรวจยึดรถยนต์กระบะ ยี่ห้อ อีซูซุ สีเทา ทะเบียนนครราชสีมา
ส่วนคดีที่ 3 ในพื้นที่ สภ.บางเสาธง เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2565 เวลาประมาณ 01.00 น ได้มีเหตุทำร้ายร่างกายที่บริเวณหน้าร้านสนุ๊กเกอร์แห่งหนึ่ง ม.16 ต.บางเสาธง อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 3 คน ซึ่งจากการสืบสวนทราบว่า มีผู้ร่วมก่อเหตุจำนวน 14 คน โดยที่ทั้งหมดเป็นเยาวชน โดยที่เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน / พาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุสมควร และ ยึดจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุ จำนวน 4 คัน จากการสืบสวนทราบว่า 1 ในกลุ่มผู้ก่อเหตุ ได้รับบาดเจ็บ เข้ารักษาตัวที่ รพ.บางบ่อ จึงได้ไปทำการตรวจสอบ พบนายสรวิศ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 18 ปี และ นายสรวิศ (ขอสงวนนามสกุล) หรือเวฟ ให้การว่า ตนพร้อมพวกประมาณ 13 คน ได้เข้าไปก่อเหตุทำร้ายร่างกายชายไทยไม่ทราบชื่อที่บริเวณหน้าร้านสนุ๊กเกอร์ดังกล่าว ช่วงเวลาประมาณ 00.50 น จริง โดยก่อนเกิดเหตุ ตนและพวกรวม 4 คน ได้มาเล่นสนุกเกอร์ อยู่ที่ร้านสนุ๊กเกอร์ดังกล่าว ระหว่างกำลังเล่นสนุ๊กเกอร์อยู่นั้น เพื่อนตนชื่อนายเจ (ไม่ทราบชื่อสกุลจริง) อายุประมาณ 19 ปี ได้บอกกับตนเองว่า นายบีม โต๊ะด้านข้างเคยขอมีเพศสัมพันธ์กับแฟนของนายเจ ซึ่งทำให้นายเจ ไม่พอใจ หลังจากเล่นสนุ๊กเกอร์เสร็จเวลาประมาณ 00.40 น. นายเจ ได้โทรตามเพื่อนจากทางวัดบางพลีน้อย ให้มาเจอกันบริเวณหน้าร้านสนุ๊กเกอร์ เพื่อรอดักทำร้ายนายบีม และเมื่อกลุ่มของนายบีม ออกมาจากร้านสนุ๊กเกอร์ ตนกับพวกได้ขับรถจักรยานยนต์ไปประกบทางด้านหลัง และมีเพื่อนไม่ทราบว่าเป็นผู้ใดใช้ระเบิดปิงปองปาเข้าไปยังกลุ่มของนายบีม และจากนั้นตนพร้อมพวกได้เข้าไปรุมทำร้ายร่างกาย นายบีม ซึ่งขณะนั้น ตนไม่ทราบว่าตนโดนมีดดาบของผู้ใดฟันมาถูกบริเวณที่มือข้างขวา จึงได้ขึ้นรถจักรยานยนต์ ที่นายเจ ไม่ทราบชื่อสกุลจริงเป็นผู้ขับขี่พาตนมาส่งที่รพ.บางบ่อ เพื่อทำการรักษา และ ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามมาจับกุม
พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ กล่าว่า ในคดีทั้ง 3 เคส ในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ นั้น ทางชุดสืบสวนได้ใช้เวลาไม่ถึง 7 วัน ก็สามารถจับกุมตัวผู้ก่อเหตุได้ทั้งหมด 20 กว่าคน ซึ่งเกือบทั้งหมดเป็นเยาวชน ซึ่งบางส่วนก็ได้เข้ามามอบตัว จึงอยากขอประชาสัมพันธ์ถึงผู้ปกครองของเด็กด้วยว่า อยากให้ผู้ปกครองให้เวลากับเด็ก และ สังเกตพฤติกรรมของลูกหลาน มีพฤติการณ์เบี่ยงเบน หรือ คบกลุ่มเพื่อนอาจจะพาไปทำสิ่งผิดกฎหมาย หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ก็สามารถเข้าไปดูแลใกล้ชิด และ สามารถเปลี่ยนพฤติกรรมได้ โดยในช่วงนี้ ทาง ผบ.ตร. / รอง.ผบ.ตร. / ผบก.ภ.1 ได้มีนโยบายกวาดล้างอาชญากรรมในพื้นที่ โดยจับกุมเรื่องของยาเสพติด โดยที่เมื่อสัปดาห์ที่แล้วจังหวัดสมุทรปราการ ได้จับกุมผู้เสพยาเสพติดได้ 170 คน โดยที่หลังจากนี้ก็จะกวาดล้างอยู่เรื่อยๆ โดยหลัง 4 ทุ่ม ได้จัดชุดปฏิบัติการตรวจตระเวณในสถานที่เสี่ยง หากหลัง 4 ทุ่ม พบเด็กเยาวชน ที่มีพฤติการณ์ที่ไม่เหมาะสม ทางเจ้าหน้าที่จะนำตัวมาทำประวัติที่โรงพัก ก่อนที่จะเรียกผู้ปกครองมารับตัว